ถึงแม้ตัวผมเอง จะเติบโตมาในย่านเมืองเก่าละแวกวรจักร แม้นศรี ตลาดโบ๊เบ๊ แต่ความช่ำชอง
รู้จักร้านอร่อยในย่านเมืองเก่า อาณาบริเวณเขตป้อมปราบฯ ดุสิต พระนคร ก็ไม่ได้มีมากมายนัก
เพราะหลัง 10 ขวบเป็นต้นมา มีอันจำเป็นต้องย้ายโรงเรียนจากละแวกนั้น ข้ามฟากไปเรียนอยู่
แถวๆบางจาก พระโขนง ตามที่คุณผู้อ่านได้ติดตาม DR!VE THRU 2 ตอนที่ผ่านมา ซึ่งผมแนะนำ
ร้านก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว 2 ร้าน (เต็งใช้ฮวด และ ลูกชิ้นอนามัย)

เด็ก 10 ขวบ ที่ไหนมันจะสนใจว่าร้านไหนอร่อย 5 ดาว ร้านไหนได้มิชลินสตาร์ ร้านไหนอาหม่อม
ถนัดศรีจะมามอบโล่เชลล์ชวนชิมล่ะครับ สมัยเด็กๆนี่กินอะไรก็อร่อย ลิ้นยังไม่เรียนรู้ระดับสุนทรียะ
แห่งรสชาติอาหาร ขนมเค้กบ้านๆก้อนละ 2 บาท มีแต่แป้งราดสีผสมอาหารราคาถูก ก็อร่อยแล้วครับ
กว่าจะเรียนรู้ว่าอาหารรสชาติไม่เอาอ่าว กับ อาหารอร่อยนั้นเป็นอย่างไร ก็ปาเข้าไปช่วงวัยรุ่น
อายุเกือบ 15 ซึ่งก็นั่นล่ะฮะท่านผู้อ่าน ย้ายบ้านไปอาศัยอยู่แถวพระโขนง บางจาก ถึงได้แนะนำ
เต็งใช้ฮวด ลูกชิ้นอนามัย ไปก่อนหน้านั้นสองตอนไงเล่า

CTC_04

ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชา ที่กำลังจะเขียนถึงนี้ ต้องเรียกว่าเป็นความบังเอิญที่ได้รู้ว่าย่านบางกระบือ
สามเสน ใกล้บริษัทบุญรอด มีร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อร่อยๆตั้งอยู่ย่านนั้น เรื่องมันมีอยู่ว่าในช่วงที่ผม
เพิ่งเริ่มต้นจัดรายการวิทยุ บริษัทที่ทำงานอยู่ ย้ายห้องส่งสัญญาณจากตึกในทาวน์ อิน ทาวน์
ไปใช้ห้องส่งของสถานีวิทยุกองทัพบกยานเกราะ ซึ่งเป็นสถานีแม่ข่าย เหตุผลก็คือเป็นการลดต้นทุน
นั่นเอง เพราะ การส่งสัญญาณจากสถานีไปยังสตูดิโอ มีค่าใช้จ่ายดาวเทียมแพงเอาเรื่อง

เมื่อทีมงานทุกคนช่วยกันย้ายเครื่องมือจำเป็นสำหรับออกอากาศ เช่น เครื่องเล่นซีดี (สมัยนั้นยังไม่ได้
ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เล่นเพลงออกอากาศ) ตู้บรรจุแผ่นซีดี แผ่นเสียงบ้างนิดหน่อย(ตอนนั้นยุคแผ่นเสียง
เสื่อมถอย เอาไปร่อนเป็นจานบินเล่น ยังไม่มีใครเก็บเลยครับ เดี๋ยวนี้กลับเป็นของมีค่าน่าสะสม ราคาแพง)
และ กองเอกสารที่ต้องใช้ในห้องออกอากาศ หลังจากที่พวกเราเหนื่อยหอบจากการขนย้ายข้าวของ
เครื่องใช้ล้านแปด จัดเรียงทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเสร็จสรรพ ก็ได้เวลาหาข้าวกินกันเพราะท้องเริ่มร้อง
ส่งสัญญาณแล้วว่าหิวไส้กิ่วจวนจะตีลังกาม้วนเป็นเลขแปดแล้ว

แต่พอเดินออกมาหน้าสถานีที่มีรถถังคันโตๆจอดเป็นสัญลักษณ์ของคำว่า”ยานเกราะ” มองไปทางซ้าย
ก็กำแพง มองไปทางขวาก็กำแพง กำแพงยาวเหยียด ซ้ายเป็นกำแพงที่คล้ายว่าจะเป็นพื้นที่ของอาคาร
ที่พักอาศัยข้าราชการทหาร ฝั่งขวาเป็นกำแพงของอีกสถานีวิทยุอีกแห่ง ถ้าจำไม่ผิดจะเป็น สถานีวิทยุ
ขนส่งทหารบก ร้านอาหารตามสั่งประเภทเพิงหมาแหงนในสถานี ที่เราทำงานก็เก็บร้านกลับบ้านไปแล้ว
เรียบร้อย หิวไส้กิ่วขนาดนี้ มีใครพอจะบอกได้ไหมว่าควรจะไปหาอะไรกินตรงไหนของย่านนั้นดี ทันใดนั้น
พี่ที่เป็นเจ้าหน้าที่คอนโทรลเสียงของสถานี ถ้าจำไม่ผิดจะชื่อ พี่อู๋ แกบอกว่าเลี้ยวขวาถัดไปแยกแรก
เลี้ยวซ้ายอีกที จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่อร่อยๆอยู่ร้านหนึ่ง จากนั้นแกจัดแจง ขับแท็กซี่พาพวกเราไป
ในทันใด (อาชีพเสริมของแก นอกจากเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมเสียงที่สถานีวิทยุ)

