MOTOR EXPO 2014 – มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 31

สวัสดีท้ายปีที่รักและสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านครับ

นี่เป็นอีกครั้งที่ผมและท่านได้มาพบกันในคอลัมน์พาชมงาน Motor Expo งานโชว์รถครั้งใหญ่ส่งท้ายปลายปี
ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะสำหรับพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่กำลังมองหารถคันใหม่เพื่อใช้งาน คนที่มาเดิน
หาข้อมูลแบบที่เดียวจบแล้วค่อยไปนัดทดลองขับหรือลงชื่อจองกันนอกงาน หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้สนใจใน
การซื้อรถแต่สนใจที่จะมาเดินออกกำลังเพื่อเป็นการรักษาสุขภาพและพากล้องถ่ายรูปของตัวเองมา
Exercise (แน่ะ รู้ใช่มั้ย พวกตากล้องทั้งหลาย อย่า..ไม่ต้อง..ไม่ต้องอาย..รีบๆจัดมาซะผมจะได้ตามเซฟ
เมาส์ในมือผมงี้สั่นระริกเลยครับ)

ปี 2014 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ หลายคนมองว่าเป็นปีแห่งความซบเซาของตลาดรถยนต์ อันเป็นผลกระทบจาก
ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ บวกกับสิ่งที่เป็นผลกระทบจากการแห่ซื้อในช่วงโครงการรถคันแรกที่ส่อเค้า
ว่าลูกค้าหลายคนไม่มีความสามารถในการผ่อนชำระ บวกกับการที่กำลังซื้่อส่วนมากถูกบีบอัดเข้าไปในช่วงปี
ก่อนหน้าทำให้ในปีนี้โอกาสทองของการขายรถใหม่จึงดูไม่สดใสนัก ประกอบกับความผันผวนของรายได้
และเม็ดเงินในกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง ปัญหาทุกอย่างนั้นไม่ใช่ว่าต่างคนต่างผจญและต่างรับกันไป เชื่อผมเถอะ
ว่ามันเป็นปัญหาระบาดซึ่งสามารถส่งผลกระทบได้ทุกวงการ ไม่เว้นแม้แต่วงการสื่อมวลชนหรือเว็บไซต์
ที่สังเกตได้ถึงพฤติกรรมการค้นหาข้อมูลรถยนต์ ผู้อ่านที่รักของ headlightmag.com อาจรู้สึกว่าไม่เห็นมีอะไร
เพราะฉันก็เข้าเว็บต่างๆของฉันอยู่ทุกวัน แต่ในความเป็นจริงถ้ามองพฤติกรรมผู้บริโภคจากมุมมองระดับ
เฮลิคอปเตอร์ลงมา เมื่อคนไม่มีกะจิตกะใจจะซื้อรถ คนส่วนใหญ่ก็จะละทิ้งการเสพย์ข้อมูลไปด้วยเช่นกัน

แต่ปัจจัยส่วนนี้ไม่ได้ส่งผลให้พวกเราทำงานมากขึ้นหรือน้อยลงนะครับ คนงานของ headlightmag.com
ที่เป็นทั้งผู้เล่า ผู้ลอง และกรรมกรคีย์บอร์ดจะยังคงปั่นมิลค์เชคตัวอักษรให้พวกเราๆท่านๆอ่านกัน ตลาดซบเซา
ไม่ได้แปลว่าเราต้องเศร้าซึม เช่นเดียวกันกับทุกท่านแหละครับ ไม่ได้มีเงินซื้อรถ ก็ไม่ได้แปลว่าวันนี้จะอ่าน
เรื่องราวเกี่ยวกับรถหรือเดินงานโชว์รถเล่นแก้เบื่อไม่ได้

บริษัทรถยนต์ทั้งหลายก็มีความคิดเหมือนกับเราแหละครับ (แต่อาจต้องพยายามผจญศึกด้วยความกดดัน
ที่สูงกว่า) คุณจะเห็นได้ว่าภายใต้สภาพแวดล้อมของตลาดที่ไม่ฟู่ฟ่าฟรุ้งฟริ้งราวกับไอศกรีมเรนโบว์พาร์เฟ่ต์
แต่ความเคลื่อนไหวจะยังมีอยู่เสมอ เพราะปีที่ผ่านมาเรามีรถใหม่เปิดตัวไปหลายรุ่น และเราได้เห็นปรากฏการณ์
ยักษ์อินดี้บี้ยักษ์ใหญ่ในด้านยอดขายบางเซกเมนต์เลยด้วยซ้ำไป นี่แหละครับที่ทำให้ดอกไม้แม้จะเหี่ยว
แต่ตราบใดที่สีสันยังเปรี้ยวอยู่หมู่คนก็ยังมอง ตราบใดที่มี 1 คนลุกขึ้นสู้ ตลาดนี้จะไม่เศร้าหมอง

แล้วปีนี้ งาน Motor Expo มีความเคลื่อนไหวอะไรบ้างล่ะ? 10 วันนับจากนี้กรุณาหาทางมาเดินเล่นกัน
แต่ถ้ามีเวลาน้อยหรือต้องการจะดูภาพของการจัดงานก่อน ก็ขอเชิญให้ท่านติดตามเนื้อหาในบทความ
ต่อไปนี้ที่ผมจะเล่าให้ฟังได้

เอาล่ะ
ตามผมมาเลยครับ

Bentley/Porsche

ฺBentley นำรถมาโชว์ 2 คัน ได้แก่ New Continental GT V8 ซึ่งจัดเป็น Grand Tourerหรูสุ้มเสียง
ก้าวร้าวแบบ Hot Rod ..จะให้มันเงียบเรียบร้อยได้อย่างไรในเมื่อเวอร์ชั่นนี้ใช้เครื่อง V8 ทวินเทอร์โบที่
มีพลังระดับ 507PS (รุ่น GT V8S จะมี 528PS) และแรงบิด 680Nm ตั้งแต่รอบต่ำแค่ 1,700
รอบต่อนาที ตัวแรง V8S อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ภายใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 309 ก.ม./ช.ม.
ตั้งราคาไว้ 20,990,000 บาท

ส่วนซาลูนที่จอดอยู่ข้างๆกัน คือ Bentley New Flying Spur W12 ที่ใช้เครื่อง 12 สูบ 6.0 ลิตร
625PS (ตกลงว่านี่รถหรูหรือซูเปอร์คาร์?) แรงบิดลากช้างยกโขลง 800Nm ตั้งแต่ 1,700 รอบต่อนาที
ราคา 22,500,000 บาท แต่ถ้าคุณอยากได้เสียงแบบเครื่อง V8 ก็แน่นอนว่ามี Flying Spur V8 ที่ราคา
เท่ากันเด๊ะกับ Continental GT V8S เลย ทั้งสองรุ่นเลือกได้ทั้งสองเครื่องครับ

ส่วน Porsche ในวันรอบสื่อมวลชนยังไม่มีของใหม่มา ทั้งนี้ Cayenne S E-Hybrid จะตามมา
ในวันที่ 6 ธันวาคมครับ


BMW/MINI

ไม่ทำให้ผิดหวังสำหรับค่ายใบพัดฟ้าขาวจากเยอรมัน งานใหญ่ส่งท้ายปีทั้งทีก็ต้องมีของใหม่มายั่วน้ำลายนักเลงรถ
กันโดยมีให้เลือกครบครันเกือบทุกความต้องการเลยทีเดียว

