หลังจากที่ Ford ได้หยุดสายพานการผลิต Focus คันสุดท้ายลงไปไม่นานนี้ แฟนๆ Ford อาจจะคิดถึงชื่อรุ่น Mondeo ที่ห่างหายไปจากทวีปยุโรป หลายคนคิดว่า Ford ได้ยุติการทำรถเก๋งหมดทั้งไลน์อัพ เสียแล้ว แต่ Ford ยังคงทำตลาด Mondeo อย่างต่อเนื่องในจีน และยังได้ปรับโฉมครั้งสำคัญสำหรับ Model Year 2026 โดยเปิดตัวต่อสาธารณะชนในงานมหกรรมยานยนต์ Guangzhou Auto Show 2025 ก่อนเตรียมวางจำหน่ายในจีนเร็วๆ นี้
ถึงแม้ชื่อ “Mondeo” จะถูกนำไปใช้ทำตลาดตะวันออกกลางภายใต้ชื่อ Taurus แต่รถรุ่นนี้แท้จริงแล้วพัฒนาบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน Mondeo มากกว่า ทั้งมิติตัวถังที่เล็กกว่าและมาพร้อมเครื่องยนต์ Downsizing จึงทำให้ตลาดบางประเทศยังคงมีรถเก๋ง Ford ให้เลือก ถึงแม้ว่าบริษัทจะหันไปเน้นรถกระบะ SUV และรถครอบครัวเป็นหลัก
Mondeo รุ่นที่ขายในจีนเป็นผลผลิตของบริษัทร่วมทุน Changan Ford เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 ทำให้ถึงรอบการปรับโฉมครั้งใหญ่ ขณะที่งานออกแบบด้านหน้าได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยเปลี่ยนชุดไฟหน้าแบบแยกส่วนและเปลี่ยนเป็นโคมไฟเดี่ยวที่ให้ลุคคล้าย Mustang มากกว่า พร้อมเปลี่ยนงานออกแบบไฟ Daytime running
ด้านข้างยังคงใช้เส้นสายแบบเดิมของรุ่นก่อนหน้าในลักษณะหลังคาทรง Fastback และมือจับประตูแบบซ่อนอยู่ในตัวถัง ส่วนล้ออัลลอยถูกออกแบบใหม่เป็นสีทูโทนขนาด 21 นิ้ว พร้อมหลังคาและเสา A–D ที่เป็นสีดำตัดกัน ด้านท้ายยังคงรูปทรงไฟเดิมแต่ปรับกราฟิกภายในใหม่และปรับดีไซน์ไฟเบรกดวงที่สามใหม่ พร้อมสีตัวถังใหม่ 2 เฉด ได้แก่ สีแดง Crimson Red และสีฟ้า Ocean Blue
ห้องโดยสารของ Mondeo 2026 ยังคงเน้นหน้าจอเป็นหลักตามสไตล์รถที่วางจำหน่ายในจีน โดยใช้จอไวด์สกรีนขนาด 27 นิ้ว ความละเอียด 4K ครอบทั้งคอนโซลหน้าและมีหน้าจอ Digital ขนาด 12.3 นิ้วอยู่ภายในแผงเดียวกัน อย่างไรก็ตาม Ford ตอบรับเสียงผู้ใช้ด้วยการเพิ่มปุ่มกดได้จริง ติดตั้งอยู่ใต้ช่องแอร์กลาง เพื่อให้ควบคุมได้สะดวกยิ่งขึ้น
คอนโซลกลางแบบลอยตัวได้รับการปรับให้รองรับแท่นชาร์จโทรศัพท์ไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟนสองเครื่อง ขณะที่ระบบ Infotainment SYNC+ รุ่นล่าสุด ทำงานบนชิปประมวลผล Qualcomm รุ่นใหม่ ประสิทธิภาพสูงขึ้น มีผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะและรองรับการอัปเดต OTA แบบเต็มระบบ เพื่อปรับฟังก์ชันโดยไม่ต้องเข้าศูนย์บริการ
ทางด้านขุมพลังมีให้เลือก 3 รูปแบบ เริ่มที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์ ให้กำลังสูงสุด 193 แรงม้า และอัพเกรดเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร พละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 257 แรงม้า ขณะที่รุ่นขุมพลัง Hybrid ที่พัฒนาใหม่บนพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้พละกำลังรวม 284 แรงม้า โดยทุกรุ่นจะขับเคลื่อนล้อหน้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขณะที่รุ่น Hybrid ใช้เกียร์ CVT
คาดว่าการปรับโฉมครั้งนี้จะถูกนำไปใช้กับ Mondeo Sport (เดิมคือ Ford Evos) ซึ่งเป็นรถครอสโอเวอร์ทรง Fastback ที่ทำตลาดคู่กัน ถึงแม้ทั้งสองรุ่นจะไม่ถูกวางขายในตลาดโลก แต่มีรายงานว่า Ford วางแผนเปิดตัวรถเก๋งเจเนอเรชันใหม่สำหรับยุโรปในช่วงปลายทศวรรษนี้ โดยมีข่าวลือหนาหูยิ่งขึ้นว่าอาจมีการพัฒนา Mustang ตัวถังซีดาน 4 ประตู สำหรับตลาดอเมริกาในอนาคต
ที่มา: Motor1
