สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน

อากาศที่ร้อนตับแตกอย่างผิดปกติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจทำให้หลายครัวเรือนต้องเจียดเงินเตรียม
ไว้สำหรับค่าไฟค่าแอร์ที่พุ่งขึ้นสูงลิ่ว วันนี้ Headlightmag.com ขอเสนอวิธีคลายร้อนโดยไม่เปลืองค่าไฟ
นั่นก็คือการยกเพื่อนยกฝูงเกี่ยวก้อยแฟนมาเดินชมงาน Bangkok International Motorshow ครั้งที่ 34
บัตรฟรีกรุณาค้นๆและเขย่าๆเอาตามนิตยสารชื่อดังและหนังสือพิมพ์บางฉบับ ถ้าโชคดีจะมีหล่น
มาให้เก็บมากกว่าหนึ่งใบ หรือถ้าขี้เกียจหาก็ซื้อตั๋วเสียค่าเข้าชมตามธรรมเนียม อุดหนุนเป็นกำลังใจ
ให้กับคนวงการรถยนต์ในการจัดงานมหกรรมแบบนี้ให้กับเราไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

ในหลายครั้งที่ผ่านมา เราจะเห็นการเน้นยุทธวิธีการต่อกรกับคู่แข่งโดยเน้นไปที่ Segment อันใดอันหนึ่ง
อย่างที่เราจะสังเกตได้ว่าช่วงหลังน้ำท่วมนั้น รถปิคอัพยกสูงจะได้รับความสนใจ ต่อมาเมื่อเรามี
โครงการรถคันแรก ที่อานิสงส์ขยายภาคไปจนถึงรถระดับ B-Segment ก็ทำให้ตลาดในบ้านเรา มุ่งเน้น
เสนอแต่รถยนต์อีโคคาร์ รถขนาดต่ำกว่า 1.5 ลิตร และรถกระบะกันมาตลอด ..นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี
เพียงแต่หลายคนที่ไม่ได้มองหารถ Segment นั้นอยู่ ก็อยากจะมีทางเลือกกับเขาบ้าง ถ้าเช่นนั้นผมขอบอกว่า
งานครั้งนี้ มาครั้งเดียว ทุกระดับชน ทุก Segment มีรถให้ช้อปให้เลือกกันอย่างจุใจ

รถที่ไม่มาในงานนี้ ก็คือ Subaru, Skoda/MTM, Audi, Proton ดังนั้นถ้าใครมองหารถจากค่ายเหล่านี้อยู่
เชิญที่โชว์รูมก่อนเถิดนะครับ

ส่วนจะมีอะไรบ้าง เรามาชมกันแบบหอมปากหอมคอ ท่านจะได้วางแผนกันถูกว่าควรจะเดินบูธไหน
และสำหรับผู้มีอาชีพเป็นสามีบางราย..มันอาจจะช่วยให้ท่านเลี่ยงบูธที่จะเกิดการงอนง้อล้อเถียง
กับภรรยาของท่านได้ ดูให้ดีแล้วกันครับ

BENTLEY

Continental GT Speed สีขาวเด่น ใช้เครื่องยนต์ W12 6.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ 616 แรงม้า
สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 330 ก.ม./ช.ม. ส่วนใครที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องไปซิ่งแข่งกับ F16
ขนาดนั้น อาจจะชอบเสียงคำรามลั่นๆ ของ Continental GT V8 ที่จอดอยู่ข้างหลังมากกว่า นอกจากนี้ก็ยังมี
ซาลูนหรูของค่าย Bentley Mulsanne มาให้จบครบพิธี ส่วนรถ SUV ของ Bentley ไม่ต้องไปถามเซลส์ให้
เสียเวลา เพราะที่เมืองนอก โครงการโดนดึงกลับไปออกแบบใหม่ อีกนานกว่าจะมา กรุณาเรียนป.เอก
รอไปก่อน

BMW / MINI

มีตั้งแต่รุ่นเล็กยันใหญ่ สำหรับคนที่ชอบรถเล็ก น่าจะลองไปดู BMW 116i ซึ่งเป็นรถที่มีขนาดตัวพอๆกับ
A-Class ของ Mercedes-Benz แต่ยังใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังอยู่ 116i นั้นใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1.6 ลิตร
TwinPower Turbo ให้พลัง 136 แรงม้า แรงบิด 220 Nm สนนราคายังไม่ทราบ ถามเจ้าหน้าที่ ราคา?ไม่รู้
โบรชัวร์? ไม่มี แล้วจะมีมาไหม? ไม่แน่ งั้นเราก็เลยบอก “ไม่เป็นไร” เดี๋ยวก็มีกุมารอลูมินั่มมากระซิบเองแหละ

