เราเพิ่งเคยนำเสนอข่าวไปแล้วว่า Audi ต้องการขยายไลน์ TT ให้ครอบคลุมกับความต้องการลูกค้ามากที่สุดจนถึงขั้นคิด
อยากจะทำรถแนวครอสโอเวอร์กันเลยทีเดียว!! และผลิตผลจากความพยายามล่าสุดมันก็กลายออกมาเป็นรถซีดานคูเป้ที่
สร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับ Audi TT ซึ่งมันมาในชื่อ Audi TT Sportback Concept

2014 10 02 Audi TT Sportback 1 2014 10 02 Audi TT Sportback 2

Audi TT Sportback จะเป็นการนำคุณค่าความเป็น TT อันทรงคุณค่าตลอดมา 20 ปีมาต่อยอดกลายเป็นรถกึ่งซีดานคู
เป้ แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น TT ด้วยแพคเกจตัวถังที่ดูสั้น, ตัวถังกว้าง, เส้นซุ้มโป่งล้อที่หนามาก, มีเส้นด้านข้างตัด
ผ่านอย่างเฉียบคม

เอกลักษณ์ที่ทำให้ Audi TT Sportback โดดเด่นกว่ารถซีดานคูเป้ทั่วไปคือกรอบบานกระจกที่มีมิติแบบเดียวกับรถคูเป้, มี
บั้นท้ายที่ดูลิ่มสั้นแต่เพรียวลม, เส้นสายเสา C ลากยาวพลิ้วจรดบั้นท้ายแบบไม่ขัดตา เมื่อมองจากด้านหน้าก็พบว่ามันมี
ความแตกต่างจาก Audi TT รุ่นดั้งเดิมในบางจุด อาทิ การใช้โคมไฟหน้าที่มีทรงเพรียวยาวกว่าที่มีหลอด LED กำลังสูง 4
ดวงมาพร้อมกับไฟส่องเลเซอร์ที่ทำงานเมื่อวิ่งความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป, บานเกล็ดกระจังหน้าที่ดูซับซ้อนกว่า,
มีรายละเอียดกันชนที่ดูสปอร์ตกว่า

2014 10 02 Audi TT Sportback 3 2014 10 02 Audi TT Sportback 4

Audi TT Sportback ถือเป็นกึ่งซีดานคูเป้เพราะมันฝากระโปรงท้ายสามารถยกขึ้นได้ทั้งบานคล้ายกับรถแนว Fastback
มีความยาวตัวถังแค่เพียง 4.47 เมตร (ยาวกว่า TT มาตรฐานถึง 29 เซนติเมตร) กว้าง 1.89 เมตร สูง 1.38 เมตร มีความ
ยาวฐานล้อ 2.63 เมตร

ภายในห้องโดยสารเดาไม่ยากเลยว่าแทบจะยกชิ้นส่วนภายในจาก Audi TT โฉมใหม่แทบทั้งกระบิ แต่ Audi ก็คือ Audi
เขาไม่ยอมมักง่ายที่จะเอาชิ้นส่วนมาใช้กันดื้อ ๆ แต่กลับดัดแปลงและติดตั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยชนิดที่ว่ารถระดับพรีเมี่ยม
ค่ายอื่นอาจมีค้อน เพราะ Audi เล่นติดตั้งเทคโนโลยี Audi Virtual Cockpit หรือแผงมาตรวัดจอสีขนาด 12.3 นิ้วที่ทำ
หน้าที่แทนมาตรวัดแบบเข็มและจอแสดงผล MID

ขุมพลัง Audi TT Sportback Concept จะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร TFSI ให้กำลัง 400 แรงม้า (BHP) ที่ 6,400
รอบต่อนาที แรงบิด 450 นิวตันเมตรที่ 2,400 – 6,000 รอบต่อนาที ถ้าวิ่งที่ 1,900 รอบต่อนาทีมันก็จะให้แรงบิดสูงถึง
300 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ Tiptronic S 7 จังหวะ มีอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอ
เสีย CO2 ต่ำแค่เพียง 162 กรัมต่อกิโลเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที

ใน Press Release ไม่ได้ระบุว่ารถต้นแบบคันนี้จะถูกแปลงร่างให้กลายเป็นรถเวอร์ชันจริงได้เมื่อไร แต่เชื่อว่าคงน่าจะอีก
ไม่นานเกิน 1-2 ปีนี้แน่ ๆ

ที่มา : Worldcarfans