เรามาเริ่มต้นกันก่อนเลยกับรถประเภทครอสโอเวอร์…แอนด์โอเวอร์…แอนด์โอเวอร์ อะเกน เพราะจะเป็น SUV
ก็ไม่ใช่ จะเป็นคูเป้ก็ไม่เชิง และมันก็ไม่ใช่รถซาลูนแน่ๆ มันคือ BMW ALL NEW X6 xDrive30d M Sport
รถที่ BMW เรียกว่า “รถสปอร์ตเอนกประสงค์สไตล์คูเป้” (SAC-Sports Activity Coupe) เจนเนอเรชั่นที่ 2
ที่มาพร้อมกับสไตล์ตัวถังแบบเดิมที่คุณเคยชื่นชอบ..หรือไม่ชอบ..จาก X6 รุ่นเก่า แต่ได้รับการแต่งส่วนหลังคา
ให้ดูลาดปราดเปรียวขึ้นแม้ว่าจะต้องเสียพื้นที่ส่วนศรีษะของเบาะหลังไปบ้างก็ตาม BMW ทราบดีว่ากลุ่มเป้าหมาย
ของ X6 ไม่แคร์เรื่องนี้มากเท่ากับรูปทรงที่แตกต่าง และการที่ยอดขายของมันนั้นคิดเป็น 1 ใน  5 ของ X5
BMW จึงมองว่าตลาดนี้ยังมีความน่าสนอยู่ เวอร์ชั่นที่นำเข้ามาโชว์ในงานนี้ มีล้อ M Sport ขนาด 20 นิ้ว
มีชุดแต่ง M หลังคา BMW Individual สีดำ พร้อมช่วงล่าง Adaptive M เครื่องยนต์ของรุ่น xDrive30d
นี้เป็นแบบ 6 สูบเรียงดีเซลเทอร์โบ 218 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้ง 4 ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

ต่อมา..ก็เป็น BMW X3 ที่แม้จะยังไม่ใช่ ALL NEW แต่ทีมงานก็ยอมให้เรียกว่า ALMOST NEW ไปก่อน
มีการแต่งหน้าทาปากด้วยไฟหน้าวงแหวนคู่แบบใหม่ และในรุ่น Highline จะเป็นไฟแบบ LED ด้วย กระจังหน้า
เปลี่ยนใหม่ กันชนหน้าและหลังก็ใหม่เช่นกัน มีให้เลือกสองรุ่นคือ xDrive20i เครื่องเบนซิน ราคา 3.099ล้านบาท
และรุ่น xDrive20d Highline ราคา 3.499ล้านบาท

จบจากรถตระกูล xDrive ใต้ท้องสูงแล้วมาลองดูรถเก๋งทรงลิ่มๆกันบ้างกับ 428i Gran Coupe M Sport
ซึ่งเปิดราคามา 4,649,000 บาท ถ้านักเลงรถคนไหนรักจริงคงต้องยอมจ่ายเพราะแพงกว่า 328i ธรรมดา
พอสมควรจากภาษีนำเข้า แต่อย่างน้อยขุมพลัง TwinPower 218 แรงม้าของค่ายนี้ก็ให้พลังที่สนุกเร้าใจ
ถ้าไม่ชอบเสียงเครื่องยนต์ 4 สูบก็เปิดเครื่องเสียง Harman Kardon Surround ให้ดังๆเอาได้ และแน่นอน
ว่าช่วงล่างก็เป็นแบบ M Adaptive และมีชุดแต่งครบครัน

ขอกลายร่างจากแมนหมีๆเพื่อกรี๊ดแต๋วแตกสักครั้งกับ ALL NEW BMW M4 Coupe! สายพันธุ์แรงน้องใหม่
ล่าสุดที่บอกเลิกกับเครื่อง V8 แล้วหันไปสวมหัวใจ 6 สูบเรียงเหมือนสมัย E46 แต่พกเทอร์โบมาเป่าเสกม้า
ได้ถึง 431 แรงม้า แรงบิดระดับ 2J โบโรงงานยกมือไหว้- 550Nm ที่ 1,850-5,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลัง
เป็นแบบ DCT คลัตช์คู่ 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. เคลมไว้ 4.1 วินาที..อยากรู้ว่าเร็วแบบนี้
จริงหรือไม่ ก็รีบๆเชียร์ BMW Thailand ให้ยอมปล่อยรถมาให้ผมเทสต์แล้วกันนะ จะนับลูกประคำรอ 
ส่วนราคาค่าตัวนั้น ได้ข่าวว่า 10 ล้านมีทอนครับ

แต่ทอนพันเดียวนะ..

นอกจากนั้นแล้ว BMW ยังนำ i8 ซูเปอร์คาร์แนวใหม่จากใจวิศวกรที่พยายามหาจุดกึ่งกลางระหว่าง
โลกที่สดใสกับสีหน้าของนักเลงรถที่สดชื่นแล้วสร้างมาเป็นรถแบบนี้ ที่เอาเครื่อง 1.5 ลิตร 3 สูบ
มาทำงานร่วมกับมอเตอร์จนวิ่ง 0-100 ไล่จี้ M4 คันตะกี้ได้แล้วกัน ราคาเคาะออกมาแล้วนะครับ
โดยเริ่มต้นที่ 11,899,000 ล้านบาทครับ

หันไปดูทางฝั่ง MINI กันบ้าง ของใหม่ของเขาวันนี้คือ MINI HATCH-5DOOR ซึ่งเจ้าของเว็บ
เพิ่งจะไปขับที่อังกฤษไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั่นเอง โดยบอดี้ใหม่ล่าสุดนี้เพิ่มประตูคู่หลังเพื่อให้ตอบโจทย์
ความง่ายในการใช้งานสำหรับคนที่มีเพื่อนเยอะ หรือนั่งแค่คนเดียวแต่ชอบประตูหลังที่ขนของสะดวก

แต่อย่าหวังเรื่องพื้นที่เบาะหลังมากเกินไปเพราะเท่าที่เห็น เหมือนมันจะพอๆกับ Nissan Juke..
มีเครื่องยนต์ครบทุกพิกัด ตั้งแต่ Cooper 1.5 ลิตร 3 สูบเบนซิน Cooper D 1.5 ลิตร 3 สูบ
ดีเซล Cooper SD 2.0 ลิตรดีเซล 170 แรงม้า และแรงสุดกับ 192 แรงม้าใน Cooper S
HATCH-5DOOR กับเครื่อง 2.0 ลิตรเบนซินเทอร์โบ

MINI HATCH-5 DOOR มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,230,000 บาท ขยับเป็น Cooper D ก็จะเป็น

2,480,000 บาท รุ่นแรงม้าเยอะสุด Cooper S 2,880,000 บาท และ Cooper SD

3,180,000 บาท

Chevrolet

ไม่มีโมเดลใหม่หรือรถแปลกแหวกแนวมาในปีนี้เลย แต่ก็ไม่ได้อยู่เฉย ทำนองอยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย
ติดไฟเดยไลท์ให้ลูกท่านเล่น ว่าแล้วก็เลยมี Chevrolet Captiva รุ่น Sport Edition ที่มีการติดตั้ง
Daytime Running Light พร้อมชุดแต่งและสมาร์ทคีย์ PEPS (เข่าเขียนอย่างนี้จริงๆไม่มีตัว I)
ส่วนเครื่องยนต์ ยังมี 2 แบบเช่นเดิมคือเบนซิน 2.4 ลิตร 167 แรงม้า รองรับ E85 และดีเซล 2.0 ลิตร
163 แรงม้า แรงบิด 400Nm ส่งกำลังสู่เกียร์อัตโนมัติลูกใหม่ GF6 พร้อมระบบ Driver Shift Control
ราคาของรุ่นเบนซินอยู่ที่ 1,610,000 บาท และรุ่นดีเซล 1,729,000 บาท

ส่วนรุ่น Trailblazer ก็มีชุดแต่ง Urban Package ที่มีหน้าจอสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เครื่องเล่น DVD
กล้องมองหลัง ไฟ DRL เป็นต้น อย่างในภาพ เป็น Trailblazer SVP ราคา 1,365,000 บาท

และตาเอก Backseat ก็ทวิตว่า Sonic MY14 มี DRL เช่นกัน
อีกหน่อยทั้งท้องถนนคงสว่างเป็นรันเวย์สนามบิน LA แม้ในยามกลางวัน

Citroen
C5 ดีเซล ซีดานพิกัดยาว 4.779 เมตรกับเอกลักษณ์ดีไซน์ฝรั่งเศสหัวก้าวหน้าที่มองผ่านๆแล้วนึกว่า
เป็นรถต้นแบบ เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตร 160 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ


DFSK

ชื่อ Dongfeng แต่ให้อ่านออกเสียงว่า “ตงฟง” งานนี้ก็ขนตงฟง พลัส รถกระบะขนาดเล็ก ท้ายเปิด 3 ด้าน
เครื่องยนต์ 1.1 ลิตร 63 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ มีรุ่นติดแก๊ส LOVATO จากอิตาลีซะด้วย

Ford

สร้างกระแสด้วยการเผยภาพ Ford Ranger Minorchange โดยการปล่อยของทางค่ายเองเป็นทางการ
ทำเอาหลายคนเข้าใจผิดนึกว่าจะได้ซื้อกันในงานนี้ แต่เปล่าหรอกครับ อดทนอีกนิดนะจ๊ะที่รัก เพราะ
Ford ฝากสื่อมาบอกกับมวลชนแล้วว่าจะเปิดตัวขายจริงกันช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้าครับ

ส่วน Ford Everest นั้น..เท่าที่ผมเดินๆหาดูในบูธ ไม่เห็นเงาในวันรอบสื่อมวลชนนะครับ

แต่ที่มันเซอร์ไพรสมากที่สุด และไม่คิดว่าจะเอามาโชว์เลยก็คือ.. MUSTANG! นัยว่าเอาคันนี้มาร่วม
เฉลิมฉลองวาระพิเศษครบรอบ 50 ปีการถือกำเนินของ Ford Mustang บนโลกใบนี้ แต่จะเอามาขายมั้ย
หุ..หุ.. บอกได้แค่เพียงว่าในงานนั้นมีเจ้าหน้าที่เดินทำแบบสอบถามความคิดเห็นกับดีไซน์และราคา
ของรถรุ่นนี้ว่าควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ และ..Ford Detroit บอกว่ารถคันนี้จะเป็น Global Car..และ
เวอร์ชั่นพวงมาลัยขวาจะมีการผลิตแน่นอนเพราะมีแผนส่งไปขายในอังกฤษและออสเตรเลียด้วย!

รถคันที่มาโชว์นั้น ยังเป็นเวอร์ชั่นพวงมาลัยซ้ายอยู่นะครับ และเป็นรุ่น 2.3Ecoboost 4 สูบ
ฟังแล้วบางท่านที่ไม่ค่อยติดตามข่าวรถอเมริกันอาจจะงงว่าไม่ใช่ V8 แล้วมันจะวิ่งเหรอ..จริงอยู่
เครื่องตัวนี้ก็พัฒนาต่อมาจาก EcoBoost 2.0 ใน Focus และมีวางอยู่ใน Lincoln MKC แล้ว
แต่กระนั้น ม้า 310 ตัวกับแรงบิด 434Nm ก็ไม่ถือว่าธรรมดา ปัญหาคือถ้ามาไทยจริง ราคาจะพุ่ง
ไปเท่าไหร่ และจะสู้สปอร์ต NA ตัวเบาราคา 2 ล้านกลาง หรือแย่งลูกค้าจากบรรดา BMW, Mercedes
ได้หรือไม่? จากที่ได้สัมผัสมา ถ้าในเรื่องคาแร็คเตอร์ ได้! แต่เรื่องสมรรถณะการขับ..ขอลองก่อนนะ

Promotion:
– ส่วนลดเท่าเงินดาวน์ เช่น Focus รุ่น Ambient ส่วนลดสูงสุด 130,000 บาท และ 100,000 บาท
สำหรับรุ่นอื่นๆ Ford Ranger ส่วนลดสูงสุด 90,000 บาทหรือผ่อน 0% 60 เดือนเมื่อดาวน์ 25%
ในรุ่น Ranger XL, Fiesta Ecoboost
– 2,000 ท่านแรกที่ลองขับ Ford Ecoboost ในงานจะได้รับของที่ระลึก (ที่เราก็ยังไม่ทราบว่าคืออะไร)
– Ford EcoSport B-SUV ส่วนลดสูงสุดในรุ่นไทเทเนียม 20,00 บาทหรือผ่อน 0% 24 เดือนเมื่อดาวน์ 25%

Foton
รถตู้ Foton Columbus 16 ที่นั่งที่เราได้ยินชื่อกันมานาน แต่ผมไม่เคยเขียนถึง วันนี้ ขออนุญาตแวะดู
สักหน่อย น่าสนใจไม่เลวเลยสำหรับราคา 859,000 บาท แต่ได้ถุงลมนิรภัยคู่ เบรก ABS เข็มขัดนิรภัย
ทุกที่นั่ง มีแม้กระทั่งเครื่องมือสำหรับใช้ทุบกระจกและตัดสายเข็มขัดนิรภัยในรถ เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง
Cummins ISF 2.8 ลิตรดีเซลเทอร์โบ 129 แรงม้าของอเมริกา เกียร์ Getrag ของเยอรมัน
คลัตช์ AISIN ของญี่ปุ่น หัวฉีด Commonrail ของ BOSCH และ ECU ของ Continental
สาบานว่าทั้งหมดนี้มีบอกเลยในโบรชัวร์ ดีมากครับสำหรับคนชอบเสพย์ข้อมูล

นอกจากนี้ การรับประกัน ยังตั้งเอาไว้ที่ 5 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตรอีกด้วย

Honda
New Model: HR-V ใหม่และ CR-V ไมเนอร์เชนจ์

Honda HR-V รถที่พยายามเน้นนักเน้นหนาว่าพรีเมี๊ยยยมมพรีเมียม แต่ลองของจริงดู อืม..มีเค้านะ
โอเคมันอาจจะไม่ใช่ Audi แต่สำหรับรถญี่ปุ่นราคาระดับนี้ ก็ไม่เลว และดูเหมือนหลายคนจะไม่ได้
สนใจเรื่องนี้ เพราะเปิดตัวแค่ 10 วัน ยอดจองมาเกิน 4,000 คันแล้ว จองวันนี้เผลอๆรับรถวาเลนไทน์
HR-V ใช้เครื่อง 1.8 ลิตร 141 แรงม้า รองรับ E85 เกียร์ CVT จุดเด่นคือตัวท้อปอัดออพชั่นให้
หนำใจแม้กระทั่งหลังคากระจกพานอราม่า แล้วยังมีฟังก์ชั่น Brake Hold ซึ่งเมื่อเปิดใช้งานแล้ว
เวลาเหยียบเบรกจนรถหยุด รถจะคาเบรกต่อไปไว้ให้เอง และปลดเบรกให้เมื่อคุณเหยียบคันเร่ง
ดูท่าคนที่ต้องฝ่าการจราจรติดๆไปๆอยู่เป็นประจำอาจจะชอบ แต่ระบบนี้จะทำงานได้ คนขับต้อง
คาดเข็มขัดนิรภัยนะครับ มันมีเซนเซอร์ตรวจจับอยู่

CR-V ไมเนอร์เชนจ์ ชูเครื่อง 2.4 Earth Dreams 175 แรงม้า รองรับ E85 เกียร์ CVT
มี Daytime Running Light แล้วก็เพิ่มระบบ Honda Lane Watch ที่เป็นกล้องส่องด้านซ้าย
คลายปัญหาจุดอับสายตา ป้องกันการบี้พี่บิ๊กไบค์ในมุมอับโดยไม่ได้ตั้งใจ

Mobilio นำเสนอสีใหม่ ส้มซันเซ็ตที่ดูแล้วจี๊ดมาก..ขอไบเล่ขวด

นอกจากนี้รถรุ่นอื่นๆที่ขนมาก็ครบทุกรุ่น Accord, Accord Hybrid, StepWGN Spada,
Brio, Odyssey แม้กระทั่ง CR-Z ที่ยังขาย 1.975 ล้านบาทอยู่แม้วันนี้จะไม่ค่อยมีคน
มากรี๊ดกร๊าดขอถ่ายรูปด้วยแบบสมัยที่ she ยังรุ่ง

 