แต่ที่น่าซู้ดปากที่สุด คงหนีเจ้า ActiveHybrid3 ไม่พ้น เพราะนี่คือรถใช้เครื่องยนต์ผสานกำลังกับมอเตอร์
อีกคันที่มีสมรรถณะไม่ธรรมดา ตัวเครื่องเป็นแบบ 6 สูบเรียง TwinPower Turbo 3.0 ลิตร 306 แรงม้า
เมื่อรวมกำลังขับกับมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วจะมีแรงถึง 340 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สนนราคา
เริ่มต้น “แค่” 4.199 ล้านบาท แต่ถ้าอยากได้ชุดแต่ง M-Sport ด้วย ก็ต้องเพิ่มเป็น 4.399 ล้านบาท งานนี้
กะเอาม้ามาฆ่าคู่แข่งให้ราบพนาสูรเลยทีเดียว ส่วนใครที่ชอบรถใหญ่ขึ้น แต่แรงเท่ากัน ก็ต้องจ่ายเพิ่มเป็น
5.399 ล้านแล้วไปเล่น ActiveHybrid 5 แทน

ทางด้าน  Mini ก็ใช้งานนี้เป็นเวทีเปิดตัวรุ่น Paceman Cooper/Cooper S ซึ่งมีลักษณะกึ่งกลางระหว่าง
Mini Original กับ Countryman ที่มีขนาดใหญ่สุดของค่าย นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่คิดว่ารูปแบบ
รถที่มีอยู่บนถนนมัน mix กันได้ไม่ถึงใจพอ

CHEVROLET

สำหรับตลาดรถบ้าน ค่ายโบว์ไทก็มี Chevrolet Spin เพิ่งเปิดตัว ไปช่วงกลางเดือนมีนาคม แต่ ณ วันงานนี่
มีมาจอดแค่คันเดียว ไม่รู้จะรับกระแสมหาชนได้ขนาดไหน Spin นั้นถูกออกแบบโดย Chevrolet ที่บราซิล
เป็นแม่เรือใหญ่ และประกอบในโรงงานที่อินโดนีเซียก่อนจะส่งมาขายเมืองไทย มีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวคือ
LTZ เครื่อง 1.5 ลิตร 107 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หากใครที่ชอบหน้าปัดของ Sonic
แต่ที่บ้านมีสมาชิก 5 คนขึ้นไป..อย่าลืมแวะเยี่ยมชม Spin ได้



ไฮไลท์ในงานที่บูธนี้ก็ยังมี 2 รถต้นแบบอย่าง Code 130 R และ TRU 140S ซึ่งแม้ชื่อจะฟัง
ดูแล้วนึกถึงเราทเตอร์กับบริการอินเทอร์เน็ต แต่เดี๋ยวก่อน นี่คือต้นแบบรถสปอร์ตคูเป้
สำหรับคนวัยมันส์ต่างหากล่ะ

Code 130R เป็นรถคูเป้แบบ 4 ที่นั่งขับเคลื่อนล้อหลัง ใช้เครื่องยนต์เครื่องยนต์อีโคเทค
(Ecotec) 1.4 ลิตร เทอร์โบ DOHC พร้อมระบบอีแอสซิสต์ (eAssist ) 1,364 ซีซี 150 แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร

ส่วน TRU 140S นั้นจะเปลี่ยนรูปแบบการวางเครื่องยนต์จากขับหลัง มาเป็นขับหน้า แต่ยัง
ใช้ขุมพลัง Ecotec พ่วงกับระบบ eAssist เช่นเดียวกัน และมีตัวเลขแรงม้ากับแรงบิดเท่ากันกับ
Code130R

รถทั้งสองรุ่นนี้ได้รับการออกแบบโดย GM North America Advanced Design studio ในนครลอสแองเจลิส
และนับเป็นการโชว์ตัวครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรถทั้งสองรุ่นนี้

