คล้อยหลังการทดลองขับ Mazda 3 ใหม่ แบบ First Impression ของ Headlightmag.com ไปเพียง
สัปดาห์เดียว ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องเลิกบ่นว่า “เมื่อไหร่ Mazda 3 ใหม่ จะมาเสียที?” กันได้แล้ว
เพราะวันนี้ (17 มีนาคม 2011) Mazda Sales (Thailand) พร้อมแล้ว เพียงบางส่วนในการเปิดตัว
Mazda 3 เจเนอเรชันที่ 2 ทั้งตัวถัง Sedan 4 ประตู และ Hatchback 5 ประตู ออกสู่ตลาดเมืองไทย
อย่างเป็นทางการ

ที่บอกว่า พร้อมเพียงบางส่วน นั่นเพราะว่า ในช่วงแรกที่จะออกจำหน่าย Mazda 3 ใหม่ จะมี
เครื่องยนต์ให้เลือกเพียงแบบเดียว เป็นขนาด 2.0 ลิตร นั่นเพราะว่า ก่อนหน้านี้ มีการพูดคุยกัน
เป็นการภายใน ว่า ในเมื่อเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร นั้น ยังปรับปรุงกันอยู่ และมีปัญหาล่าช้าในด้าน
การขนส่งชิ้นส่วนจากโรงงานในญี่ปุ่น มายังประเทศไทย บางประการ จึงทำให้รุ่น 1.6 ลิตร จะ
เปิดตัวล่าช่าไปถึงปลายไตรมาส 3 หรือต้น ไตรมาส 4 ดังนั้น Mazda Sales Thailand จึงตัดสินใจ
ร่วมกับทางตัวแทนของดีลเลอร์ว่า จะไม่รอเปิดตัวพร้อมกันช่วงปลายปีแล้ว เพราะไม่เช่นนันจะ
เสียโอกาสในการทำตลาด จึงมีความเห็นพ้องต้องกันออกมาว่า เปิดตัวรุ่น 2.0 ลิตรก่อนในเดือน
มีนาคมนี้กันเลยจะดีกว่า แล้วปล่อยให้รุ่น 1.6 ลิตร ใหม่ ตามมาสมทบอีกครั้ง ช่วงปลายปีนี้

Mazda 3 ใหม่ ถือเป็น “รุ่นเปลี่ยนโฉมใหม่ทั้งคันแบบ Full Model Change” ยังคงเอกลักษณ์
เฉพาะตัวของ Mazda ภายใต้คอนเซ็ปต์ “DARE TO BE BOLD” ด้วยรูปลักษณ์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว
ทั้งภายนอกและภายใน เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมยานยนต์ล้ำอนาคต พร้อมระบบความปลอดภัย
เต็มคัน

Mr.Yuji Nagamine ผู้บริหารระดับสูง Mazda Motor Corporation กล่าวว่า แบรนด์ของรถยนต์นั่ง
Mazda กำลังเติบโตอย่างมากในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ด้วยเช่นกัน
โดยเฉพาะรถยนต์นั่ง Mazda 3 ในตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดหลักและสำคัญอย่างยิ่งใน
ภูมิภาคนี้ ที่ยังคงอยู่ในความสนใจของลูกค้านับตั้งแต่เปิดตัวเป็นครั้งแรก สำหรับปีนี้ส่วนแบ่ง
ตลาดของ Mazda 3 ในกลุ่ม C-Segment Compact Car  กำลังจะเติบโตถึง 7 เปอร์เซ็นต์ในไทย
ความสำเร็จที่กล่าวมาเหล่านี้ ทำให้ผมมั่นใจมากในโอกาสเติบโตของแบรนด์รถยนต์ Mazda  
การเปิดตัว Mazda 3 Generation ใหม่นี้ ยุทธศาสตร์อีกมุมหนึ่งของ Mazda Motor Corporation
จากที่ท่านทราบมาก่อนหน้านี้ว่าโรงงาน Auto Alliance (Thailand) ประสบความสำเร็จอย่างมาก
ในฐานะที่เป็นฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตันของมาสด้าสู่ตลาดโลก บทบาทของโรงงาน
AAT ในปัจจุบันนี้ได้ขยายฐานะขึ้นสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์นั่งอีกด้วย เพราะโรงงาน
AAT มีความพร้อมเต็มที่ในการผลิตรถคุณภาพสูงให้แก่ผู้บริโภค ทั้ง Mazda 2 และ Mazda 3
ใหม่ ที่ผลิตในประเทศไทย จะเป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ของ Mazda
สำหรับตลาดประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน

