ดูเหมือนว่าค่ายรถระดับหรูทุกค่ายซุ่มพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กกันมากขึ้น และที่สำคัญรถยนต์ในกลุ่มเหล่านี้มักจะถูก
สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถขับหน้าทั้งนั้น แทนที่จะเป็นแบบขับหลังเหมือนกับรุ่นพี่ เหตุผลง่าย ๆ ก็คือต้นทุนการผลิต และ
การจัดแพ็คเกจภายในห้องโดยสารที่ลงตัวมากยิ่งขึ้น

ล่าสุด สำนักข่าว Automotive News ได้รายงานว่า BMW ได้วางแผนพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐาน
ขับเคลื่อนล้อหน้า UKL Platform มากถึง 12 รุ่น โดยตั้งเป้าหมายให้ BMW เป็นเบอร์ 1 ในตลาดรถระดับหรูขับเคลื่อน
ด้วยล้อหน้า งานนี้ค่ายที่จะกระทบมากที่สุดคือ Audi คู่รักคู่แค้นในยุคทศวรรษใหม่และ Mercedes-Benz

alt

Frank Niederlaender ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า BMW Group เปิดใจว่า BMW เคย
เริ่มต้นขายเอสยูวีควบคู่ไปกับซีดานยอดนิยมซึ่ง BMW ก็สามารถผลักดันให้ตลาดเอสยูวีประสบความสำเร็จได้ (ในสมัย
นั้น แฟนพันธุ์แท้จะมีปฏิกริยาต่อต้าน X5 โฉมแรกพอสมควรเพราะแฟนส่วนใหญ่คิดว่ามันไม่ใช่ BMW แท้) และหาก
BMW จะผลักดันรถหรูที่ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าก็ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงอีกครั้งเหมือนกับที่ผลักดันเอสยูวีเป็นครั้งแรก
เช่นกัน

BMW มั่นใจว่าตลาดรถเล็กพรีเมี่ยมจะกลายเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดซึ่ง BMW อ้างว่าสามารถพัฒนารถรุ่นใหม่
หลายรุ่นบน UKL Platform ภายใต้การพัฒนาแค่ครั้งเดียว

จุดเด่นของ UKL Platform ก็คือความสามารถในการจัดสรรเนื้อที่ห้องโดยสารภายใต้ขนาดที่เล็กได้ (หากเปรียบเทียบให้
เห็นภาพ BMW 1-Series รุ่นปัจจุบันมีพื้นที่ห้องโดยสารหลังคับแคบมาก) เพราะ BMW ต้องการให้รถรุ่นใหม่ของตน
สามารถจับตลาดกลุ่มกว้างได้ ตั้งแต่ครอบครัวคนหนุ่มสาว, จนไปถึงผู้สูงอายุ

รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าจาก BMW Group 12 รุ่นจะมีสัดส่วนยอดขาย 40% ของทั้งหมดภายใน 8-10 ปีข้างหน้า