เหตุเกิดที่…พัทยา
อะอะ…สงสัยล่ะสิว่าเราสองคน เอก และ กอล์ฟ มาทำอะไรที่ Hilton Pattaya
โรงแรมใหม่ซิงๆหรูได้ใจได้โล่ห์กลางเมืองพัทยา
มาพักผ่อนกันเล่นๆ…แล้วโพสให้คนอื่นอิจฉา??
หรือจะมาป่วนอัลคาซ่าเล่นๆ??
หรือขับรถเผาน้ำมันขำๆ มาช้อปปิ้งงานลดราคาที่เซ็นทรัล เฟสติวัล พัทยา??
เปล่าเลย…เราสองคนได้รับภารกิจจากหัวหน้าใหญ่ตัวยักษ์!!…นามว่าจิมมี่ ให้มาตามคำเชิญ
ของทาง Michelin ร่วมทดสอบยางประหยัดน้ำมัน Michelin Energy รุ่นใหม่ XM2 เพื่อมา
เขียนรีวิวให้คุณผู้อ่านตามสไตล์ของเว็บเรา…เอกและกอล์ฟจะไม่อ้อมค้อม จัดเต็มจัดหนัก
ให้คุณผู้อ่านได้เห็นจะๆ กันไปเลยว่าของเขาน่าใช้จริงหรือไม่
แล้วบทสนทนาของเราสองคนก็เริ่มที่ตรงนี้…
วันที่หนึ่ง…เมื่อถึงโรงแรม
กอลฟ์: คือ ส่วนตัวกอฟท์เองเรียนทางด้านสิ่งแวดล้อมมาเลยนะ เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องยางประหยัด
น้ำมันเท่าไร ผู้ผลิตอาจจะคิดว่าการทำยาง ให้แรงเสียดทานน้อยลง ก็ต้องช่วยการประหยัดน้ำมัน
ได้มาก แต่การลดแรงเสียดทาน มันก็ทำให้เกาะถนนแย่ลงหนะะสิ อยากรู้นักว่ามันจะทำได้จริง
อย่างที่โม้รึเปล่า มันจะล้ำหน้าได้แค่ไหนกันเชี้ยวว? มันน่าจะขึ้นอยู่กับเท้ามากกว่าว่าจะเท้าหนัก
มากน้อยแค่ไหน น่าจะดัดสันดานคนขับมากกว่า เนอะๆ…
เอก: ยางประหยัดน้ำมัน…ฟังชื่อสินค้าดูหลายๆคนอาจจะคิดไปก่อนเลยว่าไม่ดี แต่เอกจะไม่เชื่อ
จนกว่าจะได้ ลอง…แต่มาเจอโรงแรมหรูซะขนาดนี้ ไม่อยากทดสอบแล้วอะยงยางอะไรนี่ ตอนนี้
อยากนอนมากกว่า
กอล์ฟ: เออ…จริง…ไม่อยากรีวิวอะไรแล้ว ไม่สนใจแล้วยงยางอะไรเนี่ย…โรงแรมสวยขนาดนี้
หลังจากนั้น…ก็ถึงเวลา 5.45pm ที่ทางมิชลินนัดไว้ให้มาฟังอะไรที่”เขา”อยากให้ฟัง
ซึ่งเรื่องที่ได้ฟังส่วนใหญ่ก็แค่พยายามจะบอกเราว่า ของเขาดียังไง สุดยอดยังไง หลังจาก Presentation นั้
อันยืดยาวจบลง ผมกับพี่กอล์ฟจึงมาคุยกันต่อว่า…
เอก: พี่…หิวข้าวอะ แถม presentation ก็ลึกๆเยอะๆ ฟังแล้วเวียนหัว สรุปแล้วควรจะได้สาระอะไรมาบ้างเนี่ย
กอล์ฟ: สาระเหรอ จริงๆ เขาแค่อยากจะบอกว่า เขาดีกว่าคู่แข่งยังไงนั้นและ ดีกว่ายังไง จริงๆ แล้ว มองว่าดีกว่า
ด้วยเสริมประสิทธิภาพยาง
Alternate Bridging Technology การออกแบบผิวชั้นในของยางให้สลับฟันปลาเพื่อให้เกิดความแข็งแรง
ลดการให้ตัวของหน้ายางแต่ยังคงน้ำหนักยางที่ไม่หนักจนเกินไปไว้ได้
