เทรนด์ฮิตของงานวิศวกรรมในยุคหน้าคือการพัฒนาพื้นตัวถังที่สามารถแชร์ชิ้นส่วนหลาย ๆ ชิ้นร่วมกันได้ตั้งแต่รุ่นเล็กสุด
จนถึงรุ่นบนสุด (ยกเว้นโครงสร้างส่วนด้านหน้า, ห้องโดยสารและโครงสร้างด้านท้าย ที่จะต้องแยกออกระหว่างรถ A-B
Segment กับ C-D Segment) อันเป็นแนวคิดสำคัญที่น่าจะทำให้ลดต้นทุนการผลิตลงได้มากและที่สำคัญค่ายรถ
สามารถปรับปรุงคุณภาพของตัวรถตั้งแต่คุณภาพการขับขี่, ความทนทานและยังสามารถพัฒนารถให้สามารถประหยัด
น้ำมันขึ้นและลดค่าไอเสียได้

alt

ล่าสุด โฆษกประจำ Mazda สหราชอาณาจักรก็เปิดเผยข้อมูลกับเว็บไซต์ยานยนต์ Just-Auto.com ว่า Mazda 2 เจเน
เรชั่นใหม่จะใช้พื้นตัวถังร่วมกับ Mazda CX-5 , Mazda 6 ซึ่งในเนื้อข่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าจะใช้โครงสร้างพื้นตัวถัง
ร่วมกันได้มากแค่ไหนเพราะขนาดตัวถังก็ต่างกันอยู่เยอะพอสมควร

แต่ที่แน่ ๆ Mazda เตรียมจะใช้พื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหน้าน้ำหนักเบาแบบเดียวกันหมดทุกรุ่น ไม่มีการมาแยกพื้นตัวถัง 3
แบบเหมือนในอดีต (ที่พัฒนาร่วมกับ Ford ในสมัยก่อน) ไม่ว่าจะเป็น Mazda 2, 3 โฉมใหม่, MPV/Mazda 8 โฉมใหม่ที่
คาดว่าน่าเปิดตัวปลายปี 2013, CX-9 ปี 2014 และ Biente ปี 2016 และในอนาคตก็จะมีพื้นตัวถังขับเคลื่อนล้อหลัง
แบบใหม่สำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เริ่มจาก MX-5 รุ่นใหม่ที่จะมาในปี 2015 ส่วนรถกระบะ BT-50 โฉมใหม่ก็จะมา
ในปี 2019

และสุดท้ายทีมงาน Just-Auto ก็ได้ถามโฆษกว่าจะมี Mazda CX-3 เพื่อมาต่อกรกับ Nissan Juke และ Ford
Ecosport หรือไม่ เขาก็ตอบว่ายังพิจารณาแผนในตอนนี้ ต้องรอให้สำนักงานใหญ่ประกาศก่อน

Update : Mazda จะเริ่มใช้กลยุทธ์ Life Cycle หรือเปลี่ยนรุ่นตัวถังเหลือเพียงแค่เจเนเรชั่นละ 4 ปี โดยเริ่มจาก Mazda 6 
เจเนเรชั่นใหม่เป็นต้นไป