การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมเริ่มเข้มข้นมากยิ่งขึ้น เมื่อ Tesla Motors แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมะกัน ภายใต้
การนำของ Elon Musk เศรษฐีและนักธุรกิจวิสัยทัศน์ไกล เตรียมส่งรถยนต์ของตนไปทำตลาดในยุโรปอย่างจริงจัง โดยเริ่มจาก
ประเทศเยอรมนี บ้านเกิดของแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลกหลายยี่ห้อ

ในขณะนี้ Tesla Motors ได้วางแผนสร้างโชว์รูมจำนวน 6 แห่งในเยอรมนีด้วยกัน ประกอบไปด้วย เมือง Berlin, Frankfurt,
Dusseldorf, Hamburg รวมไปถึง Stuttgart บ้านเกิดของค่าย Mercedes-Benz และ Munich บ้านเกิดของ BMW อีกด้วย
และมีแผนขยายให้จำมีจำนวนมากกว่า 20 แห่งภายในสิ้นปีนี้

alt

งานนี้ Elon Musk ต้องการชนะใจผู้บริโภคชาวเยอรมนีให้เลือกใช้รถยนต์ของตนแทนรถยนต์สัญชาติเยอรมันให้ได้ จึงเป็นที่มา
ของการพยายามรุกคืบเข้าตลาดเยอรมนีกันก่อน อันเป็นช่วงเวลาที่บรรดาค่ายเยอรมันอย่าง BMW, Audi หรือ Mercedes-Benz
เตรียมส่งรถไฟฟ้าทำตลาด

ซึ่งในงานแสดงรถยนต์ Frankfurt Motor Show 2013 ที่กำลังจัดขึ้นในขณะนี้ ค่ายรถยนต์เยอรมนีต่างจัดเต็มอวดโฉมรถยนต์
ไฟฟ้าของตน ประกาศกร้าวถึงความพร้อมในการส่งทำตลาดทันที ไม่ว่าจะเป็น BMW i ทั้ง 2 รุ่น, Audi A3 e-tron รถยนต์ปลั๊กอิน
ไฮบริดจากเครือ Volkswagen AG ซึ่งนอกจาก A3 แล้ว ยังมีซูเปอร์คาร์พลังไฮบริดอย่าง Porsche 918 Spyder hybrid
เปิดตัวในงานนี้อีกด้วย ฟาก Mercedes-Benz ก็นำเอา SLS AMG Electric Drive มาโชว์ศักยภาพรถยนต์สปอร์ตพลังไฟฟ้า
พร้อมประกาศแผนนำเอา B-Class Electric มาทำตลาดในปีหน้านี้

การบุกตลาดยุโรปของ Tesla Motors ครั้งนี้ สร้างความสะเทือนให้แบรนด์เยอรมันต้องจับตามองไม่น้อย โดย Daimler AG
ต้นสังกัดของ Mercedes-Benz ได้ซื้อหุ้นของ Tesla Motors เป็นจำนวน 4% และเตรียมหยิบเอาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และ
มอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ใน B-Class Electric ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้

ในขณะที่ Volkswagen ได้ยอมรับผ่านคำสัมภาษณ์ของ Martin Winterkorn ประธานบริหารของค่าย ว่ามีการจัดซื้อ Tesla Model S
เป็นจำนวน 3 คัน เพื่อนำมาชำแหละ ศึกษางานวิศวกรรมด้านแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าอันเป็นเทคโนโลยีอันขึ้นชื่อของ Tesla
ซึ่ง Winterkorn ยอมรับว่า Model S เป็นรถยนต์ที่ถูกคิดค้นและพัฒนามาอย่างชาญฉลาดมากจริงๆ

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้รถยนต์ไฟฟ้าของทุกค่าย ต้องพิสูจน์ตนเองให้ผู้บริโภคเชื่อใจกันก่อนว่ารถยนต์ไฟฟ้า พร้อมแล้วสำหรับ
การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ลำบาก โดย BMW ได้เปิดตัวโปรแกรมให้ยืมรถยนต์เครื่องยนต์ปกติสำหรับผู้ใช้ BMW i
ที่ต้องการเดินทางไกล ในขณะที่ Tesla Motors เองได้ใช้แบตเตอรี่ลูกใหญ่พิเศษ เพื่อทำให้ Model S ที่ทำตลาดในเยอรมนี
สามารถเดินทางได้ไกลถึง 480 กม. จากการชาร์จไฟเต็มเพียงครั้งเดียว ซึ่งมากพอที่จะทำให้เดินทางจากเมือง Frankfurt ไปยัง
Munich ได้อย่างสบายๆ

งานนี้ต้องถือว่าหากค่ายไหนทำรถยนต์ไฟฟ้าได้ถูกใจผู้บริโภคกันก่อน ก็จะทำตลาดต่อไปได้อย่างไม่ลำบากอย่างแน่นอน ซึ่ง
ศึกรถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมี่ยมนี้ ต้องรอดูกันอีก 1-2 ปีครับ ว่าสุดท้ายแล้วค่ายรถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ หรือค่ายรถยนต์ชั้นนำ
ที่ตัดสินใจลงตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากันแน่ ที่จะทำรถยนต์ไฟฟ้าออกมาได้สมบูรณ์และได้รับการยอมรับในวงกว้าง

ที่มา : Automotive News