ทิศทางรถยนต์ในอนาคต ปัจจุบันหลายค่ายพยายามมุ่งไปยังรถยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าเป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อน
แต่หลายค่ายยังคงติดอยู่กับการพัฒนาเทคโนโลยีขุมพลังไฟฟ้าที่ตนเองไม่ถนัดนัก ทำให้ไม่สามารถผลักดันให้
ตนเองมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกมาจำหน่ายได้จริง

alt

หากมองในสมรภูมิตลาดรถยนต์ทั่วโลก เห็นจะมีเพียง Tesla Motors ที่นำโด่งด้านการทำรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งสมรรถนะที่สูงเทียบชั้นรถยนต์สปอร์ต พร้อมเทคโนโลยีการชาร์จไฟความเร็วสูง อีกทั้งสามารถจำหน่ายในราคา
ที่คน(มีอันจะกินส่วนใหญ่)สามารถเอื้อมถึง

เหตุนี้เอง Elon Musk พ่อมดแห่งนวัตกรรมเพื่ออนาคต จึงตัดสินใจ แชร์เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าของตน
ให้ค่ายรถยนต์ใดก็ได้ หยิบไปใช้ได้เลย! (แต่ให้ใช้ด้วยความสุจริตเท่านั้น) โดย Musk กล่าวผ่านเว็บบล็อกของเขาว่า
เพราะเขาเห็นสถานการณ์ในปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้าค่อนข้างถูกจำกัดมาก ด้วยหลายค่ายรถยนต์ไม่ถนัดในการพัฒนานัก

สิ่งที่ Musk และ Tesla Motors เห็นตอนนี้ ไม่ใช่การห้ำหั่น แย่งส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียว แต่พวกเขา
อยากจะลดยอดจำหน่ายของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ทั่วๆไปมากกว่า ซึ่ง Musk เห็นว่าการแชร์เทคโนโลยีตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
น่าจะช่วยให้หลายๆค่ายหันมาทำรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างสบายใจ และช่วยส่งรถยนต์ไฟฟ้าราคาย่อมเยาออกมาจำหน่ายกันได้
ง่ายมากขึ้น

แน่นอนว่า หนึ่งในเทคโนโลยีที่บรรดาค่ายรถยนต์ใหญ่ๆจ้องกันตาเป็นมัน ได้แก่ เทคโนโลยีชาร์จไฟความเร็วสูง
หรือ Supercharger ที่ล่าสุด BMW ออกมายอมรับแล้วว่า หลังจากที่ Tesla ประกาศเปิดแชร์เทคโนโลยีรถไฟฟ้านั้น
BMW สนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเทคโนโลยีชาร์จไฟ เนื่องจากปัจจุบัน Tesla เองได้พัฒนาเทคโนโลยี Supercharger
ไปได้มากแล้ว อีกทั้งยังมีแผนติดตั้งสถานีชาร์จ Supercharger ทั่วอเมริกาในเร็วๆนี้ ทำให้ BMW ให้ความสนใจมาก
ซึ่งมีการกล่าวว่า BMW ไม่ใช่ค่ายรถยนต์เดียวที่สนใจเทคโนโลยีนี้ โดยยังมีค่ายอื่นๆที่สนใจไม่น้อย เช่นกัน

การเปิดแชร์เทคโนโลยีครั้งนี้ของ Tesla Motors เป็นเรื่องค่อนข้างผิดคาดและไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในวงการรถยนต์
และปฏิเสธไม่ได้ว่าน่าจะช่วยทำให้รถไฟฟ้าเป็นที่แพร่หลายกว่าเดิมมาก

ที่มา : The Verge