หลังประสบความสำเร็จกับ Nissan March ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2010 และทำยอดขาย
ไปได้มากมาย วันนี้ (7 ตุลาคม 2011) ถึงเวลาแล้วที่ Nissan จะเปิดศึกตลาดรถยนต์ขนาดเล็กระดับ
ECO Car (Sub-B Segment เครื่องยนต์ 1.0 – 1.3 ลิตร) ในเมืองไทย อย่างรุนแรงอีกครั้ง ด้วย รถเก๋ง
Sedan 4 ประตู รุ่นใหม่ถอดด้าม นามว่า Nissan Almera เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ และพร้อม
ทำตลาดจริงในทันที ในฐานะ ECO Car ตัวถัง Sedan รุ่นแรกของเมืองไทย!

คราวนี้ ต้องถือว่า ทีมงานของ Nissan Motor Thailand วางแผน ทำการบ้านมาดีใช้ได้ แม้จะเลือกใช้
บริการของ โดม ปกรณ์ ลัม ดารานักร้องและนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
ซึ่งดูจะไม่เข้ากันกับบุคลิกของตัวรถเลย แต่แน่นอนว่า นาทีนี้ ไม่มีใครสร้างกระแสให้กับรถยนต์
รุ่นใหม่ ผ่านสื่อต่างๆ ได้ดีเท่ากับ พี่โดม ของสาวๆ กันอีกแล้ว อีกทั้งคราวนี้ Nissan ยังเล่นแรง
ด้วยการ ใช้สโลแกน “ความสุขที่กว้างกว่า” ซึ่งดูราวกับว่า จงใจ บลัฟ Honda Brio ที่ใช้สโลแกน
“ความสุขที่ลงตัว” อย่างโจ่งแจ้ง จนในที่สุด มีการถอดวลีดังกล่าว ออกจากงานโฆษณา Teaser
ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเปิดตัว ไม่นานนัก

Almera ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่ 2 จากโครงการพัฒนารถยนต์ขนาดเล็กที่ใช้พื้นตัวถัง V-Platform ร่วมกัน
ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้รหัสโครงการ L02B เพื่อวางตัวให้เป็น รถยนต์ Sedan 4 ประตู สำหรับตลาดโลก
โดยมุ่งเน้นไปยัง กลุ่มลูกค้าครอบครัว ที่อยากมีรถคันแรกในบ้าน หรือผู้ใหญ่ ที่ต้องการรถเก๋ง Sedan
สำหรับขับใช้งานแบบประหยัดๆในชีวิตประจำวัน ไม่ได้เน้นความแรง ไม่เน้นสมรรถนะ แต่เน้น
ความกว้างขวางของห้องโดยสารสำหรับ 5 คน สบายๆ ภายใต้งานวิศวกรรมร่วมกันกับ Nissan March

อันที่จริง ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่ 3 ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ เปิดตัวออกสู่ตลาด โดยประเทศแรกคือ จีน
ประเทศที่ 2 คือ อินเดีย ทั้ง 2 ประเทศจะใช้ชื่อ Nissan Sunny ส่วนในบ้านเรา จะใช้ชื่อ Almera ซึ่งทั้ง
2 ชื่อ คือการขุดเอาชื่อเก่าๆ มาใช้กับรถรุ่นใหม่เอี่ยมถอดด้าม ซึ่งไม่ได้มีความเป็นมาหรือสืบทอด
สายพันธุ์ต่อจากรถยนต์ตระกูล Nissan Sunny และ Nissan Pulsar/Almera ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
ทั้งสิ้น แต่อย่างใด

ตัวถังมีความยาว 4,426 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,500 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร
ถือได้ว่า นอกจากจะมีขนาดซึ่งควรถูกจัดอยู่ในกลุ่ม B-Segment Sedan เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร แล้ว Almera
ยังมีตัวถังที่ยาวกว่า และมีระยะฐานล้อยาวกว่า รถยนต์ B-Segment Sedan ทุกคันในตลาด ทั้ง Toyota Vios
Honda City Mazda 2 Sedan , Ford Fiesta Sedan และ Chevrolet Aveo รุ่นปัจจุบัน และด้วยเส้นสาย
ของตัวถังที่ออกแบบมาจนทำให้ดูบั้นท้ายอ้วนท้วนใหญ่โต ทำให้ต้องมีสปอยเลอร์ด้านหลัง ติดตั้ง
มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อยเป็นครั้งแรกในรถยนต์ขนาดเล็กของเมืองไทย

ภายในห้องโดยสาร ถ้าใครอยากได้โทนสีเบจสว่างๆ เหมือนในเวอร์ชันจีน ขอแสดงความเสียใจด้วย
เพราะ เวอร์ชันไทย จะตกแต่งภายในด้วยโทนสี ดำ เท่านั้น ในรุ่น 1.2 S ใช้เบาะผ้าแบบมัน ส่วนรุ่นอื่นๆ
ที่เหลือ ทุกรุ่น ใช้เบาะผ้าลายเดียวกันหมด คือ เป็นผ้าสีดำ ตัดสลับกับสีเทาเข้ม จุดเด่นสำคัญอยู่ที่ ขนาด
ความยาวของห้องโดยสารด้านหลัง เพิ่มความสบายของพื้นที่วางขา และพื้นที่นั่งทั้งหมด เอาใจผู้โดยสาร
ทั้งสูงวัย และคุณหนูๆทั้งหลายครบถ้วน

