ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดการเติบโตคือการเฟ้นหาแหล่งอุตสาหกรรมเพื่อตั้งฐานการผลิต
ได้อย่างเหมาะสม เป็นการประหยัดงบต้นทุนและส่งผลดีแก่ค่ายรถยนต์ในระยะยาว ดังจะเห็นตัวอย่างที่ชัดๆเลยก็
คือบรรดาแบรนด์รถยนต์ที่หันมาตั้งรกรากฐานการผลิตในไทย และส่งออกไปยังทั่วโลก นั่นเพราะเหตุผลเรื่องเศรษฐกิจ
ที่ดีต่อทั้งผู้ผลิตและต่อภาครัฐของประเทศนั้นๆ

ล่าสุด แบรนด์ Nissan เลยต้องขอขยับตัว ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลก ด้วยการย้ายฐานผลิต
Nissan Murano รถเอสยูวีมีสไตล์ที่สร้างความนิยมพอสมควรทั้งในตลาดบ้านเกิดและภูมิภาคอื่นๆ แต่การย้าย
ฐานผลิตครั้งนี้เป็นการปรับตัวเพื่อตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ ที่แต่เดิมใช้วิธีประกอบ Nissan Murano ที่โรงงานในเมือง
Kyushu ที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศญี่ปุ่น และส่งขึ้นเรือเพื่อนำเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็น
ลูกค้ารายใหญ่สำหรับโรงงานนี้ เพราะใช้กำลังผลิตถึง 70% ของสายการผลิต Murano ในโรงงานนี้เลยทีเดียว

alt

แต่เมื่อปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจโลกส่งผลให้ค่าเงินเยนมีความแข็งตัว จนทำให้การย้ายฐานการผลิตไปยัง
โรงงานในเมือง Smyrna รัฐเทนเนสซี ในแดนมะกัน ดูจะเข้าท่าและช่วยสร้างเม็ดกำไรได้มากกว่า สอดรับกับ
แนวโน้มความนิยมของรถรุ่นนี้ซึ่งมากขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุด เดือนสิงหาคม Nissan Murano
มียอดขายเพิ่มขึ้น 4.2% ด้วยตัวเลข 35,637 คัน ซึ่งการย้ายฐานการผลิต Murano สำหรับลูกค้าชาวมะกัน
ครั้งนี้ จะเกิดขึ้นในปี 2014 อันเป็นช่วงเวลาผลัดรุ่นใหม่ของเอสยูวีรุ่นนี้พอดีนั่นเอง

สำหรับโรงงานนิสสันในเมือง Smyrna ได้ถูกใช้เพื่อประกอบ Nissan Altima และ Nissan Maxima อยู่แล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้เอง Nissan ก็ได้เคยประกาศออกมาแล้วว่า Nissan Roque รถเอสยูวีรุ่นน้อง จะถูกย้ายฐานการ
ผลิตจากญี่ปุ่นมายังโรงงานนี้เช่นเดียวกัน และในปัจจุบันนอกจาก Nissan Murano จะถูกประกอบขึ้นในโรงงาน
นิสสัน เมือง Kyushu ประเทศญีปุ่่นแล้ว ยังมีการประกอบที่โรงงานนิสสันในประเทศรัสเซียและจีนอีกด้วย เพื่อ
ตอบโจทย์กับตลาดนั้นๆได้อย่างทั่วถึง