หลังการประกาศของ Mitsubishi Motors ไม่กี่วัน ทาง Mazda Sales Thailand ก็ร่อนถ้อยแถลง
มาถึงเราเมื่อวานนี้ (11 พฤษภาคม 2011) สรุปว่า หลังจากที่เกิดความไม่แน่นอนในสถานการณ์
การจัดส่งชิ้นส่วน จนมีผลถึงการผลิตรถยนต์ในบ้านเราที่โรงงาน AAT จำเป็นต้องลดลง ตอนนี้
ทุกอย่างกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

รายละเอียด เป็นไปตาม Press Release ข้างล่างนี้ครับ

กรุงเทพฯ – ประเทศไทย, 11 พฤษภาคม 2554 – บริษัท Mazda Sales (Thailand) จำกัด ออกมา
ประกาศความพร้อมอย่างชัดเจนเดินเครื่องต่อเรื่องการขาย และการผลิต ด้วยการสนับสนุนด้าน
ชิ้นส่วนอย่างเต็มที่จากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น แม้ว่าผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสึนามิ
ที่พัดถล่มภาคตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในวงกว้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งซัพพลายเออร์ และผู้ผลิตชิ้นส่วน อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การ
ผลิตรถยนต์ในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากชิ้นส่วนที่ต้องนำเข้า ซึ่งทำให้ตลาด
รถยนต์ของไทยอาจจะประสบปัญหาซบเซาไปยาวนานหลายเดือน ขณะนี้ สถานการณ์ของ
อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดจำหน่ายในเดือน
เมษายน ซึ่งเป็นเดือนที่มีช่วงเทศกาลสงกรานต์และมีวันหยุดยาว และงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งถือว่า
เป็นฤดูของการซื้อรถ โดยการขาดแคลนชิ้นส่วนนำเข้าจากญี่ปุ่น ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถ
ผลิตได้ตามเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ และเกิดความล่าช้าในการส่งมอบจากกำหนดการที่ได้แจ้งลูกค้า
ไว้ตั้งแต่แรก

มาสด้าได้พยายามทุ่มเทอย่างเต็มที่ เพื่อทำการส่งมอบรถยนต์ให้ได้จำนวนมากที่สุดเท่าที่เป็น
ไปได้ โดยส่งผลกระทบน้อยที่สุดกับลูกค้าชาวไทย ทั้งนี้ มาสด้าได้ส่งสัญญาณที่ดีมายังผู้บริโภค
 ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างมากในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ รวมทั้งความสำเร็จอย่างมากมาย
ในปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับมาสด้าประเทศไทยเป็นอันดันต้นๆ
ของตลาด ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อให้การผลิตเป็นไปตามเป้าหมาย
และแผนงานต่างๆ ที่วางไว้ มาสด้ามั่นใจอย่างยิ่งว่าจะสามารถส่งมอบรถยนต์รุ่นใหม่ทุกรุ่นให้
ทันตามความต้องการของลูกค้าได้

มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า มาสด้าเชื่อมั่นต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย
แม้ว่าจะประสบเหตุการณ์ภัยพิบัติในญี่ปุ่นและอุทกภัยทางภาคใต้ก็ตาม ตลาดประเทศไทยได้รับ
การให้ความสำคัญในลำดับต้นๆ ในการสนับสนุนชิ้นส่วนจากบริษัทแม่ และเราได้แสดงให้เห็น
ถึงศักยภาพการวางแผนรับมือและการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผล
กระทบเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกค้า ผู้จำหน่าย ซัพพลายเออร์ และทุกๆ ส่วนที่เกี่ยวข้อง

มร. โชอิชิ ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยในเดือนพฤษภาคม รถที่ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศจะ
ผลิตได้น้อยกว่าปกติก่อนหน้าเกิดเหตุภัยพิบัติบ้างเล็กน้อย แต่จะสามารถเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ ใน
เดือนต่อๆ ไป มาสด้ายังคงเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่าง
มากอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากระบบเศรษฐกิจมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะภาคการเกษตรและการ
ท่องเที่ยวยังคงขยายตัวต่อเนื่อง และอีกส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากกำลังซื้อ
ของผู้บริโภคในภาคเกษตรที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยรายได้เกษตรกรขยายตัวสูงจากระยะ
เดียวกันปีก่อนจากทั้งด้านผลผลิตเกษตรและด้าน ราคาพืชผลผลิตเกษตรขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง

สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า ตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายน
ที่ผ่านมา มาสด้ายังคงรักษายอดขายในระดับสูงกว่า 3 พัน เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน โดยมียอดขาย
รวมทั้งสิ้นสูงถึง 3,141 หรือลดลงเล็กน้อยเพียงแค่ 9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดือนเดียวกัน
ของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็นมาสด้า2 ทั้งรุ่นแฮตช์แบค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู มียอดขาย
สูงสุดจำนวนถึง 2,054 คัน สำหรับ รถปิคอัพ Mazda BT-50 จำนวน 682 รถยนต์นั่ง Mazda 3 มี
จำนวน 399 คัน Mazda MX-5 จำนวน 3 คัน และ Mazda CX-9 จำนวน 3 คัน ส่วนยอดขายรวม
ทุกรุ่น 4 เดือนแรกของปีนี้สูงถึง 13,089 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วง
เดียวกันของปีที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตสูงเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับยอดขายรถยนต์มาสด้า
ที่ยังคงรักษาระดับที่ 3,000 คัน เนื่องมาจากการยอมรับของลูกค้าในวงกว้างในเรื่องบุคลิกของรถ
ที่โดดเด่นในตลาด คุณภาพและสมรรถนะของตัวรถ ควบคู่กับปัจจัยเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณที่
ดีขึ้น ทำให้ยอดขายของมาสด้าคึกคักและเติบโตต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน พร้อมเดินหน้าบุก
ตลาดทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยยังคงเน้นนำเสนอคุณภาพและการบริการที่เป็นเลิศ ผ่าน
กลยุทธ์การตลาดไลฟ์สไตล์ (Lifestyle Marketing) ด้วยกิจกรรมการตลาดที่สอดคล้องกับการ
ดำเนินชีวิตของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเตรียมนำรถยนต์รุ่นใหม่ และรุ่นพิเศษ เปิดตัวสร้าง
ความคึกคักให้กับตลาดรถยนต์ในเร็วๆ นี้

สำหรับตลาดรถยนต์ของประเทศไทยในเดือนเมษายน 2554 ที่ผ่านมา ยังคงสามารถเติบโต
อย่างต่อเนื่อง โดยมียอดการขายรวมทั้งสิ้นคัน 66,717 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 17%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็นรถปิคอัพ 1 ตัน จำนวน 27,852 คัน
รถยนต์นั่ง Sub-Compact Car หรือ B-Segment จำนวน 18,383 คัน รถยนต์นั่งขนาดกลางหรือ
C-Segment จำนวน 8,505 คัน รถอเนกประสงค์จำนวน 4,182 คัน รถยนต์นั่งขนาดกลางถึง
ใหญ่หรือ D-Segment จำนวน 2,216 คัน และกลุ่มตลาดอื่นๆ อีกจำนวน 5,579 คัน

สุรีทิพย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิในประเทศญี่ปุ่น ทำให้
ลูกค้าที่กำลังพิจารณาซื้อรถและที่จองรถไว้แล้วเกิดความกังวลในเรื่องของเวลาการส่งมอบรถ  
มาสด้าขอยืนยันว่าลูกค้าที่สนใจยังคงสั่งจองรถรุ่นที่ต้องการได้ที่โชว์รูมทั้ง 121 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้การส่งมอบรถยนต์ Mazda 3 รุ่นเดิม 1.6 ลิตรยังคงสามารถทำได้เป็นปกติ จะมีเพียงรถยนต์
รุ่น Mazda3 รุ่นใหม่ 2.0 ลิตร เท่านั้น ที่จะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าได้ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เป็น
ต้นไป โดยทยอยส่งมอบให้ตามลำดับการจองก่อน-หลัง และในเร็วๆ นี้ จะนำคณะสื่อมวลชน
เดินทางไปร่วมทดลองขับสมรรถนะที่โดดเด่นของรถรุ่นใหม่นี้

——————————————————————————