เราเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่มักรับรู้แบรนด์รถยนต์ Hyundai ว่าเป็นแบรนด์รถยนต์ราคาถูก คุ้มค่าที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน นั่นเป็นเพราะนโยบาย Hyundai Motor ระหว่างปี 1967-2000 ต้องต่อสู้ในอุตสาหกรรมยานยนต์โลกด้วยราคาขายและความคุ้มค่าเป็นหลัก

แต่ใคร ๆ ก็รู้ว่าเมื่อใดที่เข้าสู่วงจรการค้าขายด้วยราคาต่ำ เมื่อนั้นก็ติดกับดักวงจรอุบาทว์ทันที ตั้งแต่แบรนด์ที่ดูตกต่ำในสายตาลูกค้า, การหากำไรจำนวนมากไม่ได้ นอกเสียจากทำราคาถูกเพื่อให้ลูกค้าติดตลาดก่อนสำหรับอุตสาหกรรมที่เจาะไปจิตใจยาก

Mr, John Krafcik ซีอีโอ Hyundai  Motor อเมริกาประกาศในงาน Detroit Autoshow 2012 ว่าแบรนด์ Hyundai จะเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มี “คุณค่า” ไม่ใช่ขายด้วย “ความคุ้มค่า” เหมือนในอดีต เพื่อผลักดันราคาขายต่อรุ่นใหม่ให้สูงขึ้นและพร้อมผงาดขึ้นในแถวหน้าอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก

ราคารถยนต์ Hyundai รุ่นปี 2011 ล้วนแต่เป็นรถยนต์รุ่นเปลี่ยนโฉมก็ได้ขึ้นราคาเพิ่มขึ้นจากรถยนต์ Hyundai รุ่นปี 2011 ถึง 14% และยัดตัดงบส่วนลด 18% ลงอีกด้วย แต่เชื่อหรือไม่ลูกค้าเต็มใจที่จะซื้อรถ Hyundai รุ่นปี 2011 ที่แพงกว่า 2009 ราว 96% เมื่อเห็นราคาป้าย ( ผู้เขียน : คาดว่าอีก 4% น่าจะเป็นลูกค้าที่ยัดยึดติดว่า Hyundai ต้องราคาถูก)

Hyundai ไม่ได้ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนภาพลักษณ์และการรับรู้แบรนด์ใหม่ แต่ยังสามารถคว้าส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐอเมริกา 5.1% ในปี 2011 จนน่าจะเป็นทิศทางให้ Hyundai สามารถเติบใหญ่ในตลาดอย่างยิ่งใหญ่ได้ Hyundai สามารถขายรถยนต์ในตลาดสหรัฐอเมริกาได้ปี 2011 ได้ 645,691 คัน แบ่งออกเป็น Hyundai Elantra เติบโต 41% และ Hyundai Sonata เติบโต 15%