Honda เพิ่งจะประสบวิบากกรรม Recall เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับถุงลมนิรภัยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2008 และมิถุนายน 2009 จำนวน 510,000 คันมาแล้วในสหรัฐอเมริกา และสิ้นเดือนมกราคมก็ต้องเรียกรถซับคอมแพคท์ยอดนิยมทั้ง Honda Jazz และ Honda City คืนเพื่อเปลี่ยนสวิตช์กระจกไฟฟ้าซึ่งถือเป็นเรื่องค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับวิกฤต Toyota อย่างน้อยจำนวนที่เรียกคืนก็เพียง 6 แสนกว่าคัน

 
 
 

ล่าสุด Honda ก็ต้องยอมรับตนเองอีกครั้งว่ารถยนต์ที่จำหน่ายไปถึง 437,763 คันทั่วโลกมีปัญหาเกี่ยวกับระบบถุงลมนิรภัยที่ผลิตล๊อตปี 2001 จนถึงปี 2002 หากแยกยอดเรียกคืนในตลาดสหรัฐอเมริกาก็จะมียอดเรียกคืนสูงถึง 378,758 คัน

รถรุ่นที่มีปัญหาก็ได้แก่ Accord,Civic,Odyssey,CR-V,Acura TL รุ่นปัจจุบัน,Pilot และ Acura CL บางกลุ่ม

ถุงลมนิรภัยเจ้าปัญหานี้เกิดขึ้นจากระบบอัดก๊าซในถุงลมอาจจะสร้างก๊าซมากเกินไป นั่นหมายความว่าขณะเกิดอุบัติเหตุจะทำให้ถุงลมนิรภัยแตกและอาจทำให้ผู้ขับขี่บาดเจ็บจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

โฆษกของ Honda กล่าวว่าการเรียกรถคืนเพื่อตรวจสอบครั้งนี้มีต้นทุนประมาณ 67 ดอลลาร์ต่อคันหรือรวมทั้งหมดก็จะราว 30 ล้านดอลลาร์

ส่วนพี่น้องชาวไทยนั้นก็คงจะกังวลและสงสัยว่ารถ Honda ในช่วงปี 2001-2002 น่าจะมีปัญหาหรือเข้าข่ายหรือไม่

ทางบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัดชี้แจงว่าชุดปั๊มแก๊ซถุงลมนิรภัยพบปัญหาในสหรัฐอเมริกและญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ทางบริษัทก็เตรียมเรียกรถที่ต้องสงสัยให้ปรับแรงดันแก๊ซเพื่อป้องกันอุบัติภัยล่วงหน้าตามมาตรฐานเชิงป้องกัน

ก็เป็นอันว่าผู้ใช้คงจะพอโล่งอีก 1 เปลาะนะครับ คงจะเหลือแต่ความเคลือบแคลงใจแล้วล่ะว่ารถ Honda ไทยปลอดภัยจริงกับผู้ใช้บางกลุ่มที่ยังสงสัยมิหาย