นอกเหนือไปจากนี้ ยังมี Chevrolet Cruze ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนกระจังหน้า ระบบส่งกำลังและ
พัฒนาให้รองรับการเติมน้ำมัน E85

FORD

ตอนแรกพอทราบว่า Ecosport จะเปิดตัวในงานนี้ก็ยกมือทาบอกนางสาวแป้นว่าเซอร์ไพรส์กันจริงๆ
แต่กลายเป็นว่างานนี้ หล่อนแค่ “มาโชว์ตัว” ให้น้ำลายสอเล่นๆ ก่อนที่จะเปิดตัวขายกันอย่างจริงจัง
ในช่วงหลังของปี ทราบว่าในช่วงแรกจะมีทางเลือกขุมพลังแบบเดียวคือ 1.5 ลิตร 109 แรงม้า แล้วจากนั้น
ค่อยตลบหลังด้วยบล็อค 1.0 ลิตร Ecoboost 125 แรงม้าอีกที


ในรอบสื่อมวลชนนี้ ยังมีการนำ Fiesta Minorchange ที่หน้าตาเหมือนเป็นบุตรที่ไปคลอดกับ Aston Martin
มาจอดยั่วสร้างกระแสให้แฟนๆ Ford กุมสมุดบัญชีเอาไว้แน่นๆก่อน ในเอกสารประกอบของ Ford บอกไว้ว่า
รถรุ่นนี้จะใช้เครื่อง 3 สูบ 1.0 ลิตร EcoBoost มาแน่! แต่อย่าถามว่าจะเปิดตัวเมื่อไหร่
เพราะยังไม่มีกำหนดที่แน่ชัด แต่ดูแล้วเสร็จก่อนรถไฟความเร็วสูงในบ้านเราอย่างแน่นอนจ้า

นอกจากนี้ รถรุ่นอื่นที่มีขาย ไม่ว่าจะเป็น Ranger กระบะพันธุ์เท่ห์ หรือ Territory SUV เครื่องดีเซลเทอร์โบ
ก็มาจอดโชว์เช่นกัน เคียงข้างไปด้วย Focus ซึ่งนับเป็นรถ C-Segment ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีท่วมคัน
และมี Fiesta โฉมปัจจุบันด้วย

Great Wall / HAVAL

ค่ายรถยนต์จากเมืองจีน ยังคงมองหาช่องทางมาเปิดตัวในบ้านเราเพื่อขยายฐานตลาดอยู่เรื่อยๆ
แม้จะมีหลายเจ้า พยายามเข้ามา แล้วก็ต้องม้วนเสื่อกลับไป แต่ดูเหมือนว่า อีกหลายค่าย ก็ยัง
มองเห็นตลาดรถยนต์เมืองไทย หอมหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้า ผสมน้ำตาลวังขนาย!

Great Wall เป็นอีกค่ายหนึ่ง ที่เคยมีข่าวหลุดมาในช่วงปลายปีที่แล้วว่า ดอดเข้ามาเจรจากับ
ทาง Grand Prix ซึ่งเป็นผู้จัดงานนี้ ว่าอยากขอนำรถยนต์มาจัดแสดง และเปิดตัวแบรนด์
Great Wall ให้คนไทยได้รู้จัก

และคราวนี้ พวกเขาก็ยกโขยงตระกูล SUV มาอวดโฉมรวมทั้งหมด 3 รุ่น รถแข่ง ที่ดัดแปลง
มาจาก Isuzu Axiom  แล้วคว้าที่ 4 ในรายการแข่งขัน Rally Dakar รวมทั้งรถยนต์ต้นแบบ
รถยนต์ทุกคันทั้งหมดนี้ พะยี่ห้อว่า HAVAL !

Haval H6 เป็น Suv ขนาดกลาง ไซส์ประมาณ CR-V มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งแบบ
เบนซิน 1.5 ลิตรเทอร์โบ 150 แรงม้า และดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 150 แรงม้าเท่ากัน
ส่งกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ


Haval H8 เป็น SUV ขนาดใหญ่ ตัวยาว 4.8 เมตร ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเบนซิน
พ่วงเทอร์โบ ให้กำลัง 218 แรงม้า แรงบิด 324Nm ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

Haval M4 เป็น SUV ตัวเล็ก ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 106 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์
ธรรมดา 5 จังหวะ

