ปีนี้ดูเป็นอีกปีที่สำคัญของค่ายเสือดาว Jaguar เพราะมีความเคลื่อนไหวสำคัญๆตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถยนต์
สปอร์ตเปิดประทุนรุ่นใหม่ F-Type ที่ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และการประกาศจับมือกับ Chery เพื่อบุกตลาดจีน
แผ่นดินใหญ่ ซึ่งก็ได้ลงแผ่นศิลาฤกษ์อย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้

alt

ในอนาคต Jaguar เตรียมมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ด้วยการวางแผนพัฒนารถยนต์มาเป็นคู่แข่ง BMW 3-Series โดยตรง
ซึ่ง Adrian Hallmark ผู้บริหารระดับโลกของแบรนด์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมในกรณีนี้ว่า ถึงแม้ตลาดรถยนต์
SUV จะกำลังโตมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หากมองตลาดรถยนต์ซีดานแล้ว กลับมีส่วนแบ่งของตลาดที่มากกว่าตลาด SUV ถึง 2 เท่า
ดังนั้นการพัฒนารถยนต์ซีดานเพื่อมาต่อกรกับบรรดาคู่แข่งสัญชาติเยอรมันอย่าง BMW 3-Series, Mercedes-Benz C-Class
และ Audi A4 จึงสำคัญต่อแบรนด์ Jaguar มากกว่า และหากมองดูดีๆ ตลาดรถยนต์ SUV ก็ไม่ค่อยจำเป็นสำหรับแบรนด์
Jaguar เท่าไหร่ เพราะฝั่ง Land Rover เองก็ได้มีรถยนต์ SUV หลากหลายรูปแบบป้อนตลาดนี้อยู่แล้ว

โดย Jaguar ไม่เพียงแต่ตั้งใจพัฒนารถยนต์ซีดานรูปแบบ 4 ประตูเพียงอย่างเดียว เพราะ Hallmark ได้เฝ้ามองความสำเร็จ
ของทั้ง BMW, Mercedes และ Audi จากการต่อยอดรถยนต์ซีดานของตนออกมาในรูปแบบรถยนต์คูเป้ 2 ประตู
รถยนต์เปิดประทุน และแบบแวกอน พร้อมเครื่องยนต์หลากหลายขนาดและรูปแบบ ที่กวาดยอดขายและความนิยมจาก
ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ดังนั้นในอนาคต Jaguar เตรียมแตกไลน์รถยนต์ของตน พร้อมนำเสนอเครื่องยนต์หลากหลาย
มากกว่านี้แน่นอน

นอกจากนี้ Jaguar ยังวางแผนเพิ่มออฟชั่นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับรถยนต์ที่จะเปิดตัวในอนาคตทุกรุ่นอีกด้วย หลังจากนำร่อง
เพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับ Jaguar XF และ XJ ไปเมื่อก่อนหน้านี้ โดยหลังจากหยั่งเชิงเปิดตัวระบบขับเคลื่อน 4 ล้อให้กับ
ตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ก็ได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีการนำ XF และ XJ พร้อมระบบขับ
เคลื่อน 4 ล้อกลับเข้าไปจำหน่ายในประเทศอังกฤษในตอนนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่า เครื่องยนต์เบนซิน V6 ที่จับคู่กับระบบขับเคลื่อน
4 ล้อนั้นไม่เป็นที่นิยมในอังกฤษเลย ซึ่งในอนาคต Jaguar จะพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ๆของตน ให้พร้อมแก่การรองรับระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อทุกรุ่น อย่างแน่นอน