สนามแข่งรถสูตร 1 หรือ Formula One เคยรุ่งเรืองเป็นหน้าเป็นตาทั้งผู้จัดและผู้ร่วมลงแข่งซึ่งก็คือผู้ผลิตรถยนต์ที่ทุ่มงบพัฒนารถแข่งสูตร 1 อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ได้อานิสงค์ภาพลักษณ์ไปเต็ม ๆ ประมาณว่าฉันก็เป็น 1 ในผู้นำเทคโนโลยีสนามแข่งกับเขานะ (แต่โปรดอย่าดูอันดับเข้ารอบเลยครับ อาจจะหดหู่มากกว่าเดิม) ฉะนั้นรถบ้านที่ขับใช้งานประจำวันก็อาจจะมีเศษเสี้ยวใส่ให้ลูกค้าบ้างก็ได้

 
 

แต่เหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจหรือแฮมเบอร์ไครซิสที่ทำเอาสถาบันการเงินและบริษัทรถยนต์ระส่ำระส่ายกันถ้วนหน้า จนทำให้ต้องทบทวนแผนการในอนาคตเข้มงวดขึ้นอีกขั้น เข้มงวดเสียจนต้องรีดความคุ้มค่าจากเม็ดเงินทุกบาทให้มากที่สุด

การลงทุนกิจกรรมรถสูตร 1 ก็เช่นกัน บริษัทรถต่างทราบกันดีกว่าทุกกฏที่สมาพันธ์ FIA กำหนดอย่างเข้มงวดนั้นมันก็คือเงินลงทุนที่สูงตามข้อกำหนดไปด้วย เมื่อทบทวนผลลัพธ์ของการลงทุนกิจกรรมนี้พบว่าไม่คุ้มค่าแก่การสร้างแบรนด์เท่าไรเลย ทำนองว่าได้แต่กล่องแต่ไม่ได้เงินกลับ จึงไม่แปลกใจผู้ผลิตรถยักษ์ใหญ่ทั้งหลายขอโบกมือลาอย่างไม่เหลือเยื่อใย อันได้แก่ BMW และ Honda ที่ต้องรักชีวิตของตนเองมากกว่าการสร้างภาพลักษณ์ที่ดูเหมือนจะรู้ตนเองว่าการลงกิจกรรม F1 นั้นดูไร้ทิศทางเสียเหลือเกิน

ล่าสุด FIA ประกาศอย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 4 พฤศจิกายน 2009 ว่าผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของโลกอย่าง Toyota ก็ขอโบกมือลา F1 อย่างมิใยดีเช่นกัน นั่นก็เป็นสิ่งที่พวกเราประหลาดใจนักกับบริษัทรถยนต์ที่มีการจัดการดีที่สุดในโลก มีเงินถุงเงินถังมากที่สุดในโลกกลับลาสิกขากับ FIA ง่ายๆ  แบบนี้เพราะอะไรกัน?

เหตุผลก็เหมือนกับค่ายรถค่ายอื่นที่ขอถอนตัวนั่นก็คือ Toyota ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเงินมากขึ้นและขอใช้จ่ายเงินตามความเป็นจริงในภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ที่สำคัญ Toyota ไม่เคยประสบความสำเร็จในชัยชนะสนามแข่งเลยจับตั้งแต่ลงสนามปี 2002 ทำได้อันดับสูงสุดแค่อันดับ 5 ภายในฤดูกาลแข่งปีนี้เท่านั้น

อย่างไรก็ตามแม้จะประกาศถอนตัวแน่นอนแต่ Toyota ก็ยังดำเนินกิจกรรมรถแข่งสูตร 1 ต่อไปถึงปี 2012 ตามสัญญาที่ตกลงไว้กับ FIA

ผลกระทบจากการประกาศข่าวดังกล่าวทำให้สำนักข่าว BBC แห่งสหราชอาณาจักรรายงานข่าว Renault อาจจะพิจารณาออกจากการแข่งขัน F1 หรืออาจพิจารณาพัฒนาเฉพาะเครื่องยนต์เพื่อใส่ให้กับทีมอื่นก็เป็นได้ อาทิ ทีม RedBull Recing ซึ่งตัวเลือกนี้มีความเป็นไปได้สูงมาก

เหตุผลสำคัญที่ Renault ตัดสินใจเช่นนี้ก็เพราะว่า Renault ต้องการลดค่าใช้จ่ายอย่างหนักและเร่งรีบกลับมาทำกำไรให้ได้มากกว่านี้ครับ