Promotion

ฉลองครบรอบ 50 ปีการทำธุรกิจในประเทศไทยของ Honda มีรายการชิงโชครถ Mobilio
และ iPhone6 Plus พร้อมทั้งยังมีโปรโมชั่นเหล่านี้ที่ไม่ได้จำกัดแค่ในงานแต่ไปจัดกัน
ที่โชว์รูมเลยก็ได้

– Brio, Brio Amaze, City, City CNG (ไม่ได้บอกว่ารุ่นเก่าหรือปัจจุบัน) ดอกเบี้ย 0%
ถ้าเป็นตระกูล Brio จะมาพร้อมประกันภัยชั้นหนึ่ง สำหรับ City มีแคมเปญดาวน์ 0 บาท
หรือผ่อน 0 บาท 3 เดือน หรือ จะเอาเป็นประกันชั้น 1 ก็ได้
– Civic และ Accord ที่เป็น 2.4 ลิตร ฟรีประกันชั้นหนึ่ง หรือ เลือกผ่อนดอกเบี้ย 1.39%
– Freed ดอกเบี้ย 0.79% แถมฟรีประกันภัยชั้น 1
– สำหรับเจ้าของรถ Honda ที่มีรถอยู่แล้ว ถ้าจะซื้อ HR-V, CR-V, Mobilio เพิ่ม
จะได้ดอกเบี้ย 2.09% ครับ

Hyundai

รถในบูธส่วนมาก หน้าตาจะคุ้นกันดี เพราะเห็นมาหลายงานแล้ว แต่คราวนี้มีรถต้นแบบมาโชว์
มันคือ Hyundai HND-9 สปอร์ตประตูปีกนกเปิดคล้าย i8 ดีไซน์โชว์แนวคิดว่าถ้า Hyundai
เอาสไตล์ Fluidic Sculpture ของพวกเขามาทำเป็นรถสปอร์ต มันจะแซ่บได้ขนาดไหน

เครื่องยนต์ใน HND-9 นั้น จะเครื่องของ Hyundai เอง เป็นเบนซิน V6 3.3 ลิตร
เทอร์โบ 370 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

ส่วนรถในไลน์การผลิต ยังมี Elantra รุ่น Motor Expo ที่ทำมาสำหรับงานครั้งนี้โดยเฉพาะ
ซึ่งถ้าให้อธิบายง่ายๆก็คือ แต่เดิมเขาจะมีรุ่นท้อปราคาเก้าแสนกว่า และมีรุ่น 1.8GLE ราคา
819,000 บาท เจ้ารุ่นพิเศษนี่ก็คือการเอารุ่น GLE นี่ล่ะมาใส่ชุดเครื่องเสียงและเนวิเกเตอร์
ของตัวท้อปเข้าไป และตั้งราคาเอาไว้ 844,000 บาท simple as that!

Isuzu

ยังไม่มีเครื่องดีเซลตัวใหม่มา ดังนั้นในงานก็จะเป็นรถที่ขายในไลน์อัพตามปกติ แต่มีการ
ตกแต่งสีสันให้ดูสดใส และตัวเด่นยังเป็น MU-X รถ PPV ออกแบบภายใต้แนวคิด
Urban Lifestyle เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 136 แรงม้า กับ 3.0 ลิตร 177 แรงม้า เกียร์แบบ
อัตโนมัติ 5 จังหวะเช่นเคย ซึ่งแม้ม้าจะไม่เยอะแต่ตามที่เราเคยสัมผัสมา ดีดดีใช้ได้

 

Jaguar/Land Rover

เห็นมีคนส่งข่าวว่าจะเอาตัว F-Type Coupe หลังคาแข็งเข้ามา แต่พอถึงวันงานเราไปเดินดู
ก็ไม่เห็นมีแม้แต่เงา สอบถามเพื่อความชัวร์ก็ทราบว่ายังไม่เอามาโชว์ ดังนั้นในบูธจึงยังมีรถ
รุ่นต่างๆตามเดิมเหมือนงานช่วงซัมเมอร์ เช่น Jaguar F-Type เปิดประทุน XJ, XF
ส่วน Land Rover ก็มี Freelander, Range Rover Sport เป็นต้น


Maserati

รู้สึกว่าปีนี้จะมีวาระครบรอบอะไรกันเยอะแยะ ขนาด Maserati เมืองแม่เอง ก็เพิ่งฉลองครบรอบ
100 ปีกันไปที่เมือง Modena เมื่อเดือนกันยายน และสำหรับเมืองไทย สิทธิ์ในการเป็นผู้แทนจำหน่าย
ขณะนี้ อยู่กับบริษัท Empire MotorSport โดยในงานนี้ ก็เอารถมาโชว์เกือบครบทุกรุ่น

รถรุ่นพิเศษในวันนี้คือ GranTurismo MC Stradale ที่ได้รับการตกแต่งพิเศษ ลดความสูงของ
ตัวถังลง 10-12 ม.ม. ใช้ฝากระโปรงหน้าคาร์บอนไฟเบอร์ มีชุดแต่งสเกิร์ตและสปอยเลอร์เฉพาะตัว
ตราตรีศูลสามง่ามเป็นสีแดง ล้อขนาด 20 นิ้ว เบรกคาลิเปอร์ 6 POT เบาะนั่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์
หุ้มด้วย Alcantara สลับหนัง เครื่องยนต์เป็นแบบ V8 4.7 ลิตร Flat-plane crankshaft ที่ให้พลัง
460 แรงม้า แรงบิด 520Nm (เท่ากับรุ่น GranTurismo Sport) และตั้งราคาขายไว้
17,300,000 บาท (แพงกว่า Sport อยู่ 2.8 ล้านบาท)

ถ้าใครต้องการสุ้มเสียง V8 NA ที่ครางกระเส่า เหยียบแล้วแว๊ดแบบอิตาเลียน คิดว่าคงต้องรีบ
ตกลงปลงใจกับรถรุ่นนี้ เพราะต่อจากนี้ไป Maserati จะใช้เครื่อง V6 ดีเซลเทอร์โบ, V6 เบนซินเทอร์โบ
และ V8 3.8 ทวินเทอร์โบหมดแล้ว

ต่อจากนั้น ก็มีซาลูนรุ่นใหญ่ Quattroporte และรุ่นเล็กลงมาอย่าง Ghibli ซึ่งเครื่องยนต์หลักๆที่เหมือนกัน
จะมีสองรุ่นได้แก่ Quattroporte Diesel/Ghibli Diesel ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร V6 ดีเซลเทอร์โบ
275 แรงม้า แรงบิด 600Nm และ Quattroporte S/Ghibli S ใช้เครื่องเบนซิน V6 3.0 ทวินเทอร์โบ
410 แรงม้า แรงบิด  550Nm โดยรถทังสองรุ่นนั้นจะมีความต่างของขนาดตัวถังอย่างชัดเจน เนื่องจาก
Ghibli จะยาว 4,971 ม.ม. ในขณะที่ Quattroporte จะยาว 5,262 ม.ม.

แต่ถ้าใครชอบรถลิโมทรงยาว และเครื่องแรงสุดๆ Maserati Quattroporte GTS V8 น่าจะเหมาะสม
เพราะมีแรงม้ามากที่สุดในตระกูล Maserati ที่ขายในไทยขณะนี้ 530 แรงม้าเชียวและวิ่งทะลุ 300 ได้
ด้วยสนนราคา (เพียง) 15.5 ล้านบาท..ไง? ลองมั้ย M5, E63 ทั้งหลาย?

MAXUS

รถตู้ที่เดิมคือยี่ห้อ Leyland จากอังกฤษ SAIC จากจีนซื้อกิจการไป แล้วเข้ามาทำตลาดในไทย วันนี้
พวกเขาเปิดตัวรุ่น V80 ซึ่งเป็นรถตู้ขนาดใหญ่มาก คู่ฟัดตรงรุ่นที่สุดน่าจะเป็น Citroen Jumper
แต่รถของ Maxus นั้น จะตั้งราคาเริ่มต้นไว้ประมาณล้านสาม โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบ
136 แรงม้า มีอุปกรณ์ถุงลมนิรภัย และ ABS/EBD พร้อม

Mazda
New Teaser: Mazda 2
และ Mazda 2 Sedan เผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่งานนี้!

