ปัญหาหนึ่งที่เป็นหนามยอกอกของ Audi ในประเทศไทยมาตลอด คือการต้องนำเข้ารถยนต์จากเยอรมันมาขาย
เมื่อเจอกำแพงภาษีจึงทำให้ต้องมีราคาที่สูงกว่าเจ้าตลาด และยิ่งผสมกับชื่อเสียงของผู้จัดจำหน่ายแล้ว จึงส่งผลให้
ยอดขายอยู่ในระดับพอไปได้ อย่างทุกวันนี้

แต่ด้วยนโยบายจากบริษัทแม่ที่เริ่มปรับตัวเพื่อให้ Audi น่าสนใจมากขึ้น จึงได้มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆมาทำตลาดมากขึ้น
จากที่ต้นปีได้มีการเปิดตัว Audi A3 Sedan 1.4 TFSI เข้ามาขายด้วยป้ายราคา 1.99 ล้านบาทแล้ว วันนี้ (28 ตุลาคม 2557)
Audi ก็พร้อมเปิดตัวพี่ใหญ่อย่าง A8L Hybrid เข้ามาทำตลาดด้วยเช่นกัน พร้อมกับราคาเพียง 5.99 ล้านบาท!

alt

การเปิดตัว Audi A8L Hybrid สู่ตลาดไทยครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ไปในตัว ซึ่งมาพร้อมกับ
โคมไฟหน้าเทคโนโลยี Matrix LED ใหม่ล่าสุด รวมไปถึงการออกแบบกระจังหน้าใหม่ เน้นความเหลี่ยมสันโฉบเฉี่ยว
มากขึ้นจากรุ่นก่อนปรับโฉม ในขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมกับไฟท้ายเทคโนโลยี LED เช่นกัน พิเศษที่สัญญาณไฟเลี้ยว
จะกระพริบไล่จากด้านในออกไปหาด้านนอกตัวรถ เพื่อสื่อสัญญาณไฟเลี้ยวได้ชัดเจนขึ้น พร้อมเส้นโครเมี่ยมพาดยาว
บริเวณไฟท้าย และชุดกันชนหลังออกแบบใหม่ สวมล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว

งานวิศวกรรม ยังคงล้ำสมัยตามสไตล์ Audi ด้วยเทคโนโลยีตัวถังแบบ ASF หรือ Audi Space Frame สร้างจาก
อะลุมิเนียมน้ำหนักเบา รวมถึงใช้เทคโนโลยีการออกแบบตัวถังให้มีน้ำหนักเบาพิเศษ ทั้งหมดนี้ทำให้ตัวถังของ
Audi A8L ทนต่อสภาพแรงบิดของตัวถังได้มาก ในขณะที่มีน้ำหนักเบากว่าตัวถังเหล็กกล้าทั่วไปเช่นกัน

alt

ขุมพลังไฮบริดที่ใช้ เป็นการผสานกันของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมเทอร์โบ TFSI ให้กำลังสูงสุด
211 แรงม้า ที่ 4,300-6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-4,200 รอบ/นาที และมอเตอร์ไฟฟ้า
ขนาดกำลัง 54 แรงม้า เมื่อผนวกกันแล้วจะสามารถสร้างแรงม้าได้ 245 ตัว และแรงบิดสูงสุดรวม 480 นิวตัน-เมตร
ส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติกึ่งไฟฟ้า(มีการติดตั้งตัวมอเตอร์ไฟฟ้าภายในเรือนเกียร์) แบบ 8 จังหวะ
พร้อมโหมด Tiptronic บวก/ลบจังหวะเกียร์ได้

alt
alt

ส่วนระบบช่วงล่างใช้เทคโนโลยีถุงลมแบบปรับความหนืด ช่วยสร้างความหนึบแน่นในทุกความเร็ว ทำให้การเดินทาง
เป็นไปอย่างสุนทรีย์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังมีระบบอินโฟเทนเมนต์ MMI พร้อมระบบเครื่องเสียง
คุณภาพระดับพรีเมี่ยมจาก BOSE และพิเศษกับหลังคาพร้อมแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อช่วยระบายอากาศภายในห้องโดยสาร
เมื่อจอดรถกลางแจ้ง (คล้ายการทำงานของหลังคาโซลาร์เซลล์ใน Toyota Prius)

Audi A8L Hybrid พร้อมบุกตลาดไทยแล้ว ด้วยราคา 5.99 ล้านบาท และการรับประกันตัวรถ 5 ปีเต็ม โดย
รับประกันตัวแบตเตอรี่นานสูงสุด 5 ปี นับว่าเป็นรถยนต์ Audi อีกรุ่นที่ตั้งราคาได้น่าสนใจทีเดียว ใครที่มองหา
รถยนต์พรีเมี่ยมขนาดใหญ่ ลองสัมผัสและตัดสินใจดูได้ครับ