Micro Adaptive Compound เนื้อยางสูตรปรับปรุงให้ยืดหยุ่นได้ดี มีการซับความขรุขระได้สูงขึ้น และเกาะถนนได้ดีขึ้น
Optimum Void Grooves ออกแบบร่องรีบน้ำใหม่ให้รีบน้ำได้ดีขึ้นแต่ไม่เสียความทนทาน
Full Silica Compound เนื้อยางที่ลดการเสียดสีทำให้ยืดอายุการใช้งาน
เอก: เออช่าย เห็นเน้นจังว่ายางเขาทนจริงอะไรจริง แถมประหยัดกว่าคู่แข่ง พรุ่งนี้ต้องพิสูจน์ซะหน่อยและ
เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้การทดลองขับในวันพรุ่งนี้เป็นการขับแบบเรื่อยๆมั่วซั่ว (แบบว่าขอดูดีมีหลักการนิดนึง)
เราจึงขอตั้งโจทย์สำหรับการทดสอบพรุ่งนี้ไว้หลักๆ 3ข้อ
1) ขับดีไม่ร่อนและรีดน้ำดี…อย่างที่โฆษณาไว้นักหนาหรือไม่?
2) ทนขึ้นจริงไหม??
3) แล้ว…หัวข้อที่หลักๆคนน่าจะอยากรู้เป็นที่สุด…มันช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้จริงหรือ??
โดยพวกเราสองคนจะไม่สนใจว่ามันจะใช้เทคโนโลยีขั้นเทพจากสถาบัน ลอรีอัล ปารีส หรือไม่อย่างไร
สนแค่ว่าพอขับแล้วของเขาดีจริงหรือไม่….ถ้าไม่ดีมีโดนแน่
…วันที่สอง…วันทดลองขับจริง
ถึงแม้ว่าเราสองคนจะไม่อยากลุกออกจากเตียงนุ่มๆ บนชั้น32 ของโรงแรมสักเท่าไหร่ แต่ด้วยภารกิจเช้านี้
เราต้องทดลองขับ แถม organizer ก็โทรมาตามแล้ว จึงต้องจำใจลา มาถึงสนามบินอู่ตะเภา สนามบินที่สร้าง
บนความร่วมมือระหว่างทหารเรือไทยกับอเมริกันที่สร้างเพื่อรองรับปฏิการณ์สงครามเวียดนามตั้งแต่ สมัย
พุทธศักราช 2508 ขนาดใหญ่ถึง 20,000 ไร่ ความยาวสูงสุดถึง 3,502 เมตรเลยทีเดียว ใหญ่โตพอที่จะทำการ
ทดลองได้เป็นอย่างดี
กอล์ฟ: สถานีแรก ขับเล่นๆ รอบอู่ตะเภา เอาสิ พามาขับรถเล่นรอบๆ สนามบิน มันธรรมดาไปไหม แต่ความ
ไม่ธรรมดามันก็มีนะ เพราะเราทำบุญมาดีจริงๆ นะ ได้ขับ Lexus CT200h แบบเก๋ๆ…ไม่ได้ตั้งใจนะ แต่เขา
จัดมาให้จริงๆ 5555 รถดี หรือไม่ดี ไม่พูดถึงดีกว่าไหม เดี๋ยวจะนอกเรื่อง เอาเป็นว่าเรากลับมาสนใจยางกันเถอะ
งานนี้ทางมิชลิน จัดให้เราขับรอบๆ สนามบินกันครับ โดยที่ได้ทดสอบบนถนนรอบๆ สนามบิน ซึ่งมีหลาย
รูปแบบถนนครับ ทั้งที่เป็นพื้นปูน พื้นราดยาง พื้นลูกรังเล็กๆ พร้อมกับให้ชมวิวๆ รอบทางไปพร้อมๆ กัน
ที่แปลกมาก คือ ยางไม่ได้เงียบมาก เท่าที่ควรจะเป็น ในพื้นปูน และราดยาง แต่มันเงียบมากกกกกกกกก ใน
พื้นลูกรังเล็กๆ ครับ ตลกมากกกกกก สรุปเลยไม่รู้ว่ามันดีไหมกับยางแบบนี้
หลังจากได้ขับกันไปสักระยะ ก็ให้สลับเปลี่ยนกับคู่ขับรถครับ