อ่ะ..รู้กันอยู่แล้ว เราไม่พล่ามอ้อมค้อม ตรงไปเล่นที่ไอ้เจ้าสองก่อนเลยแล้วกันงานนี้สมเป็น
World Premiere มากๆเพราะผู้บริหาร Mazda จากญี่ปุ่นบินมาร่วมงานด้วยตัวเองเลยด้วย

ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า มางานนี้นึกว่าจะได้สัมผัสกันแบบเต็มๆก่อนขายจริงต้นปีหน้า แต่มาถึงปุ๊บ
จอดโชว์ไว้หลายคัน หลากรุ่น แต่ไม่เปิดภายในให้ชม..ไม่เป็นไร พี่แพนรอได้เสมอล่ะนะ
Mazda 2 รุ่นใหม่นี้ ฐานล้อจะยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมอีก 80 ม.ม. กลายเป็น 2,570 ม.ม.
ล้อและยางโตกว่าเดิมชนิดจะบ้าตาย รุ่นเเดิมล้อ 16 นิ้วรัดยาง 195/45 แก้มเตี้ยสุดโลก พอมารุ่นใหม่
ล้อ 16 นิ้วยังใช้ยางแก้มหนาบึ้บบั้บอยู่เลย

เครื่องยนต์นั้น แน่นอนครับ เปิดตัวกันก่อนด้วยตัว SkyActiv-D 1.5 ลิตรดีเซล 115 แรงม้า
จากนั้นก็จะตามมาด้วยรุ่นเบนซิน 1.3 ลิตร SkyActiv-G 84 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ
6 จังหวะ (และอาจมีลุ้นกับธรรมดา 6 จังหวะในเบนซินตัวล่างๆ)

เรื่องออพชั่น เท่าที่อาศัยความสังเกตของน้องเอก Backseat Driver และเปา PaoDominic
ช่วยกันดู รุ่นท้อปมีล้อ 16 นิ้ว จอ Tablet ที่รัก มีมาตรวัดรอบใหญ่ ความเร็วดิจิตอล มีจอ HUD
ราวกับ Mazda 3 ตัวท้อปมาเอง แอร์ดิจิตอล เบาะหนังสลับผ้าดำแดง ไม่มี Cruise Control
ถุงลมนิรภัย 6 ใบ มีระบบควบคุมการทรงตัว DSC และดิสก์เบรก 4 ล้อมาให้

ส่วนรุ่นรองลงมา ล้อจะเหลือ 15 นิ้ว หน้าปัดจะเป็นความเร็วเข็ม วัดรอบดิจิตอล ชุด Tablet
โดนแทนที่ด้วยจอชุดเล็กเหมือน Mazda 3 ตัวล่าง ไม่มี HUD มาให้ และตัวล่างสุดเบาะจะเป็นผ้าครับ
ส่วนระบบความปลอดภัย Mazda บอกว่าทุกรุ่นมีถุงลมนิรภัยอย่างน้อย 2 ใบและ ABS แต่ยังไม่แน่ใจ
ว่า DSC จะมาครบทุกรุ่นหรือเปล่า (ผมตีความเอกสารไม่ออกเองแหละ) แต่รุ่นล่างๆเบรกหลัง
จะเป็นดรัมเบรก

พูดง่ายๆคือถ้าเรื่องอุปกรณ์น่ะ ลองเล็งๆออพชั่นและวิธีการจัดออพชั่นของ Mazda 3 ดูครับ
เจ้าน้องเล็กนี้ก็จะมีลักษณะคล้ายกัน สำหรับราคาของตัวดีเซล ตอนนี้ Homy Demio ขอแทงมา
ว่าเริ่มต้นน่าจะอยู่ที่ 665,000-680,000 และตัวท้อปจะแพงกว่า Honda Jazz SV Plus ครับ
งานนี้จะโดนหักปากกามั้ย? ไม่รู้สินะ

 

Mercedes-Benz
New Model: C300 Saloon/Estate

Mercedes-Benz เพิ่มเครื่องใหม่ให้กับ C-Class W205 หลังจากที่เปิดตัวมาแล้วกับรุ่น C180 และ C250
มาวันนี้ ก็ถึงทีของคนรักดีเซลด้วยรุ่น C300 BlueTEC Hybrid ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะตัวถังซาลูนเท่านั้น
แต่ยังมีบอดี้ Estate มาเปิดตัวขายจริงด้วยเช่นกัน C300BlueTEC จะมีรายละเอียดขุมพลังเหมือนกับ
E300BlueTEC รุ่นพี่ กล่าวคือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรล 2.1 ลิตร 204 แรงม้า กับมอเตอร์
ไฟฟ้าพลัง 27 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7G Tronic ภายนอกตกแต่งด้วยกระจังหน้าและ
กันชนกับชุดสเกิร์ตแบบ AMG Style ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว

ราคาที่ตั้งไว้สำหรับรุ่นซาลูนอยู่ที่ 3.19 ล้านบาท ส่วนรุ่น Estate นั้นจะมีราคา 3.39 ล้านบาท
เป็นที่น่าสังเกตว่าทางค่ายอาจเล็งเห็นแนวโน้มบางอย่างในตลาดไทยหรือไม่จึงมีการเปิดตัวรถ
ทรงแวก้อน ทั้งในรุ่น C, E, CLS ในปัจจุบัน แถบ Asia/Australia ยอดขายของ C-Class Estate
คิดเป็นแค่ราว 15-20% ของยอดขายทั้งหมดเท่านั้น แต่ในยุโรปนั้นทั้ง C-Class Estate หรือแม้กระทั่ง
BMW 3-Series Touring กลับมียอดขายเกินครึ่งของรถทั้งหมดในโมเดลที่ขายออกไป
แม้ว่า C300Estate จะมีค่า Cd 0.27 ซึ่งฝืดลมกว่าตัวเบนซิน แต่คิดว่าลูกค้าส่วนใหญ่คงไม่แคร์จุดนี้
แลกกับรถที่ไม่เหมือนใคร เพิ่มเงินอีกไม่มาก อรรถประโยชน์หลากหลายและ..ถ้าให้แนะนำ
ลองไปนั่งคันที่เบาะภายในเป็นสีแดง Cranberry Red ดูครับ แล้วจะรู้สึกว่ามันเริ่มจะเหมือนพวก
รถ GT อิตาลีราคาสูงเข้าไปทุกทีแล้วทั้งในเรื่องสีสันและวัสดุ

การมาของ C300 ในครั้งนี้ มาทำหน้าที่แทน C250 เบนซินในฐานะเวอร์ชั่นสูงสุดของ C-Class ในไทย
ในใบราคา Price List จากทาง Mercedes-Benz เอง รุ่น C250 ไม่มีชื่อปรากฎอยู่ในนั้นแล้วครับ
ดังนั้นถ้าใครอยากได้ ไม่รู้ตอนนี้ตามโชว์รูมยังมีเหลืออยู่หรือเปล่า รีบหน่อยก็แล้วกันครับ

ส่วน GLA200Urban ก็มีการนำเสนอช่วงล่างใหม่ ซึ่งเป็นช่วงล่างแบบ Off-road package
ซึ่งถูกยกความสูงเพิ่มจากรุ่นธรรมดา 30 ม.ม. และเปลี่ยนมาใช้ล้อขนาด 19 นิ้ว ในปัจจุบันตั้งราคาเอาไว้
ที่ 2,470,000 บาท อีกสิ่งหนึ่งที่ตาเอก Backseat Driver ไปเจอและบอกมาก็คือ CLA250 ตอนนี้
ได้พวงมาลัยใหม่ที่เหมือนของ C-Class แล้ว และจอ Tablet ตรงกลางตอนนี้ก็ขยายเต็มพื้นที่แล้ว