เครื่องยนต์ของ Haval ทั้งหมด ก็ผลิตโดย Mitsubishi นั่นเอง และนอกจากนี้ก็ยังมีรถต้นแบบ
Haval E มาโชว์อีกด้วย ยังไม่มีการบอกว่าแบรนด์ Haval จะเริ่มทำตลาดจริงจังเมื่อใด
แต่คาดว่าหากปฏิกิริยาตอบสนองจากลูกค้าในงานมอเตอร์โชว์ดี เราอาจได้เห็นแบรนด์จีน
ที่จิมมี่จะยอมทำรีวิวขึ้นมาจริงๆก็เป็นได้

HONDA

วินาทีนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธว่าตลาด D-Segment ร้อนเป็นไฟด้วย Honda  Accord ที่เพิ่งเปิดตัว
เล่นเอา Jazz และ Brio ที่จอดอยู่ข้างซ้ายของบูธแทบจะไร้ผู้คนไปเลย Accord ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือก
ทั้งรุ่น 2.0 ลิตร และ 2.4 ลิตร ทั้งคู่ต่างอัดอุปกรณ์มาให้เต็มพิกัดชนิดที่ Camry และ Teana ต้องกุมขมับ
ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.299 ล้านบาท แต่ถ้าต้องการของเล่นแบบครบชนิดที่เอาไปอวดคนใช้รถยุโรปได้ ต้องเป็น
รุ่นท้อป 2.4 TECH ราคาล้านแปดมีทอน

Civic Hybrid ก็ยังถือว่าเป็นรถใหม่ แต่มางานนี้โดนพี่ใหญ่กลบความดังไปเสียหมด แต่ถ้าใครยังสนใจ
รถไฮบริด กิน 18.9 กิโลลิตร (ทดสอบโดย headlightmag.com) และมีอัตราเร่งที่ถือว่าดีกว่า Civic Hybrid
ตัวถัง FD รุ่นเดิมในระดับที่พึ่งพาได้ ก็ลองไปแวะถามไถ่กันดู

HYUNDAI

ตัวเด่นในงาน ต้องเป็นVeloster/Veloster Turbo ที่เพิ่งแตะแผ่นดินไทยอย่างไม่ต้องสืบ หลังจากที่แย้มไต๋
มานานแล้วว่าจะเอาเข้ามา มีให้เลือกกัน 2 รุ่นตามระดับความหนักของเท้า ได้แก่  Veloster 1.6 MPi
หายใจธรรมดา130 แรงม้า ราคา 1,299,000 บาท ส่วนรุ่น Sport Turbo 1.6 186 แรงม้า ราคา 1,739,000บาท
สัดส่วนความหนักของกระเป๋าต้องหนักไปตามเท้าด้วยเช่นกัน

พิเศษสุดคือถ้าอยากได้สีเทาเข้มด้าน
คุณสามารถสั่งจากโรงงานเกาหลีให้พ่นสีนี้มาให้เลย โดยจ่ายเพิ่มแค่ 10,000 บาทเท่านั้น นับเป็นรถยนต์นั่ง
ที่ “คนทั่วๆไปซื้อหาได้” รายแรกในไทยที่มีออพชั่นสีด้านจากโรงงาน ก่อนหน้านี้ Mercedes-Benz SL เคยมีให้เลือก
แต่นั่นก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ


ISUZU

มีคนแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมไม่ขาดสาย ดูเหมือนรถรุ่นเดิมแบบเดิม และตระกูล X-Series จะยังขายได้ดี
คงต้องรอกันอีกพักใหญ่ๆก่อนที่จะมีการ Big Minorchange และเปลี่ยนเครื่องยนต์ ส่วนถ้าใครถามว่าเมื่อไหร่
ก็คงต้องถามกลับว่าได้อ่านบทความรวมรถใหม่ 2013-2016 ของเจ้าของเว็บนี้แล้วหรือยัง? จัดไปครับพี่น้อง


JAGUAR/LAND ROVER



นำมาโชว์ครบทั้ง XF, XK, และ XJ ช่วงนี้จะยังไม่มีรถใหม่ไปสักพักสำหรับค่ายเสือเผ่น แต่อีกไม่นานเราจะได้เห็น
คู่แข่งของ 3-Series ที่ผลิตโดยฝีมือ Jaguar ซึ่งเราคงรอหลังจากเมืองนอกเปิดตัวกันไม่นาน เพราะ Jaguar
ในประเทศไทยก็พยายามจะนำเสนอรถรุ่น XF ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเพื่อขยายตลาดลงมาแย่งปันส่วนลูกค้าจาก
Mercedes-Benz และ BMW มาแล้ว

