ย้อนหลังไปเดือนมกราคม 2008 อันเป็นเวลาของ Toyota Corolla เจเนเรชั่นที่ 10 ที่สมัยนั้น Toyota อยู่ภายใต้การดูแลบริหารงานโดย มร.มิสึฮิโร โซโนดะ ที่จะต้องออกจากประเทศไทยก่อนเวลากำหนดเล็กน้อยโดยมีผลงานสุดท้ายก็การวางแผนเปิดตัว Toyota Camry Hybrid จนประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

 
 
 

ณ เวลาที่เปิดตัวนั้นมีคุณสมบัติและบุคลิคของรถยนต์ที่สะดุดและคับข้องใจอย่างมากคือ Toyota Corolla Altis โฉมใหม่มีรูปโฉมแบบสปอร์ต? ใช่ครับมีรูปโฉมแบบสปอร์ตออกมาจากปากในวันแถลงข่าว ทำให้ผมข้องใจว่า อืม ถ้า Corolla Altis ดูสปอร์ตและทันสมัยขึ้น ผมก็คงเห็นด้วยแต่นี่บอกว่ารูปโฉมสปอร์ตนี่ก็อาจทำให้ผมคาใจได้ไม่น้อย

 
 
 

อย่างไรก็ตามแม้กระแสการเปิดตัวตอนแรกจะไม่ค่อยดีนัก แต่ความนิยมของ Corolla ก็ยังคงอยู่เช่นเดิมเพียงแต่ว่าหากอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยันอัพเดทสินค้าถี่ ๆ ก็อาจจะโดน Honda Civic ทิ้งห่างไปก็ได้ เพื่อความไม่ประมาท Toyota จึงเปิดตัว Corolla Altis Sportivo TRD ซึ่งเคยประสบความสำเร็จมาแล้วกับรถในไลน์อัพ Toyota รุ่นอื่น ๆ

 
 

การเปิดตัว Sportivo TRD ในไลน์ Corolla Altis ก็น่าจะทำให้ Toyota พูดเต็มปากว่ารถรุ่นย่อยนี้ล่ะออกแบบเพื่อความสปอร์ตเต็มพิกัดเชียวล่ะ ซึ่ง Toyota ก็ใจดีเพิ่มรุ่นย่อยให้ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ 1,800 ซีซี และ 1,600 ซีซี แต่ช้าแต่รุ่นย่อยมีจำกัดเพียงแค่ 2,000 คันเท่านั้นครับ

 
 

ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่งรอบคัน สเกิร์ตกันชนหน้า ด้านข้าง กันชนหลัง และสปอยเลอร์หลัง ที่ถือว่าแต่งแล้วดูแตกต่างจากชุดแต่งตามท้องตลาดทั่วไปพอสมควรเลยนะครับ ในเมื่อแต่งชุดแต่งแล้วก็ต้องมี Nameplate “TRD Sportivo” ที่กระจังหน้าและฝาท้าย

 
 

โคมไฟหน้าตกแต่งแบบ Smoke Chrome โคมไฟท้าย LED แบบเลนส์ใส และปลายท่อไอเสียสเตนเลส พร้อมล้อแม็กซ์ TRD ขนาด 16 นิ้ว  สีเทาดำ พร้อมยางขนาด 205/55/R16

 
 

ภายในก็ให้ความรู้สึกสปอร์ตด้วย โทนสีดำทั้งเบาะนั่ง แผงประตู พวงมาลัย และหัวเกียร์หุ้มหนัง
พร้อมแผงคอนโซลหน้าสีเมทัลลิก พร้อมลายหินอ่อนสีดำ  

อุปกรณ์มาตรฐานก็ติดตั้งถุงลมนิรภัย SRS ฝั่งผู้ขับขี่และผู้โดยสารซึ่งติดตั้งเฉพาะรุ่น 1.8 เท่านั้น และ ABS+EBD+BA

 
 

Toyota Corolla Altis Sportivo TRD มีให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้นคือสีดำและสีขาว ในความเห็นของผม ผมว่ามันก็เพียงพอแล้วสำหรับการแต่งรถสวย ๆ คันหนึ่ง

 
 

ราคาจำหน่ายรุ่น 1.8 TRD Sportivo  894,000 บาท และรุ่น 1.6 TRD Sportivo  839,000 บาท ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรุ่นธรรมดาที่ออพชั่นเท่ากัน

 
 

ถ้าสนใจกันจริงคงต้องรีบกันหน่อย ซึ่งเราขอย้ำอีกทีว่าเวอร์ชันพิเศษของ Corolla ชุดนี้มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 2,000 คันเท่านั้นครับ