เมื่อวานผมเพิ่งนำรูปที่ผ่านการตกแต่งพร้อมเผยแพร่ของ Volvo C30 Minorchange ที่หลุดจากแหล่งไม่อ้างอิงว่าได้มาจากที่ไหน ทราบก็แค่เพียงนำมาจากเว็บไซต์แฟนคลับ Volvo ในเนเธอร์แลนด์แห่งหนึ่ง

คาดว่า Volvo เองก็คงทราบเช่นกันว่าภาพหลุดเหล่านี้มันหลุดก่อนเวลาอันควร วันนี้เลยจัดการเผยแพร่ข้อมูลเบื้องต้นและรูปภาพของ C30 Minorchange อย่างเป็นทางการเสียทีหลังจากให้รุ่นนี้ตะลุยกวาดเก็บลูกค้าวัยรุ่นนานถึง 3 ปีแล้ว

ดังนั้นจึงสรุปแล้วว่าในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ Volvo จะส่งรถรุ่นใหม่ 2 รุ่นได้แก่ C30 และ C70 Minorchange เท่านั้น ส่วน S60 Modelchange นั้นจากกำหนดการเดิมที่จะต้องเปิดตัวในงานนี้จำเป็นต้องเลื่อนเปิดตัวไปปีหน้าแทนอย่างน่าเสียดาย

ความเปลี่ยนแปลงของ C30 ที่เห็นได้ชัดคือเปลี่ยนธีมดีไซน์ด้านหน้าเสียใหม่ให้ดูสปอร์ตปราดเปรียวทันสมัยขึ้น ดูไม่แตกต่างจาก S60 Concept มากนักที่ดูเหมาะสมกับรถยุคใหม่ประจำทศวรรษหน้า ดูเผิน ๆ หน้าตาจคล้าย C70 มาก แต่หากเพ่งพินิจให้ดีพบว่าใช้ชิ้นส่วนตัวถังด้านหน้าร่วมกับ C70 เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่แตกต่างได้ชัดเจนคือกันชนหน้า C30 จะแบนและยื่นน้อยกว่า C70 ที่ดูแล้วให้อารมณ์เซ็กซี่มากกว่า

จุดแตกต่างที่สำคัญอีกจุดคือกระจังหน้า C30 มีลวดลายคล้ายรังผึ้งขนาดใหญ่ดูล้ำสมัยกว่ากระจังหน้าแบบเดิม ๆ มาก เรามาลองสำรวจด้านท้ายกันบ้างหากไม่สังเกตดี ๆ ก็คิดว่าคงไม่ได้ปรับปรุงอะไร แต่เราอยากให้เพ่งมองบริเวณกันชนหลังจะพบว่าแม้ทรงกันชนหลังจะคล้ายของเดิมแต่เอาเข้าจริง ๆ เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเยอะมากเพื่อผลด้าน Aerodynamic โดยเฉพาะ อาทิ ขอบสันกันชนหลังจะดูยื่นขึ้นเล็กน้อย แผงป้ายทะเบียนด้านหลังที่ลึกขึ้นกว่าเดิม ยกขอบสันกลางกันชนหลังให้ดูสปอร์ตขึ้น เปลี่ยนชายล่างกันชนให้มีลูกเล่นด้วยสคัปเพลตสีเงินพร้อมตกแต่งท่อไอเสียคู่แนวสปอร์ต

ส่วนความแตกต่างภายนอกอื่น ๆ ก็คงมีเพียงแค่เพิ่มสีตัวถังใหม่เอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ สีนี้มีชื่อว่า Orange Flame Metallic สีส้มเงาสะท้อนแสงดูแล้วคล้ายเปลวไฟชั้นในกำลังแผดเผาแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งสมรรถนะ หรือถ้าอยากสร้างความแตกต่างสามารถเลือกสีสคัฟเพลตชายล่างรอบคันตามใจคุณได้เลย

เมื่อภายนอกถูกปรับปรุงไปแล้ว ภายในก็ต้องอัพเดทให้ทันสมัยขึ้นตามเช่นกันด้วยการเพิ่มสีตกแต่งใหม่ Espresso/Blond จากการผสมสีของสีน้ำตาลเข้มและสีบลอนด์เข้าด้วยกัน ตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของรถขณะเดียวกันสามารถเปลี่ยนสีของลายผ้าหรือเบาะหนังตามใจตนเองได้ด้วย เช่น สีส้ม สีเขียว สีน้ำเงิน โดยไม่ขัดแย้งกับสีชิ้นส่วนภายในห้องโดยสารอื่น ๆ เลย

งานวิศวกรรมก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วยไล่ตั้งแต่การปรับจูนอัตราทดพวงมาลัยให้ต่ำลงทำให้ตอบสนองการบังคับเลี้ยวดีขึ้นถึง 10% เพิ่มความแข็งของสปริงไม่น้อยกว่า 30% ปรับการทำงานของแดมเปอร์ให้ทำงานเร็วขึ้น เปลี่ยนเหล็กกันโคลงใหม่ให้ทำมุมขณะเข้าโค้งได้ดีขึ้น ทั้งหมดทำให้การขับขี่มาในแนวสปอร์ตอย่างเต็มตัวยกเว้นรุ่นประหยัด 1.6 DRIVe ที่เน้นการใช้งานชีวิตประจำวัน

เครื่องยนต์ C30 ใหม่มีให้เลือกดังต่อไปนี้
เครื่องยนต์เบนซินมีให้เลือก 5 รุ่น
-รุ่น T5 ขนาด 2.5 ลิตร 230 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 8.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 203 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 2.4i 170 แรงม้า แรงบิด 230 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง  8.4 ลิตร100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย Co2   200 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 2.0  145 แรงม้า แรงบิด นิวตันเมตร อัคราสิ้นเปลือง  7.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2   177 กรัมต่อกิโลเมตร
-2.0F (Flexifuel) 145 แรงม้า  แรงบิด 185 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง  7.8 ลิตร 100 กิโลเมตร  ปล่อยค่าไอเสีย Co2   185 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 1.6  100 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง  7.0 ลิตรต่อ100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2  167 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์ดีเซลมีให้เลือก 4 รุ่นได้แก่
-รุ่น D5 (2.4 litres) 180 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง 6.2 ลิตรต่อ100 กิโลเมต  ปล่อยค่าไอเสีย CO2 164 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 2.0D    136 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง   5.7  ลิตรต่อ 100 กิเลมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2  151 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 1.6D DRIVe   109 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง   4.5 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2  119 กรัมต่อกิโลเมตร
-รุ่น 1.6D DRIVe ติดตั้งระบบ start/stop   109 แรงม้า แรงบิด 240 นิวตันเมตร อัตราสิ้นเปลือง   3.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO  104 กรัมต่อกิโลเมตร

 

กำหนดโชว์โฉมวันที่ 17 กันยายนนี้ภายในงานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์พร้อมกับ C70 รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่ ส่วนประเทศไทยคาดว่าจะนำเข้า C30 ใหม่หลังจากวางจำหน่ายในยุโรปไม่นานนักคาดว่าภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ ประจำปี 2010 คงได้ยลโฉมกันครับ