LAMBORGHINI

Aventador, Gallardo Super Leggera และ Gallardo Minorchange มาโชว์ โดยตัวหลังนั้นได้มีการ
เปลี่ยนทรวดทรงด้านหน้าของรถเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับธีมดีไซน์ที่ปรากฏใน Aventador มากขึ้น น่าจะเป็นการ
ดิ้นอีกไม่กี่ครั้งก่อนที่รถรุ่นใหม่ตัวตายตัวแทนของ Gallardo จะเปิดตัว เพราะรุ่นปัจจุบันนี่นับอายุแล้วใจหาย
ทำตลาดมาอย่างองอาจเป็นเวลาร่วมทศวรรษแล้ว ไม่เชื่อนับดู

LOTUS

ยังคงทำตลาดกับ Evora, Elise, Exige เช่นเดิมอย่างเลือกไม่ได้ ในเมื่อเรื่องราวต่างๆของบริษัท
ที่อังกฤษกับบริษัทแม่ DRB-HiCom ยังไม่ลงตัวแบบ 100% ความรวดเร็วในการดำเนินโครงการต่างๆ
สำหรับรถรุ่นใหม่ๆนั้นก็ย่อมช้าเป็นเงาตามตัว

แต่ยังไม่ถอดใจ อย่างน้อยดีลเลอร์ Lotus Thailand ก็หมั่นจัดกิจกรรมต่างๆให้
เจ้าของ Lotus และผู้ที่สนใจได้นำรถคันโปรดไปยืดเส้นยืดสายอยู่เสมอ ไม่ให้แบรนด์
อังกฤษที่มีความเป็นมายาวนานนี้ต้องเหงาเกินไปนัก

MAZDA

บอกกันตามตรงว่ามองเห็นแค่ Mazda 2 Limited Edition สีแดงช้ำๆอยู่บนแท่นโชว์แล้วนึกว่าจะไม่มีอะไร
แต่บังเอิญ headlightmag.com โชคดีที่มีกุมารอลูมินั่มคอยส่งข่าวมาบอกล่วงหน้าว่า CX-5 จะมาแน่
แล้วก็มาจริงๆ แต่งานนี้แค่มาโชว์ตัวเฉยๆ (พี่ติดโรคอะไรจาก Ford มาหรือเปล่าฮัฟ)

CX-5 เป็นรถที่มีคุณลักษณะคล้ายกับ CR-V ของ Honda แต่มีขนาดตัวที่สั้นกระทัดรัดกว่า เลยมีบางคน
เทียบชั้นให้ประหมัดกับ Subaru XV หากใครคิดว่ารอถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2013 ไหว ก็ควรรอ
และที่น่าดีใจก็คือจะมีทางเลือกเครื่องยนต์ให้ครบสองแบบ คือ เบนซิน 2.0 ลิตร SkyActive และดีเซล
2.2 ลิตร SkyActive-D

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมีรถรุ่นอื่นที่จำหน่ายมาโชว์ ทั้ง Mazda BT50 Pro และ Mazda 3 S+

MERCEDES-BENZ

ทีเด็ดของงานนี้อยู่ที่การเผยโฉม New E-Class Minorchange อันประกอบไปด้วยรุ่น E200 Executive,
E300 BlueTec Hybrid Executive และ E300 BlueTec Hybrid AMG Dynamic ซึ่งการเปิดตัวที่เมืองไทยนั้น
นับได้ว่าเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รุ่น E200 จะใช้เครื่องยนต์เบนซิน
4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 184 แรงม้า (จากเดิมเป็นเครื่อง 1.8 ลิตร) ในขณะที่ E300 BlueTec จะใช้เครื่องยนต์
ดีเซล Commonrail Turbo 2.1 ลิตร 204 แรงม้าบวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า 27 แรงม้า สนนราคาเริ่มต้น
รุ่น E200 ราคา 3.49 ล้านบาท ไปจนถึง E300 BlueTec AMG ราคา 4.49 ล้าน