เอก: เออจริง…มันเหมือนรถบนถนนให้ราบเรียบไปเหมือนมันไม่ใช่ถนนลูกรังเลย ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็น
Lexusนะ แต่มาจากยางล้วนๆ ส่วนเสียงนี่ อยากไปดูในรถคันอื่นดีกว่า Lexus มันทำมาเน้นเงียบๆอยู่แล้ว
ไม่เห็นหรอก
ขอพูดถึงน้องเล็กซัสหน่อยดีกว่า…ตอนที่มันออกใหม่ๆแอบอยากจะเอาน้อง Camry Hybrid ไปเทิร์นเป็นคันนี้
ซะจริงๆ ราคาก็ต่างกันไม่เยอะ พอมาขับจริงก็รู้สึกว่า รถคันนี้มันน่าขับล่องสบายๆหล่อๆไปเชียงใหม่ซะจริง
สบายๆสไตล์เล็กซัส แต่เกาะกว่าสปอร์ตกว่านิดนึง เหมาะกับวัยรุ่นรักความชิว
แต่…มันมาตายตรงพวงมาลัยนี่สิ ไม่รู้สึกอะไรเล้ยยยย ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีคมไม่หนักนะ แต่มันไร้อารมณ์มากๆ
อธิบายไม่ถูก เอาเป็นว่ามันไม่ได้ฟิลเลย…เฮ้อออออ
มาถึงจุดแวะพักในฐานทัพเรือ เป็นที่เพาะพันธุ์เต่า เราก็ถึงเวลาสลับรถ…
กอล์ฟ: เวลาได้ขับรถสนุกๆ ดีๆ มันช่างผ่านไปรวดเร็วมากจริงๆ หลังจากที่เราเปลี่ยนมาจาก “เล็ก”…ซัส ก็มาต่อกัน
ที่ Ford Focus TDCi…5555 แต่ต้องถามอีกคนที่ขับ เพราะรอบหลังไม่มีการสลับคนขับ ต้องให้เอกเล่าต่อ เหตุการณ์
ออกตัวตรงทางกลับรถสักหน่อยว่ายางเป็นยังไง
เอก: เอาเรื่องเสียงก่อน เสียงมันมาจากยางนี่แหละ…confirm!! ดังชัดๆเลย แต่พอ Focus ที่เซตช่วงล่างมาแนวหนึบๆ
มาเจอยางนุ่มๆแบบนี้นี่ลงตัวเลยนะเนี้ย ทำให้ Focus กลายเป็นรถสบายๆแต่หนึบๆกำลังพอดี
แต่…แต่เดี๋ยวก่อนอีกนั่นแหละ มาเจอเรื่องตอนกลับรถจะกลับเข้าสนามบิน ลองอัดเต็มตอนออกตัวนะ ท้ายออกชัดเลย
แล้วไปต่อที่ Slalom เอกลองทำที่ 60กม./ชม.นะ พอหักเลี้ยวรอบที่สาม…ได้เรื่องเลย ท้ายออกเต็มๆ อย่างงี้ชัดเลยว่ายาง
ไม่เก่งในการเข้าโค้ง แก้มน่าจะนิ่ม
กอล์ฟ: เอาหน่า…ก็นี่มันยางประหยัดน้ำมัน จะย้วยบ้างอะไรบ้างก็ธรรมดา เฮ้ออออ
มาถึงสถานีที่ 2 ทดสอบประหยัดน้ำมัน
Camry สองคันถูกจับมาใส่ยางของเขา และยางจาก”คู่แข่ง”ที่มีสนามทดสอบยางอยู่แถวๆสระบุรี
กอล์ฟ: เออ…ไม่รู้เลยเนอะว่ายางอะไร
เอก: ขัดจังหวะจริง…คืองี้ เขาเอารถยนต์สองคันที่เหมือนกันมาใส่ยางที่ต่างกันแล้วจับมันกลิ้งลงจากทางลาด แล้วดูว่า
อันไหนไหลดีกว่ากัน แสดงว่าอันนั้นยางมีประสิทธิภาพการไหลที่ดีกว่า ก็จะกินน้ำมันน้อยกว่า
กอล์ฟ: ในเมื่อมันไหลดีมันก็ต้องไม่เกาะถนนอะสิ ฝนตกแล้วคงลื่นตายไปเลย
