ด้วยความที่ BMW ทำธุรกิจในญี่ปุ่นจนสามารถสร้างรากฐานและแฟนคลับจนเหนียวแน่น ก็เลยทำให้ BMW กล้าเปิดตัว
รถรุ่นใหม่ในงาน Tokyo Motorshow 2015 โดยไม่ต้องสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมกันเลย อารมณ์คงประมาณว่า
BMW อยากเอาใจลูกค้าชาวญี่ปุ่นเต็มที่

2015_10_07_BMW_M4_GTS_1 2015_10_07_BMW_M4_GTS_2

รถรุ่นใหม่ที่จะมาอวดโฉมในงานคือ BMW M4 GTS หรือ BMW M4 ที่แรงขึ้นไปอีกขั้น จนกลายงานสร้างสรรค์เชิดหน้า
ชูตาที่ยกคุณค่าและความประทับใจขึ้นไปอีกขั้น มีเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมจนวิ่งรอบสนาม Nürburgring-Nordschleife
เพียง 7.28 นาที

BMW M4 GTS ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการกำเนิด M3 ครบรอบ 30 ปีและจะจำนวนจำกัดเพียง 700 คันเท่านั้น

2015_10_07_BMW_M4_GTS_3

ตัวรถถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างหนักหน่วง อันประกอบไปด้วย การติดตั้งสปลิตเตอร์ด้านหน้า, การ
ออกแบบฝากระโปรงหน้าใหม่และปีกท้ายที่สามารถปรับระดับได้ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์และฝากระโปรงท้ายก็ทำ
จากคาร์บอนไฟเบอร์ด้วย

นอกจากนี้ยังมีดิฟฟิวเซอร์คาร์บอนไฟเบอร์, ท่อไอเสียไทเทเนียมและล้ออัลลอยใหม่พร้อมยาง Michelin Pilot Sport
Cup 2, ไฟหน้า LED เต็มรูปแบบและไฟท้าย OLED ครั้งแรกในโลกที่ติดตั้งลงในรถยนต์ที่ขึ้นสายการผลิตจริง

2015_10_07_BMW_M4_GTS_4

ภายในห้องโดยสารไม่แตกต่างจาก BMW M4 ดั้งเดิม นอกเสียจากเจ้า M4 GTS จะมีพวงมาลัยหุ้มวัสดุ Alcantara รอบ
วงและเบาะ Bucket Seat ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์หุ้มด้วยวัสดุ Alcantara/Merino นอกจากนี้ยังมีการดัดแปลงแผง
คอนโซลให้มีน้ำหนักเบา, ถอดเบาะหลังออกแล้วแทนที่ด้วยโครงกั้นที่ทำจากพลาสติกใยแก้ว

การลดน้ำหนักตัวถังโดยรวมเช่นนี้ก็ทำให้ BMW M4 GTS มีน้ำหนักตัวเพียงแค่ 1,510 กิโลกรัมเท่านั้น ม้า 1 ตัวจะแบก
น้ำหนักแค่ 3 กิโลกรัม

2015_10_07_BMW_M4_GTS_5

ไฮไลต์สำคัญคือเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร TwinPower Turbo 6 สูบ ที่มีเทคโนโลยีหัวฉีดละอองน้ำเข้าห้องเผาไหม้จนทำให้มี
กำลังสูงสุด 500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 8.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอ
เสีย CO2 194 กรัมต่อกิโลเมตร ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 305
กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ช่วงล่างใช้คอยล์โอเวอร์ M แบบ 3 ทิศทางออกแบบพิเศษสำหรับ BMW M4 GTS พร้อมจานเบรกเซรามิกทนต่อความ
ร้อนสูงได้จนสามารถเอาไปซิ่งในสนามโดยไม่ต้องกังวล

หากใครอยากได้อยากมีก็ต้องรีบหน่อยเพราะผลิตแค่ 700 คันเท่านั้น

ที่มา : Worldcarfans