Porsche กำลังเตรียมปรับงานวิศวกรรมพื้นฐานของ 718 Boxster และ Cayman เจเนอเรชันใหม่ เพื่อให้รองรับเครื่องยนต์เบนซิน หลังจากก่อนหน้านี้ได้วางแผนให้ทั้ง 2 รุ่นเป็นรถสปอร์ตขุมพลังไฟฟ้าล้วนเท่านั้น ถือเป็นการกลับลำครั้งสำคัญในกลยุทธ์ด้านระบบขับเคลื่อนของแบรนด์

หลังจากที่ทาง Porsche ได้ยุติสายพานการผลิตของ 718 Boxster และ Cayman เจเนอเรชันที่ 4 เมื่อเดือนที่ผ่านมา เดิมที Porsche วางแผนเปิดตัวรุ่นขุมพลังไฟฟ้าล้วนภายในปี 2025 นี้ อย่างไรก็ตาม จากความต้องการของรถ EV ที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง Porsche ได้ประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะยังคงจำหน่ายรุ่นท็อปของเจเนอเรชันปัจจุบันต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นรุ่น RS และ GT4 RS สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะสูงสุด

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ “การปรับกลยุทธ์ใหม่” (Strategic Realignment) ของบริษัท ซึ่งส่งผลให้ Porsche ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 6.65 พันล้านปอนด์ (ประมาณ 281,684,000,000 บาท) ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากศูนย์วิศวกรรม Weissach เปิดเผยกับ Autocar ว่า Porsche กำลังพัฒนางานวิศวกรรมพื้นฐาน PPE Sport ให้รองรับเครื่องยนต์วางกลางแบบสันดาป ซึ่งแต่เดิมออกแบบสำหรับ 718 ขุมพลังไฟฟ้าเท่านั้น

 

กลยุทธ์ใหม่นี้ยังส่งผลต่อรุ่นอื่น ๆ ในไลน์อัพที่เดิมถูกวางให้เป็นรถไฟฟ้าล้วน เช่น Macan ซึ่งขณะนี้เตรียมกลับมาใช้เครื่องยนต์สันดาปเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ 718 ที่พัฒนาบน PPE Sport จะเป็นคนละกลุ่มกับรุ่น RS และ GT4 RS ของเจเนอเรชันปัจจุบัน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นรุ่นคั่นกลางจนกว่า 718 เจเนอเรชันที่ 5 จะเปิดตัวในช่วงปลายทศวรรษนี้

อย่างไรก็ตาม วิศวกรของ Porsche ย้ำว่ารุ่นเครื่องยนต์สันดาปเจเนอเรชันใหม่จะต้องมีสมรรถนะการขับขี่ทัดเทียมกับรุ่นไฟฟ้า ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจาก PPE Sport มีจุดเด่นด้านจุดศูนย์ถ่วงต่ำจากแบตเตอรี่ที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรับแรง หากถอดแบตเตอรี่ออก โครงสร้างตัวถังจะสูญเสียความแข็งแรงไปอย่างมีนัยสำคัญ

 

แนวทางแก้ไขคือการพัฒนาชุดพื้นโครงสร้างใหม่ที่สามารถยึดเข้ากับจุดรับแรงเดิมของ Platform เพื่อชดเชยความแข็งแรงที่หายไป พร้อมออกแบบผนังกั้นหลังและซับเฟรมใหม่สำหรับรองรับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดด้านการจัดวางเนื่องจากโครงสร้างเดิมไม่มีอุโมงค์กลาง ทำให้ไม่มีพื้นที่สำหรับถังน้ำมัน ท่อเชื้อเพลิง หรือระบบไอเสีย

ก่อนหน้านี้ Porsche เคยประเมินว่าเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ 4.0 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ จะไม่สามารถผ่านมาตรฐาน Euro 7 ฉบับแรกได้ แต่กฎระเบียบที่ผ่อนคลายลง รวมถึงข้อยกเว้น e-fuel หลังปี 2035 ทำให้การพัฒนารถสปอร์ตเครื่องยนต์เบนซินกลับมามีความเป็นไปได้ทางธุรกิจอีกครั้ง ถึงแม้ยังไม่มีการเผยรายละเอียดของเครื่องยนต์ที่จะนำมาใช้ แต่แผนล่าสุดที่นำเสนอโดย Oliver Blume CEO ที่กำลังจะพ้นตำแหน่ง ระบุว่าตัวเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดคือการพัฒนาเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 6 สูบ 4.0 ลิตร ซึ่งในเวอร์ชัน GT4 RS ให้กำลังได้สูงสุดถึง 493 แรงม้า

ที่มา: Autocar UK