พวกเราสองคนเลยดิ่งไปหาวิศวกรที่รับผิดชอบโครงการนี้…ก็ได้คำตอบมาว่ามันไม่เกี่ยวข้องกัน ถึงรถจะไหลได้ดี
แต่ในการเบรกยางจะทำงานแตกต่างออกไป วิศวกรจึงสามารถออกแบบให้ยางมีประสิทธิภาพได้ดีทั้งคู่
พอทดสอบออกมาแล้ว Camry 2.0G ที่ใส่ยางของมิชลินมีประสิทธิภาพการไหลที่ดีกว่า
ทำให้ต้องใช้แรงในการขับเคลื่อนน้อยกว่าจึงประหยัดมากขึ้น
แต่…เรายังไม่เชื่อ มิชลินจึงมีให้พิสูจน์ต่อด้วยการให้ขับรถรุ่นเดียวกันที่ใส่ยางแตกต่างกัน คันนึงสวมด้วย
Michelin Energy XM2 อีกคันสวมคู่แข่งที่มีสนามอยู่สระบุรีเช่นเคย แล้วให้พวกเราขับให้เนียนที่สุด โดย
ทำยังไงก็ได้ให้ได้อัตราสิ้นเปลืองดีที่สุด ในเวลาที่กำหนด
เอก: ผลออกมาว่า ยางมิชลินประหยัดกว่าราวๆ 6%!! โดยผลทดสอบวัดโดย V Box จริงๆก็ไม่อยากจะเชื่อ
เท่าไหร่ แต่จากวิธีการทดสอบและตัวเลขที่ออกมาจากการขับเองกับมือ ก็ต้องเชื่อว่ามันทำได้จริง
กอล์ฟ: เออ…พี่ก็ว่างั้นแหละ มันก็ต้องเชื่อจริงๆ แต่ที่มันเซ็งคือ…แกได้รางวัลคนเดียวอะ…อิจฉาาาาาา
เอก: อะแน่นอน…คนมันโปรเฟสชั่นเนล…เข้าใจ๋??
สถานีที่ 3
กอล์ฟ: เป็นด่านการทดสอบที่ทุกคนปลาบปลื้มมากกกกกก จริงไหม เพราะว่าได้เป็นการขับรถจริงๆ
เต็มๆ เสียที งานนี้ต้องขอเล่าให้พี่ๆ เพื่อนๆ ฟังกันก่อนว่า ด่านทดสอบด่านนี้แบ่งเป็น 2 ด่านย่อยครับ
ด่านย่อยแรกที่ได้ทดสอบคือ ทดสอบเรื่องการ over steering ดูจากรูปนะครับ ว่ามันขับยากมากกกกก
กับการที่ต้องฝืนพวงมาลัย 5555 ขอไม่อธิบายนะ ความสามารถในการอธิบายทางเทคนิคตกต่ำมากกก
ดูจากรูปเอานะครับ แต่งานนี้ทางมิชลินก็ให้ผู้ร่วมทริปได้แข่งกันครับ ว่าจะหมุนได้กี่รอบ ภายในเวลา
3 นาที ครับ
เอก: อะไรอ่าาาา…โบ้ยกันเห็นๆ งั้นเอกอธิบายสั้นแล้วกันว่า สถานีนี้เป็นการจำลองการแก้อาการท้ายปัด
หรือที่ฝรั่งเรียกว่า “Oversteer” ที่เกิดจากการสาดโค้งแรงเกิน เกิดในรถขับเคลื่อนล้อหลังได้ง่ายกว่ารถ
ขับเคลื่อนล้อหน้า อาการนี้จะทำให้รถมีการเลี้ยวมากกว่าที่เราตั้งใจหรือหมุนพวงมาลัยสั่งให้รถเลี้ยว
ถ้าคุมไม่อยู่รถก็จะหมุนไปฟาดงวงฟาดงากับอะไรแข็งๆรอบตัว อาจได้ไปปีนต้นงิ้วก่อนวัยอันควร ซึ่ง
ทางมิชลินบอกว่าอาการนี้แก้ยากและเป็นอันตรายมากกว่าอาการหน้าดื้อโค้ง หรือเลี้ยวแล้วไม่ไปตามสั่ง
จึงได้จำลองอาการนี้ด้วยการนำรถ Honda Civic FD ซึ่งเป็นรถขับหน้ามาใส่สเก็ตที่ล้อหลังกันซะดื้อๆ
