ตั้งแต่ คุณชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวแทนคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอได้ไปหารือและเยี่ยมชมโรงงานและศูนย์วิจัยทั้ง Honda เพื่อดูรถต้นแบบอีโคคาร์ Brio ก่อนวางจำหน่ายในไทยและ Nissan เพื่อดูโครงการรถไฟฟ้าและเจรจาต้าอ่วยเกี่ยวกับโครงการลงทุนในไทยอย่างลับ ๆ

จนกระทั่งวันนี้ Nissan เองก็เผยการสำคัญในอนาคตที่พวกเราไม่เคยคาดคิดมาก่อนนั่นก็คือความพยายามให้โครงการรถไฟฟ้ากำเนิดขึ้นในไทยให้ได้ถึงขั้นชูประเด็นให้เป็น Product Champion จากประเทศไทยตัวที่ 3 ต่อจากรถกระบะและอีโคคาร์

 

 

อันที่จริงคุณชัยวุฒิ ก็เคยพบปะผู้บริหาร BMW ในเดือนกรกฎาคม 2010 เพื่อหารือให้รัฐบาลสนับสนุนนโยบายการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานและมลภาวะในไทย BMW หวังลึก ๆ ว่าจะนำรถไฟฟ้าในตระกูล i-Series มาผลิตในไทยและจัดจำหน่ายในอาเซียนนั่นเอง

รวมไปถึง Mitsubishi ที่ผลักดันให้เกิดรถไฟฟ้าในเมืองไทยด้วยการขอความร่วมมือรัฐบาลทดสอบ Mitsubishi i-MIEV เกี่ยวกับความเหมาะสมในการใช้งานในเมืองไทย, การศึกษาวิจัยตลาด, ความเป็นไปได้ในการให้สิทธิประโยชน์แก่ผู้ใช้รถไฟฟ้า รวมไปถึงโครงการติดตั้งจุดชาร์จไฟอำนวยความสะดวก

วันนี้ (16 มีนาคม 2011) Nissan Motor ประเทศไทยเปิดเผยว่าตั้งแต่ประกาศแผนการปฏิรูปเปลี่ยนแปลง 2012 ให้แก่สื่อมวลชนภายในปี 2009 เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเท่าตัวภายในปี 2012 ขณะนี้ Nissan ดำเนินแผนงานเป็นไปตามที่วางไว้ ทั้งยอดขาย, ส่วนแบ่งการตลาด, ผลิตภัณฑ์, แผนงานดีลเลอร์และบริการหลังการขาย

 

 

ภายในปีงบประมาณ 2010 หรือสิ้นเดือนมีนาคม 2011 Nissan จะมียอดขาย 62,500 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 7.4% สูงขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 80% เพราะได้รับอานิสงค์ความสำเร็จ Nissan March รวมทั้งรถรุ่นอื่น ๆ

Nissan ตั้งเป้ายอดขายปีงบประมาณ 2011 ระหว่างเดือนเมษายน 2011-มีนาคม 2012 ที่ 76,500 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 9% โดยใช้กลยุทธ์การขาย การตลาดและสร้างภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ต่อเนื่อง นำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเน้นคุณภาพการผลิต

และนี่จึงเป็นที่มาของการเผยโฉม Nissan Leaf ครั้งแรกในประเทศไทยในงาน Bangkok International Motorshow 2011 นั่นเอง ถึงแม้จะยังไม่วางจำหน่ายในไทยทันที แต่ Nissan ก็เตรียมแผนประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและเตรียมงานเพื่อให้ลูกค้าทดสอบขับรถยนต์ไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรกด้วย

จุดประสงค์การนำ Nissan Leaf เข้ามาอวดโฉมในไทยคงมิใช่อวดเรือนร่างสร้างภาพลักษณ์ในไทยเล่น ๆ แต่มันยังถูกนำไปศึกษาและวิจัยตลาด เพื่อทดสอบว่าเหมาะสมต่อสภาพภูมิอากาศไทยเพียงใด Nissan เจรจากับภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมให้ความสนใจกับโครงการรถยนต์ไฟฟ้า 100% แล้ว

Mr.Toru Hasegawa ประธาน Nissan Motor ประเทศไทยกล่าวเพิ่มเติมว่า “Nissan ชี้ให้เห็นข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงความเป็นไปได้ในการใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อป้อนตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเป็นโอกาสของไทยในการสร้าง Product Champion หมายเลข  3 ต่อจากรถกระบะและอีโคคาร์ในอนาคต โดยเฉพาะโครงสร้างภาษีที่รัฐจะให้การสนับสนุน Nissan คาดหวังเพียงแค่ให้รัฐอุดหนุนเท่าเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียมีอัตรา 0% และยังศึกษาถึงสถานีหรือจุดชาร์จไฟฟ้าให้กับรถด้วย หากทุกอย่างขับเคลื่อนได้จริง คาดว่าราว 3-5 ปีนี้ โครงการรถยนต์ไฟฟ้าจะเกิดขึ้นในไทย

นอกจากนี้เขายังทิ้งท้ายด้วยบทสรุปเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 120 ปีว่า Nissan ประเทศไทยได้ส่งความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วนผลกระทบต่อการผลิต Nissan March เพื่อส่งออกไปยังญี่ปุ่นนั้นตอบไม่ได้ว่าจะส่งผลกระทบเพียงใด ซึ่ง Nissan March ใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยมากถึง 87%, อินเดีย 8% และญี่ปุ่น 5%

เท่าที่ทราบซับพายเออร์ในญี่ปุ่นประสบปัญหาจากภัยพิบัติ แต่ขณะนี้กำลังผลิต Nissan March ในไทยยังอยู่ในภาวะปกติจนถึงเดือนเมษายนนี้ แต่หากเลยจากนี้ไปต้องพิจารณาดูจากสถานการณ์แบบวันต่อวัน อย่างไรก็ตาม Nissan ไว้วางแผนสำรองไว้แก้ไขปัญหาตรงนี้แล้ว และเราจะเร่งผลิต Nissan March ที่มีแบกออเดอร์ในประเทศไทยอยู่ราว 9,000 คัน ให้เร็วขึ้นเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า