ทุกวันนี้มีรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเพียงไม่กี่รุ่นเท่านั้น ที่ยังคงเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังอยู่ ซึ่งมีจุดเด่นให้การขับขี่สนุกมากขึ้น
แต่มีต้นทุนการพัฒนาและผลิตที่สูงขึ้นเช่นกัน สำหรับ Mazda แล้ว ด้วยความที่มีปรัชญาของแบรนด์เป็นการเน้นความสนุกใน
การขับขี่ จึงมีการรายงานว่าเหล่าทีมวิศวกรกำลังผลักดันแนวคิดการพัฒนาระบบขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับรถยนต์ของตนให้เป็นจริง
ในขณะนี้

alt

รายงานนี้ ถูกเปิดเผยโดย Edmunds สื่อรถยนต์ชื่อดังของยุโรป โดยมีการกล่าวว่า ทีมวิศวกร Mazda เล็งเห็นว่า การที่รถยนต์
Mazda ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง จะช่วยสร้างความแตกต่างจากแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆอย่างชัดเจน อีกทั้งยังจะช่วยยกระดับมาตรฐาน
การขับขี่ของรถยนต์ Mazda ให้สูงขึ้นได้ด้วย

ซึ่งทีมวิศวกรระดับกลางและอาวุโสของ Mazda กำลังนำเสนอและผลักดันให้แนวคิดนี้เป็นจริง แต่ทีมผู้บริหารสูงสุดของค่ายกลับ
มีความรู้สึกลังเลต่อแนวคิดนี้ เพราะการใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง อาจต้องใช้งบลงทุนมากเกินไป และคืนผลกำไรกลับมาได้
ไม่มากเท่าที่ควร

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นไปได้สูงว่า Mazda จะจับมือร่วมกับ Alfa Romeo อีกครั้งในการสานแนวคิดนี้ให้เป็นจริง เพราะ
ทาง Alfa Romeo เอง ก็กำลังมีความคิดที่จะเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลังสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ๆของตนเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น
ก็ต้องรอดูโครงการ Alfa Romeo Spider/Mazda MX-5 โฉมใหม่กันก่อน ว่าความร่วมมือของทั้งคู่จะไปได้สวยขนาดไหนกัน

ที่มา : Edmunds