กอล์ฟ: ดูเหมือนไม่ยากนะ 5555 แต่มันโคตรยากกกกกกกกกกกก เวลาฝืนพวงมาลัยด้านซ้ายไม่ยาก
แต่สำหรับกอฟท์ด้านขวาโคตรยากเลย 555555
เอก: ใช่เลย…แต่ก็มันมากทีเดียว เออๆ…แต่มันมีอีกด่านนึงนี่พี่กอล์ฟ มันคืออะไรนะ??
กอล์ฟ: ด่านย่อยที่ 2 นี้และ มันส์ มากกกกกกกกกกก งานนี้ ให้ผู้ทดสอบอย่างเราได้ ขับรถ ที่เหมือนกัน
2 คัน ครับ แต่จะแตกต่างกันที่ยาง คือ เป็นอย่างมิชลิน และ ยางคู่แข่งที่เป็นยางประหยัดน้ำมันคล้ายๆกัน
รอบแรกให้ขับสร้างความเคยชิน ส่วนรอบ 2 3 เป็นแบบจริงจังครับ ในการทดสอบนี้ทางผู้จัดให้เราได้
ทดสอบอย่าง 2 รูปแบบ คือ 1 ขับแบบสลาลม 8 กรวย ด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง
หลังจากผู้จัดงานจำลองพื้นถนนแบบมีน้ำขัง และฝนตกท่วมประมาณหนึ่งครับ และเข้าโค้งด้วยความเร็ว
ประมาณ 60-70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกได้ว่า ใส่เข้าไปกันเต็มๆ ใกล้เคียงการใช้งานจริงเลยทีเดียว
จุดนี้มันส์มากกกก เพราะคุณได้ทดสอบสมรรถนะยางเต็มที่จริงๆ เสียที รอบแรกกอล์ฟได้ยางคู่แข่งครับ
ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า ยางเงียบมาก ถึงแม้จะสลาลม และเข้าโค้งบนผิวน้ำด้วยความเร็ว พี่ว่ามันโอเคเลย คือ
ไม่แหกโค้งนะ ไม่โอเวอร์สเตียร์มากนัก รีดน้ำในระดับกลางๆ
แต่พอมาได้ขับรถที่สวมยางมิชลิน มันตรงกันข้ามกับ ยางคู่แข่งครับ คือ ตอนขับสลาลม มันออกมาได้กลางๆ
เวลาสลาลมไปได้สักครึ่งทาง พบว่าเสียงยางดังขึ้นครับ อดแปลกใจไม่ได้ แต่พอเข้าโค้งท่ามกลางพื้นที่ท่วม
ไปด้วยน้ำ มันกลับได้ผลที่ดีครับ เพราะยอมรับเลยว่ารอบสุดท้าย กอล์ฟชินสนามมากขึ้น เหยียบคันเร่งไปสุดๆ
แต่ผลที่ได้ตอนเข้าโค้ง ยางจิกพื้นดีกว่าคู่แข่งคือ มีความโอเวอร์สเตียร์ที่เกิดจากยางน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
เอก: จริงๆ…ถ้านับว่านี่คือยางประหยัดน้ำมันก็ถือว่าไม่เลวเลย แต่ยังเทียบไม่ได้ดีเท่ายางสปอร์ตก็เท่านั้น
กอล์ฟ: นั่นแหละ ยังไงด่านนี้ก็เป็นด่านที่สนุกสุด เพราะได้ขับจริงๆ เหยียบจริงๆ
อาจจะแหกโค้งได้จริงๆด้วย มันฟินตรงนี้แหละ…5555
เอก: นี่แหละ…เอกชอบอาชีพนี้ก็ตรงนี้แหละ มีคนจ่ายตังค์ให้มาแหกโค้งฟรี มันสะใจสบายแฮ…
********** สรุป (แบบฟินๆ)…**********
เอก: เอางี้พี่กอล์ฟ เล่าสั้นๆ ให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายๆว่าคิดยังไงกับ Michelin XM2 บ้าง??