ชุดแผงหน้าปัด แม้จะดูคล้ายกับ Nissan March แต่ต่างกันตรแผงควบคุมคอนโซลกลาง ช่องแอร์คู่กลางเป็น
แบบสี่เหลี่ยม มีชุดเครื่องเสียง วิทยุ AM/FM CD/MP3 เล่นได้แผ่นเดียว พร้อมช่องเสียบ AUX IN มีมาให้
ตั้งแต่รุ่น 1.2 E เกียร์ธรรมดาขึ้นไป ส่วนสวิชต์เครื่องปรับอากาศแบบ Digital มี 3 รุ่นย่อย ตั้งแต่ 1.2 ES CVT
1.2 V และ 1.2 VL นอกจากนี้ ยังมีปุ่มติดเครื่องยนต์ Push Start มาให้เฉพาะรุ่น 1.2 VL และสวิชต์ควบคุม
ชุดเครื่องเสียงบนพวงมาลัย มาให้ในรุ่น 1.2 V กับ 1.2 VL อีกด้วย

รายละเอียดทางวิศวกรรม เป็นไปตามที่คาดการณ์กันไว้ ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน มันแทบไม่ได้มีอะไรที่แตกต่าง
ไปจาก Nissan March เอาเสียเลยจริงๆ เพราะเล่นยกชุดมากันหมดแทบจะทั้งยวง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์
รหัส HR12DE บล็อก 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 1,198 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วน
กำลังอัด 10.2 : 1 หัวฉีด Multi-Point Injection ควบคุมด้วยกล่องอีเล็กโทรนิคส์ ECCS 32 Bit ระบบขับวาล์ว ใช้
โซ่ตอนเดียวแบบใหม่ เรียงลำดับการจุดระเบิด 1 – 2 – 3 แถมยังมีระบบแปรผันวาล์ว CVTC (Continuously
Valve-Timing Control) มาให้อีกด้วย กำลังสูงสุด 79 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม.
ที่ 4,400 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า มีให้เลือกครบทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ อัตราทด
แปรผัน CVT ซึ่ง ก็ยังเป็นเกียร์ แบบเดียวกันกับ March อีกนั่นแหละ!

ที่สำคัญ ยังมีระบบ Idle Stop พักการทำงานของเครื่องยนต์ ขณะเหยียบเบรกจอดติดไฟแดง “เวอร์ชันใหม่
แบบเดียวกับ March รุ่นส่งออกไปญี่ปุ่น” คือ มีปุ่มตัดการทำงานมาให้ และระบบทำงานได้ แม้ในขณะเปิด
สวิชต์ A/C On อยู่ แค่เหยียบคันเร่ง หรือขยับคันเกียร์ หรือหักพวงมาลัยเบาๆ เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาได้เอง
ในทันที ถือว่า เป็นการอัพเดทอุปกรณ์นี้ ในแบบที่ควรจะเป็น และเหมาะสมกับสภาพการจราจรบ้านเราสักที

ระบบกันสะเทือนหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม บังคับเลี้ยวด้วย พวงมาลัยแร็คแอนด์พีเนียน
พร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electronics Power Steering) ซึ่งก็ยกชุดมาจาก March เช่นเดียวกัน ระบบห้ามล้อเป็น
แบบหน้าดิสก์ หลังดรัม พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-Lock Brake System) ระบบกระจายแรงเบรกตาม
น้ำหนักบรรทุก EBD (Electronics Brake Force Distribution) และระบบเพิ่มแรงเบรกในภาวะฉุกเฉิน Brake Assist
มาให้ครบทกรุ่น ตั้งแต่รุ่นถูกสุด

ด้านอุปกรณ์ความปลอดภัย มีถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับมาให้ ครบทุกรุ่น ตั้งแต่รุ่นล่างสุด แต่ในรุ่น 1.2 V และ 1.2 VL
อันเป็นรุ่นรองท็อป และรุ่นแพงสุด จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้ามาให้ นอกจากนี้ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้า ELR 3 จุด ปรับ
ระดับสูง – ต่ำได้ เข็มขัดนิรภัยเบาะหลัง ทั้งแบบ ELR 3 จุด ฝั่งซ้ายกับขวา และแบบ ELR 2 จุด ตรงกลางเบาะหลัง
ระบบล็อกกันเด็กเปิดประตูคู่หลังขณะขับขี่ และโครงสร้างตัวถังนิรภัย Zone Body Concept ถือเป็นอุปกรณ์ติดตั้ง
มาให้เป็นมาตรฐานครบในทุกรุ่นย่อย ส่วนกุญแจระบบ Immobilizer พร้อมรีโมท Intelligent Key และใบปัดน้ำฝน
แบบตั้งเวลาหน่วงในการปัดได้ จะมีมาให้เฉพาะรุ่นท็อป 1.2 VL เท่าน้ัน

Almera ใหม่ มีให้เลือกทั้งหมด 6 รุ่นย่อย และมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ทั้งสีน้ำตาล Greyish Bronze อันเป็นสีโปรโมท
สีขาว White Solid สีเงิน Brilliant Silver สีแดง Burning Red สีน้ำเงิน Dark blue และสีน้ำเงิน Black Star โดยมี
ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นเพียง 429,000 บาท ในรุ่น 1.2 S เกียร์ธรรมดา และ 599,000 บาท ในรุ่น
1.2 VL เกียร์ CVT อันเป็นรุ่นท็อป

ถ้าอยากดูรถคันจริง สามารถไปยลโฉมกันได้ ทั้งที่โชว์รูม Nissan ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และที่ลาน
ด้านหน้า ห้างสรรพสินค้า Siam Paragon วันเสาร์ที่ 8 และวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม 2011 รวม 2 วัน ส่วนกำหนด
ส่งมอบนั้น ณ เวลานี้ฃจะมีรถล็อตแรก มาถึงโชว์รูมให้จับจองเป็นเจ้าของกันได้เลย และเป็นรถที่เข้าข่ายได้รับ
สิทธิ์พิเศษ โครงการรถคันแรก ของรัฐบาลอีกด้วย

—————————–///—————————-