อีกไฮไลท์หนึ่งของบูธค่ายดาวสามแฉกคือ Concept Style Coupe รถต้นแบบ 4 ประตูคูเป้ที่มาพร้อมกับ
เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พร้อมระบบไดเรคอินเจคชั่นและเทอร์โบ 211 แรงม้า ใช้ระบบ
ส่งกำลังแบบคลัตช์คู่เดินหน้า 7 จังหวะและระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรถคันนี้ก็เพิ่งจะได้รับ
รางวัล “iF product design award 2013” ซึ่งเป็นรางวัลดีไซน์ยอดเยี่ยมระดับโลกไปไม่นานมานี้

MITSUBISHI MOTORS

ยังไม่มีรถใหม่เปิดตัวในงานนี้ แต่เพื่อไม่ให้ดูขาดรสชาติ Mitsubishi ก็เล่นไม้ตายเดิมคือนำรถต้นแบบ
อันเป็นตัวแทนแห่งรถโมเดลใหม่ที่จะนำมาเปิดตัวลงสู่ตลาดในอนาคต ซึ่งได้แก่ MITSUBISHI Concept G4
หรือที่เราควรจะเรียกว่าเป็น “ร่างจำแลงของ Mirage Sedan” ที่จะเปิดตัวในอนาคตนี้ เครื่องยนต์และระบบ
ส่งกำลังจึงไม่ต้องสืบว่าเป็นเครื่องและเกียร์ตัวเดียวกันกับ Mirage ที่ขายอยู่ทุกวันนี้ แต่ความพิเศษนั้นจะอยู่ที่
Concept G4 นั้นมาเผยโฉมที่นี่ ในงานนี้เป็นครั้งแรกในโลก

ส่วน MITSUBISHI Concept GR-HEV ก็คงจะนับเป็นกุมารทองให้กับ Triton เจนเนอเรชั่นถัดไป เรียกว่า
เอามาดูปฏิกิริยาของผู้คนที่มีต่อเส้นสายของตัวรถ เผื่อจะนำไปปรับรายละเอียดต่อได้อีก GR-HEV นี้ทาง
Mitsubishi เรียกว่าเป็น Sport Utility Truck (SUT) ใช้ขุมพลังดีเซลไฮบริด ซึ่งอยู่ในระหว่างการพัฒนา
ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Super Select 4WD ที่มีชื่อมาตั้งแต่รุ่น Pajero

ตบท้ายด้วย Mirage รุ่นพิเศษ Bloom Edition มาพร้อมกับสีม่วงจอมขโมยซีน
แบบสุดๆ จำนวนจำกัด

NISSAN

งานนี้รถที่เพิ่งเปิดตัวใหม่แบบสดๆร้อนๆก็เห็นจะเป็นคันอื่นไปไม่ได้นอกจาก Nissan March Minorchange
เปลี่ยนกันชนหน้า กระจังหน้าไปจากเดิม เปลี่ยนทรงแดชบอร์ดตรงคอนโซลกลางมาใช้ช่องแอร์แบบเหลี่ยม
ในบางรุ่นย่อยจะได้ไฟท้ายแบบ LED ไปใช้อีกต่างหาก นับเป็นการกระตุ้นตลาดช่วงวัยกลางคนของรุ่นที่
ทำให้หลายคนปลื้มกับออพชั่นในรุ่นสูงๆ แถมถ้าใครชอบสไตล์ซิ่งๆ ก็มีรถโชว์เป็น March สไตล์Widebody
และ Almera แต่งแบบรถแข่งทางเรียบมาโชว์ ดูแล้วชื่นใจถึงแม้จะรู้ว่าคนส่วนมากไม่ได้ซื้อไปแต่งเลยก็ตาม

Nissan NV350 Big Urvan รถตู้ใหม่ ใหญ่สะใจจริงๆ เน้นทำตลาดด้วยขุมพลัง 2.5 ลิตรดีเซลเทอร์โบ 129
แรงม้า กับเกียร์ธรรมดาเพียงแบบเดียวเท่านั้น ภายในมีหน้าปัดที่ Nissan บรรจงจัดมามอบให้รถตู้วิน
ได้ใช้กันเสียที ราคา 1.158 ล้านบาท และเป็นรถนำเข้าจากญี่ปุ่นนะครับ

