หลังจากที่ Volkswagen ได้เปลี่ยนปุ่มกดที่พวงมาลัยจากแบบสัมผัสมาเป็นแบบกดได้จริง เนื่องจากได้รับเสียงบ่นจากลูกค้าจำนวนมากนับตั้งแต่ทางค่ายได้เปลี่ยนรูปแบบของปุ่มควบคุมครั้งใหญ่ ถึงคราวแบรนด์หรูในเครืออย่าง Audi ที่จะเดินรอยตามการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้อัพเกรด ระบบช่วยเหลือการขับขี่ใหม่และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะที่เหนือกว่าเดิม

โดยรุ่นที่ Audi จะทำการอัพเกรด ได้แก่ A5 A6 Q5 A6 e-tron และ Q6 e-tron โดย Audi ระบุว่าการอัพเกรดครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การปรับซอฟต์แวร์หรือระบบความปลอดภัยเท่านั้น แต่มุ่งเน้นให้ตัวรถสามารถตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นและยังขับสนุกมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม Audi ไม่ได้ยืนยันว่าการปรับปรุงทั้งหมดนี้จะถูกนำไปใช้ในตลาดสหรัฐฯ หรือไม่

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่สุดคือการเปลี่ยนไปใช้ปุ่มควบคุมที่กดได้จริงบนพวงมาลัย หลังจากที่ Audi ได้ทดลองใช้ปุ่มควบคุมแบบระบบสัมผัสมาหลายปี แต่ก็ได้เสียงตอบรับในเชิงลบเช่นเดียวกันกับ Volkswagen โดยลูกค้าหลายรายบ่นว่าใช้งานยากและทำให้เกิดการกดผิดโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป Audi รุ่นดังกล่าวจะมาพร้อมพวงมาลัยแบบใหม่ พร้อมแป้นหมุนควบคุมแบบเลื่อน (scroll controller) ข้างละ 1 ชุด เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้โดยง่าย

การอัพเกรดส่วนอื่นๆ รุ่นสมรรถนะสูงอย่าง S5 และ S6 e-tron Audi จะเพิ่มโหมดการขับขี่ Dynamic Plus ซึ่งจะยกระดับความสนุกในการขับขี่ ทำให้รถควบคุมได้เฉียบคมยิ่งขึ้น ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน quattro และระบบ vectoring ขั้นสูง นอกจากนี้สำหรับ Audi A6 ใหม่จะได้รับไฟหน้าแบบ Digital Matrix LED และไฟท้าย OLED แบบกำหนดการแสดงผลของแสงได้ ช่วยให้รูปลักษณ์และประสบการณ์ใช้งานมีความล้ำสมัยมากขึ้น

สำหรับรถที่พัฒนาขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน Premium Platform Electric (PPE) ระบบ Regenerative brake จะถูกพัฒนาใหม่ให้ละเอียดยิ่งขึ้น พร้อมรองรับโหมดการขับขี่แบบ one-pedal driving อย่างแท้จริง ซึ่งช่วยให้รถสามารถหยุดได้โดยไม่ต้องพึ่งพาระบบเบรกหลัก

ในด้านระบบช่วยขับขี่ Audi กำลังเพิ่มฟังก์ชั่นการเปลี่ยนเลนแบบอัตโนมัติ เพียงผู้ขับเปิดไฟเลี้ยว ระบบจะประเมินสภาพจราจรและเปลี่ยนเลนให้โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันช่วยจอดอัตโนมัติที่สามารถเรียนรู้เส้นทาง ซึ่งสามารถนำรถเข้าหรือออกจากพื้นที่จอดได้ไกลสูงสุด 200 เมตร โดยอาศัยเส้นทางที่บันทึกไว้ล่วงหน้า

อีกหนึ่งออฟชั่นที่คนไทยจะต้องชื่นชอบได้แก่ กล้องบันทึกภาพแบบติดตั้งโรงงาน (Factory Dashcam) ที่รองรับความละเอียดระดับ 4K สามารถบันทึกภาพระหว่างขับขี่และขณะจอดรถ ช่วยลดความจำเป็นในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมในภายหลัง

ระบบความบันเทิงภายในรถก็ได้รับการปรับปรุงเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าที่สามารถเชื่อมต่อจอยเกมผ่านระบบ Bluetooth ได้ รองรับการเล่นเกมระหว่างชาร์จหรือรออยู่ในรถ

ที่มา: Carscoops