Opel Corsa รุ่นปัจจุบันเริ่มเปิดตัวเมื่อช่วงปี 2006 อันเป็นช่วงที่ Ford Fiesta โฉมปัจจุบันยังไม่เปิดตัวและถือเป็นรถที่
ช่วยยอดขาย, ชื่อเสียงและกำไรให้แก่ GM ยุโรปตลอดมาจนแทบจะกลายเป็นรถยนต์มหัศจรรย์ประจำ Opel กันไปเลย
เพราะอย่าลืมว่า Opel Corsa เป็นรถที่เก่าค่อนข้างมากแต่ก็สามารถทำยอดขายติดอันดับ 3 ในยุโรปมาอย่างยาวนาน
ชนิดตุ๊กแกยังต้องยอมแพ้

2014 07 09 Opel Corsa 1

แผนการเดิมของ GM ยุโรปคือพวกเขาจะต้องเปิดตัว All New Opel Corsa ภายในปี 2018 แต่กว่าจะถึงวันนั้นถ้าไม่ทำ
อะไรเลยพวกเขาก็คงจะต้องตกที่นั่งลำบากกันแน่นอน ดังนั้นในปีหน้าพวกเขาจึงต้องเปิดตัว Opel Corsa Big
Minorchange ออกมาฆ่าเวลากันก่อน

ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นด้านหน้าที่ได้แรงบันดาลใจจาก Opel Adam ซิตี้คาร์สุดฮิตที่กลับมา
พลิกชีวิต(และกำไร)ให้ Opel พอจะแข็งแรงขึ้นมาอีกครั้ง จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมมันถึงมีทรงไฟหน้าที่เฉี่ยวคมและ
มีตำแหน่งกระจังหน้าที่ต่ำเตี้ยขนาดนั้น

2014 07 09 Opel Corsa 2

นอกจากนี้ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนตัวถังหลายจุดมาก อาทิ การขึ้นลวดลายบนบานประตูรวมถึงดัดแปลงเส้นกรอบ
กระจกหน้าต่างให้แตกต่างมากขึ้นและงานนี้ก็ลงทุนเปลี่ยนแปลงบั้นท้ายให้รู้สึกว่ามันทันสมัยขึ้นซึ่งมันก็มาพร้อมกับ
สปอยเลอร์ท้ายในตัวด้วย

ไฮไลต์สำคัญคือการยกเครื่องภายในห้องโดยสารใหม่หมดจนไม่คิดว่านี่คือรุ่น Big Minorchange เพราะมันเปลี่ยนใน
ระดับ Modelchange กันเลยคือไม่มีชิ้นส่วนใดใช้ร่วมกับรุ่นเดิมได้เลย!! งานนี้ถึงขั้นลงทุนขึ้นโมลด์แผงแดชบอร์ดใหม่
หมดจดด้วยการนำแรงบันดาลใจในเส้นสายมาจาก Opel Adam แต่ปรับลุคให้ดูโตและเรียบร้อยมากขึ้น

2014 07 09 Opel Corsa 3 2014 07 09 Opel Corsa 4

เครื่องยนต์ที่มาประจำการ Opel Corsa Big Minorchange ก็จะเป็นเครื่องยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมด ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน
3 สูบ 1.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 90 แรงม้าและ 115 แรงม้า, เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 100 แรงม้า แรงบิด
200 นิวตันเมตร

ถ้าใครคิดว่ายังแรงเกินไปก็โปรดจงเลือกเครื่องยนต์เบนซินไร้ระบบอัดอากาศใด ๆ บล็อก 1.2 ลิตรและ 1.4 ลิตร และ
เครื่องดีเซล 1.3 ลิตร CDTi

2014 07 09 Opel Corsa 5

ใช่ว่าภายนอกสวยสดใสขึ้นแล้ว GM จะไม่แคร์เรื่องการขับขี่ พวกเขาลงทุนปรับปรุงโครงสร้างแชสซีส์ใหม่ให้มีการขับขี่ที่
เฉียบคมขึ้นซึ่งจะมาพร้อมกับพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับน้ำหนักตามความเร็วแบบใหม่และลดจุดศูนย์ถ่วงตัวถังลงอีก 50
มิลลิเมตร

ลูกค้าชาวยุโรปจะเตรียมสัมผัสรถคันจริงได้ในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน

เราเชื่อแล้วล่ะว่านี่คือความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ธรรมดาจริง ๆ

ที่มา : Worldcarfans