MG

เผยโฉม MG3 ครอสโอเวอร์ขนาดกำลังดีที่วิ่งแบบปิดผ้าเปิดหัวปิดขาเปิดแขนปิดท้ายเปิดไฟอยู่ใน
ไทยแลนด์มานานมากแล้ว วันนี้จะได้ฤกษ์เห็นหน้าตัวเป็นๆเสียที มาในสีสันและการตกแต่งกึ่ง Concept Car
ซึ่งถ้าถามว่าจะมาขายไหม? มาครับ! มาเมื่อไหร่? ปีหน้า ภายในครึ่งแรกของปีครับ เครื่องยนต์ที่ใช้
ก็เป็นขนาด 1.5 ลิตร ส่วนราคานั้นยังไม่มีข้อสรุป ไม่แน่ใจว่าจะโดนหักอกเรื่องราคาเหมือนสมัย MG6
หรือไม่ แต่แนวโน้มที่คนใน MG หลายคนอยากให้เป็นคือตั้งเอาไว้ในระดับสูสี Avanza และไม่ไปแตะ
Nissan Juke (แน่นอน เพราะถ้าแตะ โอกาสทองในการขายก็จะน้อยลง)

ขอบอกไว้อีกอย่าง ตอนแรก เห็นรถที่โชว์บางคันเป็นดิสก์เบรกหลัง ในเคสนี้เจ้าหน้าที่ขายของ MG
บอกว่าทำมาเพื่อโชว์นะครับ ของจริงที่ผลิตขายกันจะเป็นเบรกหลังแบบดรัม และรุ่นท้อปจะมีหลังคา
ซันรูฟมาให้

ส่วน MG6 นั้นก็ยังมีขายกันอยู่ต่อไป แต่ได้ยินมาว่าหลังจากที่ทั้งคลิปและทั้งรีวิวของเว็บเรานั้น
มีการวิจารณ์อย่างดุเดือดเรื่องการตอบสนองของเกียร์และวิธีการทำงานที่เข้าใจยากของกุญแจแบบ
เสียบลงรูแล้วสตาร์ท ทาง MG คิดว่าเรื่องนี้เขาจะไม่ปล่อยมันไปครับ หลายคนในบริษัทสู้ยันกันจน
ในที่สุด กุญแจถูกปรับปรุง ถ้าเสียบกด On ไปแล้วกดต่ออีกจะสตาร์ทได้เลย ไม่ต้องดึงออกมาแล้วเสียบใหม่
ส่วนเกียร์ที่เราเคยติว่าเกิดเป็นคลัตช์คู่เสียเปล่ามันให้ผลงานที่ไม่น่าประทับใจนั้น ทางโรงงานที่ระยอง
ทั้งคนไทย และคนจีน ร่วมมือกันหาวิธีปรับ Software Logic การทำงานของเกียร์ใหม่ เมื่อถามว่า
ดีขึ้นแค่ไหน ก็อาจจะยังไม่เทพขนาดเกียร์ PDK แต่ “มันจะตอบสนองอย่างที่ควรจะเป็นมากขึ้น”

จริงเท็จประการใด ก็ขึ้นอยู่กับว่าทาง MG จะให้เราลองรถรุ่นที่ปรับปรุงแล้วอีกหรือไม่ บอกเลยว่า
ผมอยาก และชอบเสียด้วยถ้าพัฒนาการเหล่านี้เกิดขึ้นได้จริง อีกทั้งยังเป็นการพิสูจน์ตัวเองอย่างดีเลยว่า
MG มาได้มาอยู่เมืองไทยเพื่อขายไปวันๆ พวกคุณมีศักยภาพที่จะปรับตัวให้เข้ากับลูกค้าในตลาดได้

แต่ยืนยันอย่างเดิม อย่าไปเปลี่ยนช่วงล่างมันนะ อันนี้ขอเลย

 
Mitsubishi
New Model: Triton
งานนี้ก็ไม่ต้องพูดพล่ามเรื่องรถรุ่นอื่นให้เสียเวลาครับ ถ้าคุณจะมาเยี่ยมเยียนมิตซูวันนี้ พระเอกในงาน
ก็คงมีแต่ Triton เป็นตัวหลัก

แม้ว่าทาง Headlightmag จะได้ทดสอบไปแค่ตัว 4×4=16 GLSltd Doublecab แต่ในงานนี้
Triton หลากรุ่นหลายแบบถูกขนมาแบบครบครัน ไล่ไปตั้งแต่ตัวแค็บตอนเดียว 2.4 ลิตรเบนซิน
128 แรงม้า รวมไปถึงตัว Megacab รุ่นกลาง และสี่ประตูขับสี่ตัวท้อป มากันแบบครบครัน

สิ่งที่น่ายินดีคือเบาะของ Triton แม้จะเป็นรุ่นตอนเดียว ก็นั่งสบายกว่าคู่แข่งอย่างชัดเจน
ผมขอให้เจ้า Tee@Abuser ซึ่งใช้ Vigo Pre-runner ในธุรกิจส่วนตัวอยู่ไปลองนั่งแล้วว่า
ไอ้ที่ไอ้พี่แพนบอกว่ามันนั่งนุ่มสบายดีน่ะมโนไปเองหรือเปล่า คุณตี้บอกว่า เออ นุ่มจริง ใช้ได้
ส่วนเรื่องอื่นๆนั้น ผมจะบอกว่าทั้ง Mitsubishi และ Nissan ต่างก็มีโครงสร้างเปลือยไร้กระดอง
ของรถกระบะค่ายตัวเองมาโชว์อยู่ในบูธทั้งนั้น ถ้าใครอยากสังเกตเรื่องเทคนิคมากๆ ลองไปก้มมุด
ดูกันได้นะครับ ตำแหน่งของแหนบหลังก็ไม่เหมือนกันแล้ว NP300 เป็นแหนบใต้เพลา ส่วน Triton
เป็นแหนบเหนือเพลา ช่วงล่างหน้า ของ Triton จะหน้าตาคล้ายกับของ Vigo แต่ Navara นั้น
หน้าตาจะไม่เหมือนชาวบ้านเลย

สำหรับคนที่ซื้อ Triton ในงาน หน้ากระจกรถโชว์มีแปะทุกคันครับ ฟรีค่าแรง 3 ปี หรือ 100,000 ก.ม.
แล้วแต่อย่างไหนจะถึงก่อน

อ่อแล้วก็น้องเปาฝากบอกว่า ร่น Megacab ประตูหลังเปิดได้นะครับ

Nissan

X-Trail กับ Navara เป็นตัวชูโรง

Nissan ในปีนี้ คาดว่า X-Trail กับ Navara นั้นน่าจะพอที่จะสร้างกระแสดึงคนเข้าบูธได้พอสมควร
โดย X-Trail นั้นมีรุ่น 2.5 ลิตรที่ใช้เครื่อง QR25DE มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสวยเลือกได้
(ด้วยการบิดสวิตช์) กับรุ่น 2.0 ลิตรที่เป็นเครื่องหัวฉีดตรง บล็อคใหม่กว่าของ Teana

ส่วน Navara NP300 นั้น ก็เอามาโชว์ครบเช่นกัน จุดเด่นอยู่ที่แผงมาตรวัดพร้อมจอ MID
ที่สวยเทียบชั้นได้กับ Teana เลยทีเดียว รุ่นเกียร์อัตโนมัตินั้นจะเป็นแบบ 7 จังหวะที่ให้อัตราทด
ชิดกันมาก ทำให้สามารถเลือกเกียร์ที่เหมาะที่สุดสำหรับการขับขี่ในสภาวะต่างๆได้ และยังมีระบบ
VDC ในตัวท้อป ซึ่งผมกับเจ้าของเว็บลงความเห็นกันแล้วว่า ถ้าเราจับระบบนี้ใส่ในรถกระบะไทย
ได้ทุกคัน รับรองว่าปัญหาเพื่อนชาวดันรางลงข้างทางจะมีน้อยลงเยอะมากครับ