Nissan Pulsar ยานยนต์เอกสิทธิ์สำหรับชีวิตเคียงนกกระจอกเทศ เพิ่งเปิดตัวไปช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ก็ขนมาเรียกลูกค้ากันหลายรุ่นหลายแบบ เคียงข้างไปกับ Nissan Sylphy และ Almera ส่วน Teana นั้น
ดูเหมือนรังสีจะเริ่มอ่อนลงแล้วหลังจากที่ Camry และ Accord ทยอยเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ คงต้องรอ
ทีเด็ดที่จะมาช่วงปลายปี ถึงเวลานั้นค่อยเอาคืน

รถต้นแบบที่นำมาโชว์ ก็มี Nissan Ellure Concept ซึ่งเผยโฉมออกมานานเป็นปีแล้ว จะไม่ให้นานได้อย่างไร
ก็นี่ล่ะคือรถที่เป็นต้นแบบให้กับ Nissan Sylphy ไง..อะไรนะ.ไม่เชื่อเหรอ..ดูสิ..เหมือนออก..เหมือนมะ
#ท้อปเจริญช่วยด้วย


PEUGEOT

408 2.0, 408 Turbo, 508 ยังคงเป็นรถที่ใช้โชว์เรียกลูกค้าอย่างต่อเนื่อง วันนี้มีรถตู้ใหม่ Peugeot Expert
มาเสริมทัพอีกคัน เครื่องยนต์ HDi ดีเซลเทอร์โบ 2.0 ลิตร 163 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ
Porsche Tiptronic 6 จังหวะ


PORSCHE

Cayman S มาเปิดตัวแล้วในงานนี้ ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอนยันวางกลางลำ ความจุ 3,436 ซี.ซี.
325 แรงม้า/7,400 รอบต่อนาที และแรงบิด 370Nm/4,500-5,800 รอบต่อนาที รุ่นที่ใช้เกียร์ PDK
(Porsche Doppelkupplung) คลัตช์คู่ ทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม.ได้ภายใน 4.9 วินาที และทำ
ความเร็วสูงสุดได้ 281 ก.ม./ช.ม.

นอกจากนี้ ก็ยังขนรุ่นอื่นมาทั้งตระกูล ไม่ว่าจะเป็น Boxster, 911 Carrera 4, 911 Carrera, 911 Carrera
S Cabriolet, Panamera S Hybrid, และ SUV ยักษ์รักโลก Cayenne S Hybrid

ROLLS-ROYCE

Rolls Royce ปีนี้ Phantom ตัวยักษ์ ครองสถิติ รถแพงสดในงาน 42.5 ล้านบาท ส่วนคันสีขาวในรูป
คือรุ่น Ghost Special Edition “Art Deco” มีเพียง 35 คันในโลก เท่านั้น!! ราคา 27.5 ล้านบาท
ถ้าคุณรู้สึกว่า S-Class/7Series ของคุณมีเพื่อนแชร์หน้าตาบนถนนเยอะเกินไป โอกาสของคุณมาถึงแล้ว

SSANGYONG

บูธนี้บอกตามตรงว่าเงียบเหงาเช่นเคย (ยกเว้นเวลาที่พริตตี้ออกโรง) แต่ยังไม่ใช่ค่ายที่น่าจะมองข้ามไปง่ายๆนัก
เพราะรถอย่าง Korando ที่ออกขายมาได้หลายปี ก็เริ่มจับทางดีไซน์ถูกแล้ว เข้าตากรรมการมากขึ้น
Drive Different และ Look admirably different ไปพร้อมๆกัน ในงานนี้ ก็มีรุ่น Big Minorchange ของเจ้า
หนูยักษ์ Ssangyong Stavic มาโชว์อีกด้วย

SUZUKI

Swift ทั้งหลายในบูธคงจะดีใจมากที่ Motorshow ครั้งนี้ไม่ต้องฉายเดี่ยว มี Minivan 7 ที่นั่งอย่าง Ertiga
มาเป็นเพื่อนแล้ว นับเป็นคู่ฟัดตรงรุ่นกับ Honda Freed,Proton Exora และ Chevrolet Spin แม้จะใช้เครื่องยนต์
ขนาด 1.4 ลิตรซึ่งเล็กกว่าคู่แข่ง แต่ก็ประกอบจากอินโดนีเซียเหมือนกันทั้งหมด ที่สำคัญคือราคา
เปิดมารุ่นเกียร์ธรรมดาเริ่มที่ 544,000 บาท และรุ่นท้อป GX A/T ตั้งเอาไว้ที่ 689,000 บาท

