การกำเนิดตระกูล B-Class ของ Mercedes-Benz เป็นการมองเห็นช่องว่างระหว่าง A-Class และ C-Class ที่ห่างไกลกันจนน่าจะรถรุ่นใหม่มาอุดช่องว่างหนำซ้ำก็สามารถปั้นให้เป็นคู่ชก BMW 1-Series ได้ไปในตัวด้วย

วิธีการพัฒนา B-Class ไม่ซับซ้อนนักแค่นำพื้นฐานของ A-Class มาพัฒนากระดองใหม่ให้มีขนาดตัวถังพอ ๆ กับ Volkswagen Golf แต่ความสูงของรถก็ไต่ระดับไปที่ 1.6 เมตรกว่า ก็น่าจะทำให้ B-Class เป็นรถอเนกประสงค์ 5 ที่นั่งแทนที่ A-Class ฐานล้อยาวในรุ่นเก่าไปในตัวด้วย

 
 

B-Class เปิดตัวครั้งแรกในโลกช่วงเดือนมีนาคม 2005 หลังการเปิดตัว A-Class 1 ปี แต่เสียงตอบรับของแฟนตราดาวทั่วโลกกลับเงียบเหงาเสียเหลือเกิน (เมื่อเทียบคุณค่าตราเบนซ์ที่ปะหน้ากระจัง) คงมีเพียงตลาดยุโรปและบางประเทศที่สามารถทำยอดขายได้เรื่อย ๆ นั่นคงเป็นเพราะว่าบุคลิคของ B-Class ใกล้กับ A-Class อยู่ดีแม้มีขนาดตัวถังที่ใหญ่กว่าชัดเจน แต่ภายในห้องโดยสารก็ไม่ได้ใหญ่กว่ากันมากนัก

จนในที่สุด Mercedes-Benz จึงจัดการสร้างความแตกต่างระหว่าง A และ B Class ให้ชัดเจน และ Mercedes-Benz ต้องปฏิบัติการผ่าตัดเปลี่ยนตำแหน่งให้กับ B-Class เสียก่อน

งานนี้ Mercedes-Benz ตั้งใจให้ B-Class กลายเป็นรถคอมแพคท์หรูหราที่มีความน่าดึงดูดใจสำหรับคนรุ่นใหม่ และทำตลาดหลากหลายตัวถังเฉกเช่นเดียวกับรุ่นพี่ B-Class รุ่นแรกจะมาในมาดแฮทช์แบค 5 ประตูอเนกประสงค์ทรงสปอร์ตที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของ Mercedes-Benz

 
 

อนาคตอาจจะนำเสนอตัวถัง ซีดานคูเป้ที่ดูคล้าย ๆ CLS ใช้ชื่อว่า BLS ที่มีรหัสพัฒนา C117 ถูกสร้างขึ้นเพื่อทดแทน CLC ที่วางจำหน่ายมานานโข และอาจจะมีเวอร์ชันคูเป้เปิดประทุนอีกด้วย

การปรับภาพพจน์ตระกูล B-Class ชัดเจนแล้วว่าจะต้องต่อกรกับ BMW 1-Series,Audi A3 รวมไปถึง Lexus CT อีกด้วย ส่วนความชัดเจนของ A-Class ขณะนี้เรายังไม่แน่ใจว่าจะวางตำแหน่งไว้อย่างไรแต่คาดว่าคงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ B-Class ที่จะทำตลาดภายในปลายปี 2011 มีภาพแอบถ่ายขณะขับขี่เพื่อทดสอบความทนทานและเก็บข้อมูลการใช้งานจริง ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าดีไซน์ตัวถังจะมาในแนว Blue Zero Concept ที่อวดโฉมในงาน NAIAS และ Frankfurt ในปีนี้นั่นเอง ซึ่งมาในแนวสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากขึ้นขณะที่ไม่ละทิ้งความสบายของห้องโดยสาร

 
 

พื้นตัวถังของ B-Class โฉมใหม่จะไม่ใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าแบบแซนด์วิชดั้งเดิมซึ่งมีข้อเสียทั้งหนัก ขนาดหนาจนทำให้จุดศูนย์ถ่วงสูงเกินจำเป็น ที่สำคัญต้นทุนการผลิตสูงเกินความจำเป็นอีกต่างหาก ดังนั้น B-Class โฉมใหม่จะใช้พื้นตัวถังสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าหรือ MFA (Mercedes Frontwheel Architecture) ที่จัดวางเหมือนรถยนต์นั่งขับเคลื่อนล้อหน้าทั่ว ๆ ไป

ค่อนข้างแน่นอนว่าชาวอเมริกันจะได้ใช้ B-Class โฉมใหม่ภายในปลายปี 2011 และน่าจะเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน Geneva 2011 ส่วนประเทศไทยหากยังไม่เข็ดกับ B-Class ก็อาจจะสั่งเข้ามาจำหน่ายก็เป็นได้ หากไม่สั่ง B-Class รุ่น 5 ประตูพื้นฐาน อาจจะนำเข้า BLS มาจำหน่ายก็ยังมีความเป็นไปได้สูงครับ