แล้วในตลาดรถเก๋งมีอะไรบ้าง March Limited Edition มาให้เลือกแล้วกับ 3 รุ่น กล่าวคือ
รุ่น E เกียร์ธรรมดา รุ่น E CVT และ EL CVT ซึ่งราคาจะเริ่มต้นที่ 456,000 บาท ไปจนถึง
516,000 บาท ทุกรุ่นจะมีถุงลมนิรภัยคู่และเบรก ABS ล้อจะเป็นแบบเหล็กพร้อมฝาครอบ ยางขนาด
175/65/14 ถ้าใครเคยอยากได้ March Bolero ที่มีกระจังหน้าอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โอกาสของคุณ
มาถึงแล้วครับ

ยังไม่จบแค่นั้น Almera ขวัญใจคนไทยในอีโคคาร์สี่ประตู วันนี้จะขอล้มล้างภาพพจน์รถช้าวิ่งเลนขวา
ด้วยรุ่น Sportech ซึ่งตกแต่งมาในสไตล์รมดำ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้ารมดำ ภายในสีดำ พวงมาลัยหุ้มหนังสีดำ
สเกิร์ต สปอยเลอร์ ชุดแต่ง ไฟ Daytime Running Light และล้ออัลลอยรมดำ สำหรับค่าเซ่นไหว้ของดำ
ก็ขึ้นอยู่กับรุ่น ถ้าเป็นตัว E Sportech ก็ 525,000 บาท และ VL Sportech 625,000 บาท

Peugeot
408 มาโชว์ตัวเหมือนเดิม พร้อมรุ่น 2.0 ลิตร 145 แรงม้า และรุ่นเทอร์โบ 1.6 ลิตร 165 แรงม้า

 

Proton
IRIZ ที่คาดว่าจะขายได้ในปีหน้า

จอดหลบอยู่มุมเล็กๆจนเกือบจะเดินผ่านเลยไปแล้ว.. Iriz นี่เป็นรถขนาดยาว 3.9 เมตร A-Segment ที่
เพิ่งเปิดตัวไปในบ้านเกิดเขาเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง มันคือรถรุ่นที่จะมาทำตลาดแทน Proton Savvy
รถซึ่งหลายคนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เครื่องยนต์ที่เมืองนอก จะมีขนาด 1.3 ลิตร 95 แรงม้า
และ 1.6 ลิตร 115 แรงม้า เป็นเครื่องตัวใหม่ เสื้อสูบ ก้านสูบ ท่อนล่างและฝาบนใหม่หมด ผมไม่ได้มีโอกาส
เข้าไปนั่งข้างใน แต่จาก LiveTweet ของน้องเปา เจ้าตัวบอกว่า “ยังคงเป็น Proton ทุกกระเบียดนิ้ว”

ดูจากภายในแล้วคิดว่าไง? อย่างน้อยดีไซน์ก็ก้าวหน้านะ ว่ามั้ย ดูดีกว่า Savvy เยอะมาก

ส่วนรถรุ่นอื่นก็มีนำมาโชว์กันนะครับ และถ้าใครสนใจ Preve ซาลูน C-Segment ตัวเล็ก หัวใจโต 1.6 เทอร์โบ
136 แรงม้าพร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน วันนี้ออกรถ ดอกเบี้ย 0% 72 เดือนครับ

 

Skoda/MTM
ยังไม่มีวี่แววของ Rapid มา ดังนั้นจึงยังโชว์รถรุ่นเดิมไปก่อน ได้แก่ Fabia มดเขียว vRS และ Superb


Subaru
New Model: Outback

ทำไมไม่ยอมเอา Legacy Saloon มาโชว์ก็ไม่ทราบทั้งๆที่เมื่อกี้เห็นมีใครไปขับอยู่แถวๆเมืองทองนี่น่า
เอาเถอะเพราะยังไง วันนี้ดาวเด่นของดาวลูกไก่ในกำมือตันจง คือเจ้า Outback นี่ล่ะครับ

Outback ตัวใหม่ รุ่น 2.5iS ตั้งราคาไว้ 2,590,000 บาท โดยใช้เครื่อง Boxer 2.5 ลิตร 175 แรงม้า
มีการเพิ่มฝาท้ายแบบเปิดไฟฟ้าเข้ามาให้ และใต้ท้องของรถก็ยังสูง 220 ม.ม. เหมือนเดิม ดังนั้นเรื่องลุย
ก็ไม่ได้ลดหย่อนประสิทธิภาพลงแต่อย่างใด

ส่วนตัวแสบ WRX STi ก็มาจอดโชว์ให้สัมผัสกันได้ เปิดดูเครื่องดูรถได้ตามใจชอบเลย ผมถือโอกาสเทียบ
กับเจ้า WRX ตัวธรรมดา ก็พบว่าตัวถังมันเท่ากันเด๊ะเลยครับ STi บอดี้นี้ไม่ได้มีโป่งแตกต่างจาก WRX
เหมือนบอดี้ที่แล้ว แต่แน่นอนว่าการจ่ายเพิ่มจาก 2,640,000 เป็น 3,540,000 บาทนั้น ต้องมีสิ่งที่ต่าง
กันเป็นนัยสำคัญ อันได้แก่ ปีกหลังโต๊ะกินข้าวในตำนาน ล้ออัลลอยที่เพิ่มจาก 17 เป็น 18 นิ้ว จานเบรก
และคาลิเปอร์เบรกขนาดต่างกันราวพ่อกับลูก ช่วงล่างคนละชุด เครื่องยนต์ยังเป็น EJ25 ที่แรงม้า 300 ตัว
เท่าสมัยก่อน ไม่ใช่เครื่อง New Age Boxer ช่วงชักยาว 2.0 ลิตรเหมือน WRX ตัวธรรมดา เกียร์ธรรมดา
แม้จะเป็น 6 จังหวะเหมือนกันแต่ความรู้สึกในการเข้าเกียร์ ตัว STi จะแน่นดีกว่า ที่สำคัญคือ STi มีระบบ
DCCD ที่สามารถจัดการถ่ายกำลังล้อคู่หน้ากับหลังได้ ทำให้ตอบสนองในโค้งได้ดีกว่า WRX ธรรมดา

นอกจากนี้ ทาง Subaru ยังได้นำรถต้นแบบ VIZIV Concept มาแสดงไว้ด้วย

VIZIV เป็นรถครอสโอเวอร์ ขนาดตัวยาวประมาณ 4.3 เมตร ใช้ขุมพลังดีเซลบวกเมอเตอร์ไฟฟ้าที่ท้ายเกียร์
1 และที่ล้อหลังแต่ละข้างอีก 2 ชุด พร้อมระบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟ อนาคตอาจจะมีมาขายในเวอร์ชั่นที่ใกล้
ความจริงมากขึ้นและเซ็กซี่น้อยลง (น้อยลงมาก..ตามสไตล์ Subaru)

Suzuki
New Model: Swift RX

Swift RX อีโคคาร์ไฮโซ มีไฟ Projector, Cruise Control และ Paddle shift แน่นอนว่าต้องมาโชว์ตัวในงานนี้
พร้อมกับการนำ Celerio มาแต่งให้ดูเป็นวัยรุ่นแล้วโชว์ไว้ตรงเวทีกลาง

ทีเด็ดของเขา..น่าเสียดายที่เราจะทำได้แค่ชื่นชมอยู่ห่างๆราวติ่งตามกรี๊ดไอด้อลคนโปรด เพราะทั้ง Suzuki Lapin
Chocolat รถ K Car หน้าตาน่ารัก และ Hustler รถหน้าตาแปลก ชื่อก็แปลกนั้น..ทางคุณวัลลถบอกว่า
เราเอามาเพื่อโชว์นวัตกรรม..ถ้าพูดในภาษาพี่แพน พี่แพนก็คงพูดแค่ว่าไม่ขายโว้ยครับ

