ตระกูล Nissan Patrol หรือบางตลาดจะเรียกว่า Safari โฉมใหม่ล่าสุดนับเป็น SUV รุ่นเดอะเจเนเรชั่นที่ 7 นับตั้งแต่ Nissan ตัดสินใจผลิตรุ่นแรกในปี 1951 ซึ่งสมัยนั้นไม่ต้องหาความหรูหราหรือความงามแต่อย่างใด เพราะมันคือรถจี๊ปที่ใช้กิจกรรมการทหารและสงครามเสียมากกว่า แต่พอเข้าเจเนเรชั่นที่ 3 ปี 1980 ก็เริ่มยกระดับไปสู่รถจี๊ปมีราคามากขึ้น

 
 

Nissan Patrol/Safari เจเนเรชั่นที่ 5 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1987 ก็เริ่มพลิกโฉมเข้าทีละนิดด้วยการติดตั้งช่วงล่างคอยล์สปริงซึ่งสมัยนั้นถือว่าล้ำมากถึงมากที่สุด แต่ตัวรถก็ยังมีภาพลักษณ์ตัวลุยอย่างเต็มเปี่ยม  รวมไปถึงเจเนเรชั่นที่ 6 ที่เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาแต่ก็ยังติดภาพลักษณ์ตัวลุยอยู่เช่นเคย

 
 

วันนี้ Nissan เปิดตัว Patrol เจเนเรชั่นที่ 7 ใหม่ล่าสุดที่แถบตะวันออกกลางอันเป็นตลาด SUV ที่ใหญ่มากกว่าตลาดญี่ปุ่น,ยุโรปและอเมริกาไปเรียบร้อยแล้ว เพราะพวกเขาเหล่านั้นไม่เดือดร้อนกับราคาน้ำมันแน่นอน และรวมทั้งเศรษฐีเหล่านั้นชอบเอารถเหล่านี้ไปลุยทะเลทรายจริง ๆ

จึงไม่แปลกใจว่า Nissan จึงเลือกตะวันออกกลางเป็นประเทศแรกที่เปิดตัว Patrol ครั้งแรกในโลก

 
 

แต่ความเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมหน้าตระกูล Patrol ก็คือการแปลงโฉมจากสิงห์ทะเลทรายกลายเป็นสิงห์ทะเลทรายที่ทันสมัย คุณภาพการขับขี่ ความสะดวกสบายและหรูหราอย่างกับซีดานหรูเลยทีเดียว ไม่ใช่เพียงแค่ลุยทะเลทรายได้แต่ยังสามารถยกสถานะผู้ขับขี่ได้อีกด้วย

การเปิดตัวเพื่อพลิกภาพลักษณ์ใหม่ของ Patrol โฉมใหม่ทำให้ทีมงานต้องเลือกใช้สโลแกนที่หวือหวาน่าดูชมคือ The Hero Comes Home การกลับมาของสิงห์ทะเลทรายที่ห่างหายไปถึง 10 ปี

 
 

เพื่อให้ Nissan Patrol รุ่นใหม่นี้สุดยอดสมกับการรอคอย Nissan จึงเสียเวลาพัฒนาจนถึงปั๊มรถโปรโตไทป์ทดสอบมากถึง 200 คัน เพื่อทดสอบในสนามทดสอบ Motegi,Oppama และ Tochigi หลังจากนั้นจึงจะส่งไปทดสอบอย่างหนักหน่วงที่ตะวันออกกลางในท้องถนนที่ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้งานกัน ได้แก่ ทะเลทราย,พื้นผิวหินขรุขระ,ถนนข้ามจังหวะและถนนในเมือง เพื่อให้ Patrol มีความมั่นคงและทนทานอย่างแท้จริง

การดีไซน์ตัวถังภายนอกทีมงานออกแบบยืนยันว่าไม่ต้องการให้เป็นรถที่มีแต่ความแข็งกระด้างเหมือนรุ่นที่แล้ว ซึ่งหลักการออกแบบเน้นความต้องการของลูกค้าในตะวันออกกลางมากที่สุดซึ่งพวกเขาต้องการรถที่ดูทันสมัย ไฮเทค ลดความโหดแข็งดุลง ที่สำคัญทีมงานต้องออกแบบให้มาท้าชน Toyota Land Cruiser โฉมล่าสุดได้ด้วย

 
 

ห้องโดยสารสำหรับ Nissan Patrol ใหม่นับเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญเพราะดูแล้วเมื่อเทียบกับตัวเก่าต้องยอมรับว่าตัวใหม่ดูสวยและไฮโซกว่ามาก ๆ ครับ วัสดุที่ประกอบภายในห้องโดยสารประกอบด้วยหนัง,,อลูมิเนียมด้าน และลายไม้ ดีไซน์ห้องโดยสารดูสวยไม่แพ้ซีดานรุ่นใหญ่เลย

 
 

ความสะดวกสบายก็ต้องเพิ่มขึ้นแน่นอน ทั้งสูงกว่า กว้างกว่า และยาวกว่า สำหรับห้องโดยสารแถวหน้า ส่วนผู้โดยสารแถวสองก็มีเนื้อที่วางขาเพิ่มขึ้น 100 มม. และห้องโดยสารตอนที่ 3

ใช่ว่าจะเป็นตัวลุยแล้วจะลุยกันท่าเดียว Nissan จึงติดตั้งจอ LCD สำหรับผู้โดยสารตอนที่ 2 ที่สามารถดูความบันเทิงกันได้ทั่วทั้งคัน

เครื่องยนต์ที่ติดตั้งใน Patrol ก็เป็นเครื่องใหม่ซึ่ง Nissan เคลมว่ามีสมรรถนะดีที่สุดในคลาสด้วยเครื่องรหัส VK50VD บล๊อก V8 5.6 ลิตร Direct Injection พร้อมวาล์วแปรผันยกระยะที่เรียกว่า VVEL 400 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 55.50 กิโลกรัมเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ สมรรถนะก็ดีเยี่ยมตั้งแต่ออกตัวจนเร่งความเร็วอย่างนุ่มนวล

 
 

การควบคุมการทรงตัวของตัวถังนั้น Nissan ก็บรรจุเทคโนโลยีที่ไฮเทคด้วยระบบ Hydraulic Body Motion Control System (HBMC) คอยรักษาให้ตัวถังขนานกับพื้นทันทีที่หักเลี้ยวรถหรือเลี้ยวเข้าโค้ง ขณะที่เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่บนถนนออนโรดหรือทางสมบุกสมบัน ซึ่ง Nissan ออกแบบให้ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนอิสระทั้ง 4 ล้อที่ออกแบบใหม่หมดจด

 
 

ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็ติดตั้งระบบ ALL Mode 4×4 รุ่นใหม่ที่สามารถกดปุ่มได้ตามสภาวะถนนที่เรากำลังเผชิญ ผสานการทำงานกับระบบช่วยขึ้นเขาและระบบช่วยลงเขา

 
 

การเปลี่ยนแปลง Nissan Patrol โฉมใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิม  ๆ ของตนเองที่หลายคนมักจะมองว่าเน้นลุยและบึกบึนเอามาก ๆ ไปสู่รถ SUV รุ่นเดอะที่ล้ำสมัยและยังมีความแข็งแกร่งตามเอกลักษณ์ของตนเอง เพียงแต่ลดความดุดันและโหดลงพอสมควร

ส่วนกำหนดการวางขายใน Press Release ไม่ระบุว่าจะจำหน่ายให้กับลูกค้าตะวันออกกลางช่วงไหน แต่คาดว่าคงเร็ว ๆ นี้ครับ