ปรากฎการณ์ของ Tata Nano โหมกระพือตั้งแต่เปิดตัวต้นปีที่แล้ว ในฐานะรถยนต์นั่งขนาด 4 ที่นั่งที่ราคาถูกที่สุดในโลกด้วยนวตกรรมการลดต้นทุนชนิดพลิกวิธีคิดการพัฒนารถยนต์ตั้งแต่ต้นแบบไม่เหมือนใคร รวมถึงการประท้วงชุมนุมของเจ้าของพื้นที่โรงงานใหม่ทำให้เป็นอุปสรรคพลาดโอกาสปั้นยอดขายไปหลายเดือน

เมื่อถึงเวลาเปิดรับจองเมื่อวันที่ 25 เมษายนจนถึงขณะนี้ ปรากฏว่าประชาชนแห่จองรถยนต์ที่ทุกคนซื้อหาได้มากถึง 206,703 ราย ในการเปิดให้จอง ลูกค้าสามารถเลือกได้ด้วยว่าหากไม่ได้รับเลือกเป็นเจ้าของรถนาโน 100,000 รายแรก แล้วจะยังคงวางเงินมัดจำไว้กับบริษัทฯ เพื่อรอรับรถต่อไปหรือไม่ ซึ่งร้อยละ 67 หรือ 137,867 รายตอบตกลง ในจำนวนนี้ 55,021 รายจะได้รับรถในล็อตถัดไป ส่วนผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกและไม่เลือกข้อเสนอดังกล่าวก็จะได้รับเงินมัดจำคืน

Tata เลือกใช้ระบบสุ่มผ่านฐานข้อมูลลูกค้าทั้งหมดคัดเลือกรายชื่อลูกค้า 1 แสนรายส่งมอบล๊อตแรกตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคมจนถึงสิ้นปีนี้จากโรงงานปันต์นาการ์ ขณะที่โรงงานใหม่ใหม่กำลังสร้างในเมืองซานันด์หากแล้วเสร็จกำลังผลิตทั้งหมดจะป้อนลูกค้าล๊อตใหม่ ๆ ได้ทันทีซึ่งก็ต้องรอกันสักระยะใหญ่

สิทธิพิเศษสำหรับผู้รับรถ 1 แสนคันแรกจะได้บัตรส่วนลดสำหรับผลิตภัณฑ์แบรนด์ไททัน (Titan) และห้างเวสต์ไซด์ (Westside) ในเครือทาทาทั่วประเทศอินเดียอีกด้วย

ส่วนลูกค้าที่ประสงค์วางเงินมัดจำไว้ต่อไป จำนวน 55,021 ราย จะเริ่มขึ้นหลังจากการส่งมอบรถ 100,000 คันแรก โดยทาทา มอเตอร์ส รับรองว่าผู้ที่วางเงินมัดจำไว้จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 8.75 ของเงินมัดจำ หากมีการส่งมอบรถภายใน 2 ปี นับจากวันที่ 23 มิถุนายน 2552 และจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 8.75 หากมีการส่งมอบรถหลังจากนั้น โดยบริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยให้กับลูกค้าที่วางเงินมัดจำโดยตรง

หากลูกค้าบางคนไม่พอใจที่จะรอคอย Tata มอบข้อเสนอการขายรุ่น Indica แบบพิเศษสุด  ๆ และยังมอบบัตรส่วนลดผลิตภัณฑ์แบรนด์ไททัน (Titan) และห้างเวสต์ไซด์ (Westside) ในเครือทาทาทั่วประเทศอินเดียอีกด้วยเช่นกัน

แค่นี้ยังสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าไม่หมด Tata ยังร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำมอบบริการสินเชื่อส่วนบุคคลดอกเบี้ยต่ำให้กับลูกค้าที่จอง Nano อีกด้วย

นี่คือวิธีพลิกโอกาสการสร้างแบรนด์ด้วยการสร้างความประทับใจให้ลูกค้าผ่านทรัพยากรของตนเองอย่างเฉลียวฉลาด และน่าจะเป็นต้นแบบให้บริษัทรถยนต์ในอินเดียและทั่วโลกต้องหันมาทำตามได้เพราะลูกค้าคือคนสำคัญที่สุด