เราโชคดีที่มีโอกาสได้ลองนั่งในรถทั้งสองคัน Lapin เป็นรถที่ดีไซน์ดูเรียบง่าย เหมือนจะเล็ก แต่พอเข้าไปนั่งจริงๆ
มันแค่แคบในแนวข้างเพราะตัวรถ K-Car มันจำกัดความกว้างไว้ แต่พื้นที่ศรีษะกับที่วางขานั้นสบายเหลือเชื่อ
ผมนั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลยครับ และเบาะก็ทำมานุ่มสบายเกินคาด เบาะของ Lapin ทำให้ผมนึกถึงวัยเยาว์
เมื่อครั้งผมยังนั่งตักใครสักคนได้ว่ามันนุ่มๆอุ่นๆสบายเป็นที่สุด สมัยนี้เหรอครับ ถ้านั่งตักใคร มึงตายแน่

Hustler นั้นเป็น K-Car 660 ซี.ซี.เช่นเดียวกับ Lapin แต่มาในสไตล์ออฟโรดตัวโย่งกว่า ตกแต่งอย่างมี
สีสันฉูดฉาด เล่นโทนสีสัมพันธ์ระหว่างสีภายนอกรถกับคอนโซลจนทำให้ดูมีเสน่ห์และน่าสนใจมาก
เรื่องพื้นที่ภายในก็ไม่ต้องห่วง ดีตามสไตล์ Suzuki K-Car โปร่งๆ ที่บังแดดน่ะเปิดออกมามีกระจก มีไฟส่องนะ
หุหุ อันนี้ Mitsu Triton คันละล้านยังไม่มีเลยหนูเอ้ย

ส่วนภาพต่อไปนี้ ไม่ได้ตาย ไม่ได้เกยตื้น แค่ลงทุนหาวิธีทำให้คุณๆรู้ว่าตัวรถจริงๆมันยาวประมาณไหน
ย้ำ..ไม่ได้ตาย ถ้าตายแล้วนี่ใครเขียนอยู่ เดี๋ยวปั๊ด..เหนี่ยวไก่แหก

Promotion:

– Swift ได้ประกันชั้น 1 พร้อมส่วนลดชุดแต่งมูลค่า 8,000 บาท
– Celerio ผ่อน 0% 48 เดือน หรือจะไปเอาส่วนลดชุดแต่ง 30,000 บาท..เลือก!
– Ertiga ผ่อน 0% 48 เดือน หรือเลือกรับส่วนลดชุดแต่ง 40,000 บาท

Tata

มากับ Tata Xenon Refresh ใหม่ (กด F5 แทนไม่ได้เหรอ) มีภายในดำใหม่ เครื่องยนต์ 2.2 ลิตร
150 แรงม้า มีให้เลือกทั้งบอดี้ 2 และ 4 ประตู ระบบขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ

Toyota
มี Yaris TRD ที่เพิ่งเปิดตัวไป และ Vios CNG

โดย Vios CNG นั้น ค่อนข้างจะสับสนนิดหน่อยเพราะไม่มีเอกสารอะไรจาก Toyota เลย (ผมหาไม่เจอ
เองแหละครับ) เพราะในขณะที่เซลส์บางท่านบอกว่าทำมาโชว์ ไม่ได้ทำมาขาย แต่คุณไอ้ตี้ไปเดินถาม
มาเหมือนกัน กลับได้ข้อมูลว่าถ้าจะเอา เพิ่ม 65,000 บาท เอารถ Vios เกียร์ออโต้รุ่นไหนมาก็ได้
แล้วเพิ่มเงินจำนวนเท่านี้ คณจะได้ Vios CNG กลับไปนอนกอดแทนหมีที่บ้านสมใจอยาก

นอกจากนี้ ยังมีการเอา Vigo ตัว Paris Dakar Rally 2014 มาจอดโชว์ในงานด้วย เป็นการ
ยืนยันว่าเทคโนโลยีที่อยู่ตัววิ่งทนข้ามประเทศได้น่ะ มันดีอย่างนี้แหละ

สำหรับ Lexus Thailand งานนี้ ไม่ได้ส่งเข้าประกวดนะคะ

Volkswagen
Multivan again, Caravelle Again

เมื่อไหร่เราจะมีอะไรมามากกว่านี้ เช่น Polo GTi เช่น Golf Mk.7 ..ช่วงนี้คือภาวะจำศึล
ของไลน์อัพในไทยหรือเปล่าครับ

Volvo
งานนี้มีรถโชว์ S60 STCC (Scandinavian Touring Car Championship สีฟ้าสวยใส

รถแข่ง STCC คันนี้จะไม่ได้แชร์ Platform ระบบขับเคลื่อนเหมือน S60 ทั่วไปที่เราคิดกันนะครับ
เพราะเครื่องยนต์ถูกเปลี่ยนเป็นแบบ 6 สูบ 3.5 ลิตร 420 แรงม้าและ “ขับเคลื่อนล้อหลัง”
ส่งกำลังด้วยเกียร์ Sequential 6 จังหวะ

ส่วนไลน์อัพรถ BKTCC (Bangkok Traffic Cycle Championship) หรือรถทั่วไปที่เราๆท่านๆ
ซื้อได้นั้น ก็ยังอยู่กับตระกูล S60, V60, XC60, V40, V40 Cross Country, S80 และ
XC90 (รุ่นเก่านะครับ) เช่นเดิม โดยมีการอัพเดทขุมพลังกันนิดหน่อย อย่าง S80 และ XC60
จะมีรุ่นดีเซล i-ART 2.0 ลิตรทวินเทอร์โบ 181 แรงม้า แรงบิด 400Nm พร้อมเกียร์รุ่นใหม่ที่ช่วย
ให้รถตอบสนองได้ทันใจขึ้นกว่าเ่ก่าเยอะ S80 D4 i-ART ตั้งราคาไว้ 2,895,000 บาท ส่วน
XC60 i-ART จะมีราคา 3,145,000 ล้านบาท

ส่วนถ้าใครชอบเสียงเครื่อง 5 สูบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Volvo มาตั้งแต่ยุค 90s กับ T5 แท้ๆ
V40 T5 ก็ยังขายอยู่ด้วยราคา 1,820,000 บาท แต่ถ้าคุณอยากได้ T5 ที่เอาเข้าจริงดันมี 4 สูบ
ก็ต้อง S60 T5 ครับ 2.0 ลิตร 4 สูบ 220 แรงม้า แรงบิด 350Nm ทรงพลังกว่า 5 เม็ดของ
V40 เสียอีก

หากใครออกรถ Volvo หรือมี Volvo อยู่แล้ว ต้องการอัพเลเวลเปลี่ยนลูกเต๋าให้มีฤทธิ์เดช
สามารถนำรถเข้าไปจูนกล่องตามโปรแกรม Polestar Performance ได้ในราคาเริ่มต้น
39,900 บาทครับ ทำโดย Volvo เอง (ราคาอาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น) นี่คือราคาที่
ลดแล้ว จากปกติ 57,000 บาทนะครับ แต่รีบหน่อย เพราะเขาให้ส่วนลดนี้ถึงสิ้นปี 2014 เท่านั้น

อ่ะ..นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม ถ้าสนใจกันอย่างไรก็ไปเดินเยี่ยมชมกันได้ วันนี้ถึง 10 ธันวาคม 2557

ขอให้มีความสุขกับการช้อปรถนะครับ

ปล.1 – น้าขวัญครับ
รูปเปิดบทความนี้ แม่ผมเป็นคนเลือกให้ เทียบกับรูปโลโก้งาน แม่บอกรูปการ์ตูนน้าขวัญเจ๋งกว่ามาก
ขออนุญาตเปิดบทความด้วยรูปที่สดใสชวนยิ้มแบบนี้แล้วกันนะครับ

ปล.2 – ผมถ่ายรูปกับเขียนส่วนที่เป็นรถให้ท่านผู้อ่านแล้ว ทีนี้ท่านผู้อ่านก็ตอบแทนกันเล็กๆน้อยๆนะครับ
ฝากถ่ายพริตตี้ทั้งหลายให้ผมที!

 

——————————————————————————–

Commander CHENG! / พันธุ์สวัสดิ์ ไพฑูรย์พงษ์
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ และภาพถ่าย โดยผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
28 พ.ย. 2014

Copyright (c) 2014 Text and Pictures
Use of such content either in part
or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
November 28, 2014