TOYOTA/LEXUS

เปิดตัวกันในงานเลยทีเดียวสำหรับ New Vios โฉมใหม่ รุ่นท้อปสุดคือรุ่น S A/T เล่นตั้งราคาเอาไว้
734,000 บาท หลายคนบอกเซ็งเป็ดกับเครื่องเดิมเกียร์เดิม แต่อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป ลองมาดู
ภายในของคันจริงก่อน หลายคนอาจจะยอมหยวนเรื่องเครื่องให้บ้าง อย่างน้อยหน้าปัดก็กลับมาอยู่
ตรงหน้าคนขับแล้ว และดีไซน์พลาสติกบนคอนโซลที่อุตส่าห์ลงทุนกัดลายจนนึกว่าเป็นหนังเย็บด้ายจริงๆ
หลายคนคงได้เห็นรูปตัวสีแดงที่โปรโมทอยู่ไปแล้ว ก็ลองดูคันที่ถูกนำมาแต่งแบบ One-Make Race
ดูบ้างเผื่อวัยโจ๋อาจจะเปลี่ยนใจ

Lexus IS มาแบบเซอร์ไพรส์ ไม่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้เลยว่าจะเปิดตัวกันในงานมอเตอร์โชว์
เพิ่มทางเลือกขุมพลังไฮบริด 2AR-FSE 2.5 ลิตรที่แชร์กันกับ Camry Hybrid แต่จับนำมาวางตามยาว
แล้วส่งกำลังขับเคลื่อนล้อหลัง ราคาเริ่มต้นรุ่นที่ถูกที่สุด 2.99 ล้านบาท แต่ถ้าอยากได้สุ้มเสียง V6 นิ้งๆ
และมาดดุๆของรุ่น IS250 F-Sport ก็ไม่ยาก เก็บเงินเพิ่มอีกล้านกลางๆ ไหวไหม?

VOLVO

V40..หลังจากที่ช่วงเปิดตัวมีกระแสความสับสนเรื่องเครื่องยนต์กับอุปกรณ์พอสมควร วันนี้ได้ฤกษ์
เปิดตัวแบบเต็มอิ่มพร้อมสเป็คใน Motorshow โดยเครื่องยนต์นั้น ยืนยันว่าเป็นแบบ T5 5 สูบ 2.0 ลิตร
213 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนเรื่องเชื้อเพลิงนั้น รองรับถึงแค่ E20 นะครับ
ไม่ใช่เติม E85 ได้แบบ S60 แต่มีระบบ City Safety ซึ่งจากเดิมจะทำงานได้ถึงความเร็ว 30 ก.ม./ช.ม.
รุ่นใหม่นี้จะเพิ่มเป็น 50 ก.ม./ช.ม. อีกทั้งยังมีระบบ Lane Keeping Assistance และ BLIS ไฟเตือน
รถมาในจุดบอดกระจกมองหลัง ราคารุ่น V40 B เริ่มที่ 1.68 ล้านบาท และ V40 S ราคา 1.79 ล้านบาท

VOLKSWAGEN

ยังไม่มี Golf Mk.7 บอดี้ใหม่มาเผยโฉมแต่อย่างใด แต่สำหรับคนที่กำลังเตรียมเงินซื้อตัวแรง จะบอกว่า
Golf GTi ในงานนี้ปะราคาเอาไว้ 2.359 ล้านบาท ซื้อรถแถมทอง 10 บาท ส่วน Scirocco นั้นไม่มีแถม
ทองคำหรือทองม้วนแต่ให้ชุดแต่ง R-Line พร้อมบำรุงรักษาฟรี 3 ปี 75,000 ก.ม. (ราคา 2.395ล้านบาท)

ทั้งหมดก็ที่ได้เผยไปนั้นก็คือบรรดารายละเอียดคร่าวๆของรถที่มาให้ท่านได้ยลโฉมกันในงาน
Bangkok International Motorshow ครั้งที่ 34 หากท่านใดสนใจ อย่าลืมแวะไปเยี่ยมไปชม
ไม่ได้คิดจะซื้อรถ ไปส่องพริตตี้ก็ยังดี หรือจะส่องหนุ่มหล่อก็ได้ (เอาให้ได้เอ็นจอยเท่ากันเลยทั้ง
สาวๆหนุ่มๆ) ขอให้มีความสุขกับการดูรถ Happy Motoring ครับทุกท่าน