กอล์ฟ: อืมมมม จุดๆ นี้ เป็นยางที่เหมาะกับคนขับปกติทั่วไป ที่ไม่ได้ต้องการความหวือหวานั้นแหละ
แบบขับเช้าไปทำงาน เย็นขับกลับบ้าน แล้วก็ขับไปซิ่งเสาร์ อาทิตย์ นานๆ ที แค่นั้นและ แบบนี้ละ
มันจะเหมาะกับคุณ ง่ายไหม เพราะคงคาดหวังกับการขับประหยัดไม่ได้มากจริงๆ เพราะอันนี้เรา
มาเน้นพฤติกรรมตัวเองดีกว่ายางครับ แต่สรุปมันขับง่าย เหมาะกับสภาพทั่วๆ ไปในถนนบ้านเรา
นี่แหละ แล้วเอกว่าไงบ้างล่ะ??
เอก: ผมเหรอ…ผมว่ายางนี่เจ๋งเลยนะ ไม่ได้เจ๋งเพราะเกาะถนนขั้นเทพ หรือประหยัดน้ำมันขั้นสุดยอด
หรือเงียบเป็นเป่าสาก แต่ถ้าคิดว่านี่คือยางราคาสบายๆ ใครๆก็ซื้อสวมให้กับรถตัวเองได้ แล้วได้เห็นถึง
ความประหยัดที่ดีขึ้นจริง แม้จะไม่มากนักอย่างที่คนส่วนใหญ่คาดหวังกัน ความนุ่มนวลที่..ไม่ธรรมดาวุ้ย
ใส่ใน Lexus หรือ Focus ก็รู้สึกได้ว่า การเกาะถนนทางตรงที่โอเคมั่นใจได้ แต่ถ้าจะเอาไปสาดโค้งแรงๆ
มันก็ไม่ใช่ ถ้าจะสาดโค้งก็ไปเล่นยางสปอร์ตโน้นนนนน สรุปตรงนี้ก็คือเหมาะกับคนที่ขับรถใช้งานทั่วไป
อยากได้ยางที่ตอบสนอความต้องการทั่วไปได้ดี ส่วนความทนทานนี่แอบเชื่อในสิ่งที่วิศวกรพูดนะ แต่ก็ยัง
ต้องดูกันยาวๆ สรุปคือ…ดีเกินคู่แข่งจนน่าสนใจเลย
มาถึงตรงนี้ลองเอาประสบการณ์ของเราทั้งสองคนไปประกอบการพิจารณาดูนะครับ บางทีคุณอาจจะคิดต่าง
จากเราสองคน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจก็ลองหาข้อมูลจากเวบอื่น หรือ ตามคลับต่างๆที่มีคนได้ใช้จริงแล้ว
มาแบ่งปันประสบการณ์ นานๆจะเปลี่ยนยางใหม่ทีต้องคิดให้ดีๆนะจ๊ะ…
เจอกันใหม่ งานหน้าครับ!
ขอขอบคุณ
บริษัท สยามมิชลิน จำกัด และ MEC Interaction ในเครือบริษัท GroupM ประเทศไทย
—————————————-///—————————————-