ผมเชื่อว่าทุกคนที่เห็นภาพหลุดแบบไม่ปิดบังครั้งแรก (เสียที) จากเว็บไซต์ Hyundai-Blog.com ต้องอ้าปากค้างปนความประหลาดใจว่า นี่น่ะหรือรถซีดานขนาดกลางเรือธงทำตลาดทั่วโลกของค่ายรถที่เที่ยวลดราคาสร้างยอดขายไปทั่ว ไม่น่าเชื่อว่าจะพลิกโฉมมาสู่แนวล้ำสมัยได้ถึงเพียงนี้ ไม่น่าเชื่อว่าฮุนไดจะกล้าฉีกแนว ออกแบบรถรุ่นขายดีที่สุดของตน ให้ก้าวล้ำค่ายรถญี่ปุ่น รถยุโรปหลาย ๆ แบรนด์ ทั้ง ๆ ที่ปกติ ที่ผ่านมา Hyundai คือผู้ตามติดคู่แข่งต้อยๆ ในด้านการออกแบบรถยนต์ ก็ตาม

 
 

ในที่สุด Hyundai ลบคำสบประมาทของ Sonata ลงเสียทีครับ เราต้องยอมรับว่าเป็นรุ่นแรกที่ออกแบบมาได้สวยสุด ๆ ประจำแบรนด์นี้เลยครับ เคล็ดลับสำคัญคือใช้แนวคิดดีไซน์ยุคใหม่ที่เรียกว่า fluidic ลื่นไหลดุจของเหลวที่วิ่งด้วยความเร็วสูง รถรุ่นแรกที่ใช้แนวคิดนี้คือรุ่น IX35

แนวคิดการออกแบบของ Sonata โฉมใหม่ต้องขอย้ำอีกครั้งว่าจะเปลี่ยนภาพพจน์รถซีดานขนาดใหญ่เรียง่ายที่มีคุณภาพการขับขี่สูงกลายเป็นรถที่ดูสง่างามบนความปราดเปรียวแบบซีดานคูเป้พัฒนาคุณภาพรถให้ดียิ่งขึ้นแต่ยังตอบสนองความต้องการดั้งเดิมได้ดีอยู่

 
 

แม้รายละเอียดทางเทคนิคจะไม่ถูกเปิดเผยมาก ผู้เขียนบล๊อกดังกล่าวคาดการณ์จากข่าวที่เขาคอยตามสืบว่าน่าจะต้องเป็นเครื่องบล๊อก 4 สูบ 2.4 ลิตร ฉีดเชื้อเพลิงตรงให้กำลัง 200 แรงม้า และบล๊อก 2.0 ลิตรถูกปรับปรุงใหม่บนพื้นฐานเครื่อง Theta สำหรับทำตลาดในเกาหลีใต้และตลาดโลกบางประเทศ

เครื่องยนต์ดีเซลที่ตั้งใจบุกตลาดเกาหลีใต้และยุโรปวางบล๊อก 2.0 ลิตร 204 แรงม้าผ่านมาตรฐานค่าไอเสีย EURO 5

สำหรับตลาดอเมริกาเหนือที่เน้นพละกำลังจะมีเครื่องยนต์เบนซินชื่อก้องของ Hyundai นามว่า Lambada V6 รีดพลัง 250 แรงม้าขึ้นไป

เครื่องยนต์ทุกรุ่นจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะและเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะมาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ยังไม่เคยมีใน Sonata เช่นปุ่มกดสตาร์ทเครื่องยนต์,หลังคา Panoramic,Paddle Shift เรือนพวงมาลัย,ระบบนำทางอัจฉริยะ(มากกว่าเดิมมาก) เป็นต้น

 
 

กำหนดการเปิดตัวครั้งแรกในโลกวันที่ 10 กันยายนนี้ ที่ประเทศเกาหลีใต้ เริ่มวางจำหน่ายภายในเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่ตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกาเริ่มวางจำหน่ายไม่เกินครึ่งปีแรก 2010

ส่วนประเทศไทยเราต้องลุ้นกันว่า Sonata โฉมใหม่จะยลโฉมในรูปแบบไหนหากนำชิ้นส่วน CKD จากเกาหลีใต้ก็มีแนวโน้มว่าทำราคาแบบที่ซื้อหากันได้ หรือนำเข้าสำเร็จรูป CBU อาจทำให้ราคาแพงกว่าคู่แข่งเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นทางเลือกแรกจริงนั่นก็หมายความว่าให้นับไปอีก 1 ปีกว่าหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ หากทำราคาน่าสนใจก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงมากว่า Hyundai จะกลับมาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ในตลาดซีดานขนาดกลาง D-Segment ในบ้านเรา อีกครั้งหนึ่งได้ซะที

 

ที่มาของภาพ : http://www.hyundai-blog.com