เย็นวานนี้ (7 กันยายน 2011) หลังจากที่ผมไปร่วมประชุมงาน ย่านทองหล่อ ก่อนจะขึ้นทางด่วน
เพื่อไปตามนัดหมายอีกรายหนึ่ง ขอแวะเติมพลังที่ แมคโดนัลด์ สาขาพระราม 4 ในสถานีบริการ
น้ำมัน Esso

เพียงแค่เลี้ยวเข้าปั้ม สายตาก็ไปสะดุดกับ Nissan FUGA เจเนเรชันที่ 2 ใหม่ล่าสุด ซีดานร่างยักษ์
หุ่นสะโอดสะอง ที่ผมเคยพบเป็นครั้งแรกเมื่องาน Tokyo Motor Show ตุลาคม 2009 วันนี้ มาจอด
อยุ่ตรงหน้าผม อีกครั้ง

วันก่อนหน้านี้ 1 วัน ผมว่า ผมก็เห็นรถคันนี้ แล่นผ่านหน้าไป บนถนนพระราม 4 เช่นกัน เพียงแต่
ผมเห็นบั้นท้ายหลังจากแล่นผ่านไปแล้วเท่านั้น ไม่มีเวลามาจอดรถไปสั่งนักเก็ตไก่ มากินไป พินิจ
พอเคราะห์รายละเอียดบนตัวรถไปขนาดนี้ ตอนนั้น ยังคิดว่าน่าจะเป็นรถของใครสักคนที่สั่งนำเข้า
มาใช้เองด้วยความคลั่งไคล้ส่วนตัว

แต่สิ่งที่ผมเห็นว่าแปลกตาไปหน่อยสำหรับรถคันนี้คือ การที่เป็นถึงรถยนต์ขนาดใหญ่ กลับไม่มี
กรอบป้ายทะเบียนของผู้นำเข้ารายย่อยแห่งใดทั้งสิ้น แถมมี กล้องขนาดเท่ากับ ปากกระบอกปืนยาว
ติดอยู่บนหลังคารถ พร้อมเทปกาวแปะไล่ตามสายไฟจากภายในรถไปถึงตัวกล้องบันทึกภาพ

แสดงว่า นี่ไม่ใช่รถที่นำเข้ามาเองแล้วละ แต่ Nissan บ้านเราหรือ ที่จะนำเข้ารถคันนี้มา? ไม่ว่าจะเป็น
ไปด้วยจุดประสงค์อย่างไรก็ตามแต่?

ยิ่งพอเห็น ชาวญี่ปุ่น พร้อมกับสต๊าฟคนไทย รวมราวๆ 3-4 คนถึงแม้มองจากระยะไกลๆ ไม่มีอะไร
ทำให้พวกเขาถูกสังเกตโดยคนทั่วไปได้…

แต่ เพราะการที่ มีใครสักคนหนึ่งในกลุ่มนั้น สวมเสื้อ T-Shirt สีดำ ด้านหลัง สกรีนเป็นอักษรภาษาอังกฤษ 
เขียนว่า Nismo ยืนปะปนอยูในกลุ่มพวกเขาด้วย ดังนั้น คำตอบจึงกระจ่างอยุ่ตรงหน้า

ใช่ครับ Nissan ในบ้านเรา เอาเข้ามาเองนั่นแหละ เพียงแต่ ดูแล้วไม่น่าจะใช่หน่วยงานของ Nissan Motor
Thailand แต่อาจเป็นหน่วยงาน NTCSEA หรือเปล่า ที่คิดนำรถคันนี้เข้ามาแล่นทดสอบในบ้านเรา?

เราไม่รู้ว่า จุดประสงค์ในการทดสอบครั้งนี้คืออะไร มันเป็นไปได้หลายทาง อาจเป็นแค่การเก็บข้อมูล
สภาพถนนในบ้านเรา เพื่อประกอบการตัดสินใจบางอย่าง เกี่ยวกับการทำตลาดรถยนต์ขนาดใหญ่
ตระกูล Infiniti (อย่าลืมว่า ในสหรัฐอเมริกา Fuga ทำตลาดในชื่อ Infiniti M) หรือเปล่า? ไม่เช่นนั้น
ก็อาจเป็นการเก็บข้อมูล เพื่อนำมาพัฒนารถยนต์ Hybrid รุ่นต่อไป (เพราะ Fuga ในตลาดญี่ปุ่น
ก็มีรุ่นเครื่องยนต์ Hybrid) ไปจนถึง การเก็บข้อมูลทำระบบนำทางผ่านดาวเทียม สภาพลักษณะ
ของการจราจร ทดสอบเรื่องเสียงรบกวนที่ได้ยินภายในห้องโดยสาร ไปจนถึงการทดสอบสภาพ
การขับขี่ที่จะต้องทนต่อสภาพความร้อน จากการจราจรที่หยุดนิ่งมากกว่าจอด ในกรุงเทพฯ?
ทุกแนวทางที่เดามาทั้งหมดนี้ มันล้วนแล้วแต่เป็นไปได้ทั้งสิ้น

ปริศนา ก็ยังคงเป็นปริศนาต่อไป จะให้เป็นอื่นไปในตอนนี้คงยากที่จะหาคำตอบ คงต้องรอดูกัน
ต่อไปอีกสักพัก เชื่อว่า น่าจะมีความกระจ่าง

เพราะการจะทดสอบอะไรสักอย่าง ถึงขั้นต้องลงทุนนำรถยักษ์คันเบ่อเร่อ อย่าง Fuga ขนมาจาก
ญี่ปุ่น มาวิ่งเล่นทดสอบกันถึงเมืองไทย นั่นแสดงว่า โครงการนี้ ต้องมีความสำคัญระดับไม่ธรรมดา!

ก็เลยไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของผม หรือโชคร้ายของ Nissan ที่ spyshot คราวนี้ J!MMY เห็นเอง และ
ถ่ายรูปเก็บมาเองกับมือ ตามประสาคนที่มีกล้องถ่ายรูปติดตัวไว้คตลอดเวลา….
(^_^)
———————————///————————————-