ยุคนี้น่าจะเป็นยุคข้าวยากหมากแพง ประหยัดอะไรได้ก็ต้องประหยัด อย่างน้อย ๆ ก็จะได้มีเงินเก็บใช้สอยในอนาคตบ้าง
แม้กระทั่งคนที่มีฐานะร่ำรวยเอามาก ๆ ก็ต้องขยันหารายได้และเก็บออมจะได้รวยเป็นมหาเศรษฐี เฉกเช่นเดียวกับค่าย
รถยนต์ระดับพรีเมี่ยมก็ต้องขยันลดค่าใช้จ่ายและหันมาต่อยอดรายได้จากสิ่งที่มีกันให้ได้มากที่สุด

ล่าสุด BMW และ Mercedes-Benz ก็มีแผนที่จะลดจำนวนพื้นตัวถังลงเพื่อให้สามารถพัฒนารถได้รวดเร็วและต้นทุน
ต่ำลงได้

2014 03 15 BMW

Herbert Diess หนี่งในบอร์ดผู้บริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา BMW ได้เปิดเผยออกมาว่า BMW และ Mini จะมีจำนวนพื้น
ตัวถังเพียง 2 แบบเท่านั้น ได้แก่ แบบขับเคลื่อนล้อหน้าและล้อหลัง จากปัจจุบันที่มีแพลทฟอร์มากถึง 5 แบบกันเลยทีเดียว
แต่ทว่ารถแนวพิเศษอย่าง BMW i3 และ i8 ยังไม่ใช่เป็นรถที่ถูกยุบรวมพื้นตัวถังตามกลยุทธ์ใหม่

ส่วนพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลังแบบใหม่จาก BMW จะเปิดตัวในรุ่น 7-Series อีก 2 ปีข้างหน้าซึ่งพื้นตัวถังแบบใหม่นี้
สามารถยืดได้หดได้เพื่อรองรับการพัฒนารถทุกรูปแบบ จากเดิม BMW ต้องทำพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อมากถึง 4 แบบ
ได้แก่ แบบคอมแพคท์สำหรับ 1, 2, 3-Series, ขนาดกลางสำหรับรถซีดานขนาดกลางถึงใหญ่และให้ Rolls-Royce หยิบ
ยืมไปใช้, แบบเอสยูวี/ครอสโอเวอร์คอมแพคท์ X3,X4 และแบบเอสยูวี/ครอสโอเวอร์รุ่นใหญ่

นอกจากรถยนต์ BMW และ Rolls-Royce จะต้องใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลังแบบใหม่ร่วมกันแล้ว ทุกรุ่นก็จะต้องแชร์
ระบบอิเล็กทรอนิคส์ให้ใช้ร่วมกันได้ด้วย

ส่วน Mercedes-Benz ก็ยุบพื้นตัวถังเหลือเพียง 4 แบบจากเดิมมีมากถึง 9 แบบ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้องยุบรวมแพลท
ฟอร์มเพราะบริษัทรถสามารถนำเวลาที่เหลือไปปรับปรุงคุณภาพตัวรถและลดเวลาในการพัฒนารถด้วย

พื้นตัวถังแบบใหม่ของ Mercedes-Benz 4 แบบถูกออกแบบให้ใช้งานที่แตกต่างตามประเภท ได้แก่ แบบที่ 1 MFA
ตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าใน A-Class, B-Class, CLA และ GLA, แบบที่ 2 MRA ขับเคลื่อนล้อหลังใหม่ โดยจะเริ่มใช้ใน
C-Class รุ่นใหม่, S-Class ใหม่, GLK และ E-Class โฉมใหม่, แบบที่ 3 MHA สำหรับครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่, แบบที่ 4
MSA สำหรับรถสปอร์ต

ทุกพื้นตัวจะติดตั้งเทคโนโลยีครูซคอนโทรลล้ำสมัยที่สามารถรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าได้

การลดความซับซ้อนของพื้นตัวถังอาจจะดีในมุมมองของผู้ผลิต แต่สำหรับผู้บริโภคก็อาจจะได้ประโยชน์ในด้านการ
นำเสนอออพชั่นหรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ และคุณภาพตัวรถมากกว่า

ที่มา : europe.autonews.com