ปัจจุบันหากเอ่ยถึงรถยนต์ค่ายใบพัดสีฟ้า BMW โดยเฉพาะในประเทศไทย ความโดดเด่นของ
สมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ ที่ทั้งแรงและประหยัด จะต้องถูกยกมาพูดถึง และเป็นตัวเลือก
แรกๆที่ลูกค้าเลือกอย่างแน่นอน แต่ใครจะทราบว่า เมื่อ BMW เริ่มต้นพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซล
เมื่อ 30 ปีที่แล้ว จะต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย กว่าจะได้รับการยอมรับจนถึงทุกวันนี้

ด้วยเหตุนี้นี่เอง BMW จึงจัดการบอกเล่าที่มาที่ไปของเครื่องยนต์ดีเซลของตน จนกลายมา
เป็นเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นแรก และพัฒนาต่อเนื่องจนประสบความสำเร็จอย่างใน
ทุกวันนี้ 



จุดเริ่มต้นทั้งหมดอยู่ในช่วงปี 1970 เมื่อทั่วโลกต้องประสบกับวิกฤตน้ำมัน จนทำให้
วงการรถยนต์ต้องซบเซาลง BMW จึงหันไปหาพลังงานดีเซล แต่ต้องพบว่าคนยุโรปฝังใจกับ
เครื่องยนต์ดีเซลที่มักใช้ในอุตสาหกรรมหนัก ที่ทั้งเสียงดัง เหม็น และสกปรก อีกทั้งยังมีพละกำลังน้อย

BMW ต้องเร่งพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลที่จะเปลี่ยนความคิดด้านลบเหล่านั้นให้หมดสิ้น หลังจาก
ความพยายามอย่างหนักของทีมวิศวกร ในที่สุด BMW ก็สามารถพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลบล็อก
แรกของตนได้สำเร็จ เพื่อใช้กับ BMW 5-Series ตัวถัง E28 ในขณะนั้นเป็นรุ่นแรก ได้แก่
เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ แบบ 4 สูบเรียง ขนาด 2.4 ลิตร สร้างกำลังได้ 115 แรงม้า พร้อม
แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่มีสมรรถนะสูงไม่น้อยทีเดียว
ในยุคนั้น

นอกจากนี้ จุดเด่นของเครื่องยนต์บล็อกนี้ยังอยู่ที่ความเงียบและความประหยัดน้ำมัน 
ที่สามารถทำได้ 14.0 กม./ลิตร และสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 12.9 วินาที

จากจุดเริ่มต้นเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ในวันนี้ BMW มีเครื่องยนต์ดีเซลสมรรถนะสูง
ในรหัส M ให้ผู้บริโภคเลือกใช้ด้วยเช่นกัน ในรุ่น M550d ที่ทั้งมีพละกำลังมหาศาล แรงบิดสูง
ในรอบต่ำ และความประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ สำหรับในประเทศไทยนั้น ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า
เครื่องยนต์ดีเซลยุคใหม่ของ BMW สามารถเปลี่ยนความคิดที่คนไทยมีต่อเครื่องยนต์ดีเซล
ไปไม่น้อยเลยทีเดียว 

ที่มา : Worldcarfans