Mazda 3 ใหม่ นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของทีมวิศวกร Mazda เพราะได้รับการกล่าวขวัญว่า
เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นที่มีคุณภาพเหนือกว่ารถชั้นนำกว่า 39 รุ่น โดยประสบความสำเร็จด้านยอดขาย
อย่างมากมายจากทั่วโลกถึง 2,900,000 คัน และในประเทศไทยเป็นจำนวนสูงถึง 28,000 คัน และ
เป็นเจ้าของรางวัลคุณภาพจากทั่วโลกแล้วกว่า 124 รางวัล รวมทั้งผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ
5 ดาว ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตลาดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก
Mazda จึงเชื่อมั่นว่า ความสำเร็จของ Mazda 3 ใหม่ จะเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Mazda
เติบโตอย่างแข็งแกร่งในประเทศไทย นอกเหนือจากนี้ Mazda ยังได้เตรียมความพร้อมไว้รองรับ
หลายด้าน ได้แก่ การเตรียมความพร้อมของผู้จำหน่ายทั้งรูปลักษณ์ของโชว์รูมที่ Mazda ได้ปรับ
รูปแบบใหม่หมด รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ Mazda ใส่ใจเป็นพิเศษ

Mr.Shoichi Yugi กรรมการผู้จัดการ บริษัท Mazda Sales (Thailand) กล่าวว่า Mazda 3 เปิดตัวครั้งแรก
ในประเทศไทยเมื่อปลายปี 2004 ครั้งนั้นได้สร้างประวัติศาสตร์การขายรถต่อวงการรถยนต์เมืองไทย
เป็นอย่างมาก โดยมีการซื้อขายใบจองรถ Mazda 3 ด้วยราคาที่สูงมาก พร้อมทั้งกลายเป็นรถยนต์เพียง
รุ่นเดียวที่สามารถมียอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีและยังคงเพิ่มขึ้นต่อไปเรื่อยๆ แม้กำลังจะเปลี่ยนโฉมใหม่
ซึ่งนับเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง

Mazda 8าดหวังว่า การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในวันนี้ จะส่งผลให้ยอดขายน่าจะเกินเป้าหมายที่เรา
วางไว้ประมาณ 38,500 คัน หลังจากที่เราได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าในการทำการสำรวจ
ตลาดไปก่อนหน้า นอกจากรูปลักษณ์ดีไซน์ที่เน้นความเป็นสปอร์ตแล้ว ที่สำคัญ Mazda 3 รุ่นใหม่นี้
ยังมีสมรรถนะและมาตรฐานเทียบเท่ารถยุโรปสุดหรู และเป็นยนตรกรรมคุณภาพที่ผู้บริโภครอคอย
มากที่สุดในปีนี้”
 
สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท Mazda Sales (Thaland) กล่าวว่า
แนวทางการทำตลาดจะเน้นภาพลักษณ์ของความเป็นรถยนต์สปอร์ตที่ดีที่สุดในตลาดรถกลุ่ม C-Car
ในเมืองไทย ซึ่งเป็นตลาดหลักของหลายยี่ห้อ และยังมีช่องว่างในการเข้าไปทำตลาด ซึ่งยังไม่มี
แบรนด์ใดสามารถครองส่วนแบ่งแบบถาวร และถือเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค

All New Mazda3 เจเนอเรชั่นใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน ภายใต้
DNA ของ Mazda อันประกอบไปด้วย Stylish รูปลักษณ์ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว Insightful ความพิถีพิถัน
ทุกรายละเอียด และ Spirited ขีดสุดแห่งพลังที่สอดคล้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นรถยนต์นั่งที่โฉมเฉี่ยว
สไตล์ Zoom-Zoom รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 2000 ซีซี. ที่ได้รับการปรับแต่ง
ให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ให้กำลังสูงสุด 147 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบต่อนาที และ
ให้แรงบิดสูงสุดถึง 182 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Active Matic
5 จังหวะ เป็นเกียร์ลูกใหม่ล่าสุด ที่พัฒนามาให้มีความนุ่มนวลและต่อเนื่อง พร้อมแป้น Paddle Shift
สามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ ที่พวงมาลัย พร้อมระบบควบคุมเกียร์ AAS (active
 Adaptive Shift) สามารถควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ให้เหมาะโดยอัตโนมัติตามสไตล์ของผู้ขับขี่ให้สัมผัส
ถึงความเป็นสปอร์ตและควบคุมรถได้อย่างมั่นใจ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบไบซีนอนพร้อมระบบ
เปิด-ปิดอัตโนมัติ ไฟท้ายแบบ LED รูปทรงสปอร์ต ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry เปิด-ปิดประตู
โดยไม้ต้องใช้กุญแจหรือรีโมท พร้อมระบบ Push Start Button เพียงปลายนิ้วสัมผัส ซันรูฟเปิด-ปิด
ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบการควบคุมการทรงตัว DSC ให้ความมั่นทุกการ
เข้าโค้ง ล้ออัลลอยด์ลายสปอร์ตเรียบหรูขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางซีรีส์ต่ำเช่นเดียวกับรถสปอร์ตชั้นนำ

กลยุทธ์ด้านราคา เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทาง Mazda พิจารณาในการนำ Mazda 3 เจเนอเรชั่นใหม่ ลงสู่ตลาด
ด้วยราคาเริ่มต้นเพียงล้านต้นๆ เท่านั้น โดยเริ่มแรกจะมีด้วยกัน 2 รุ่น คือ รุ่น Hatchback 5 ประตู และ
รุ่น Sedan 4 ประตู มีให้เลือกทั้งหมด 7 สี

– รุ่น Maxx A/T                เกียร์อัตโนมัติ      ราคาจำหน่าย    1,064,000 บาท
– รุ่น Maxx Sports A/T     เกียร์อัตโนมัติ      ราคาจำหน่าย    1,064,000 บาท

คุณสุรีทิพย์ กล่าวว่า สำหรับ Mazda 3 ใหม่ ทาง Mazda ได้กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้อย่างชัดเจน
ซึ่งเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ มีความมั่นใจในตัวเองสูง ไม่ชอบตามใคร มี
ความเป็นเป็นผู้นำ และประสบความสำเร็จทั้งด้านการหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตอย่างอิสระ ซึ่งจะ
สื่อสารด้วยภาพยนตร์โฆษณาความยาว 45 วินาที โฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ นิตยสาร สื่อป้าย และสื่อ
ออนไลน์ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยเน้นกระแสจากกรุงเทพฯ เป็นหลัก
และในหัวเมืองหลักๆ ในต่างจังหวัด ทั้งนี้ Mazda ได้ทำงานร่วมกับผู้จำหน่ายในแต่ละพื้นที่ เพื่อ
การลงพื้นที่จัดกิจกรรมการตลาดเพื่อเปิดตัวรถอย่างเต็มที่ทั่วประเทศ ในลำดับถัดไป

ตัวจริงของ Mazda 3 ใหม่ จะถูกส่งไปอวดโฉมในงาน Bangkok International Motor Show ระหว่าง
วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม – 4 เมษายน นี้ ที่ Challenger Hall IMACT เมืองทองธานี

ถ้าอยากรู้ว่า ผลการทดลองขับคร่าวๆ เป็นอย่างไร คลิกอ่านได้ที่ Unexpected First Impression : The New
Mazda 3 ได้ที่ Flash หน้าแรกของ www.Headlightmag.com

——————————–///———————————–