CTC_01

อาการหิวลนลาน หลังจากเหนื่อยสาหัสมาตลอดวัน ทันทีที่เส้นใหญ่ในจานที่ผ่านการคั่วจนหอมฉุย
เตะจมูกทั้งสองรู นอกจากบรรเทาความหิวจนอยากขอบคุณพระเจ้าที่สร้างให้โลกนี้มีร้านอร่อยแล้ว
ยังอยากของคุณพี่อู๋ที่แกอุตส่าห์ขับแท็กซี่พามา มื้ออร่อยมื้อนั้นเหมือนเป็นรางวัลชีวิตหลังจาก
เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า จากการขนย้ายของมาตลอดทั้งวัน นอกจากเส้นใหญ่ที่หอมฉุยจากการคั่ว
ได้หอมจากกะทะแล้ว ไก่ชิ้นโตที่ดูทรงแล้วน่าจะเป็นส่วนของเนื้อสันในไก่ ชิ้นโตเรียวยาวหมัก
เครื่องเทศไม่ฉุนจนเกินไปแต่เข้าเนื้อ แทรกมาด้วยปลาหมึกกรอบชิ้นพอดีคำชนิดเดียวกับที่ใส่
ในเย็นตาโฟ และปลาท่องโก๋ทอดกรอบไซส์เอสห้าหกท่อน ส่วนประกอบเหล่านี้ถ้าไม่มี
มันจะเป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ได้อย่างไร

ระยะเวลาผ่านไปเกือบ 20 ปี หลังจากที่ผมจำต้องตกอยู่ในสภาพเข้าโครงการสมัครใจลาออก..
จากกันด้วยดีเพราะพิษเศรษฐกิจจากที่ทำงานบริษัทที่รับสัมปทานผลิตรายการวิทยุให้สถานี
วิทยุยานเกราะ ดำเนินชีวิตดิ้นรนทำมาหากินไปตามครรลองที่วิถีมนุษย์คนหนึ่งต้องก้าวต่อไปข้างหน้า
ผมไม่ได้ย่างกรายไปย่านสามเสน บางกระบือ อีกเลย แต่รสชาติอร่อยยังติดใจไม่เสื่อมคลาย
กลิ่นคั่วไก่ และ เส้นใหญ่จากกระทะอันหอมฉุย ผมยังจำได้ไม่เคยลืม จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เคย
มีโอกาสแวะไปกินอีกเลย

กระทั่งวันหนึ่งที่ต้องไปร่วมงานศพที่วัดในละแวกดังกล่าว ราวกับจิตสำนึกหรือต่อมอร่อย หรือ
จะเรียกต่อมตะกละก็ได้ ทำงานขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ราวทุ่มกว่าๆทันทีที่เสร็จจากงานศพ ผมรีบ
ดีดตัวออกจากวัด ขับรถเลี้ยวไปตามเส้นทางที่คุ้นเคย ตั้งใจอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่มุ่งมั่นราวกับ
เตรียมพิชิตยอดเขาเอฟเวอร์เรส จอดรถหน้าตึกแถวริมถนนอำนวยสงคราม จากนั้นเริ่มส่องไป
ที่ป้ายชื่อร้าน”ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชา” แต่เอ๊ะทำไมมืดๆ ไม่มีวี่แววว่าของร้านอาหารขายดีปรากฎ
ร่องรอยแม้แต่นิดเดียว ถ้าปิดร้านแล้ว อย่างน้อยก็น่าจะเห็นป้ายชื่อร้านอย่างชัดเจนไม่ใช่เหรอ
อย่าบอกนะว่า..เลิกกิจการ หรือ ย้ายร้านไปตั้งขายทำเลอื่น ทันใดนั้นหางตาเหลือบไปเห็นป้าย
เขียนว่า “ร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชา ปิดปรับปรุงเป็นระยะเวลา1เดือน”

อาคารตึกแถวที่กำลังอยู่ระหว่างซ่อมแซม ต่อเติม มีกองทรายสูงเท่าเอว เครื่องมือสำหรับงาน
ก่อสร้างบางส่วนนอนนิ่งสนิท เป็นเครื่องหมายบอกว่าถ้าอยากจะหวนกลับมากินของอร่อยร้านนี้
ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง รอไปอีกประมาณ 30วัน

CTC_03

ตึกแถวหน้าตาใหม่เอี่ยม ติดแอร์ โต๊ะนั่งทำจากวัสดุอย่างดี ไม่ใช่โต๊ะเหล็กราคาถูกเหมือนเดิมอีกต่อไป
พื้นร้านปูด้วยหินอ่อน หรือถ้าคุณมาถึงร้านในช่วงที่โต๊ะภายในร้านเต็มแน่น จงดอลลี่ช้าๆกระเถิบไปนั่ง
หน้าร้าน ซึ่งเขาจัดวางโต๊ะนั่งเรียงแถวยาวเหมือนโรงอาหาร ขนานไปกับฟุตบาธทางเท้าถนนอำนวยสงคราม

ถ้าคุณนั่งในร้านได้โปรดแหงนหน้ามองป้ายประกาศชิ้นหนึ่งซึ่งระบุว่า “กรุณาอย่าย้ายโต๊ะ หากคุณได้
หย่อนก้นลงยังเก้าอี้โต๊ะใดโต๊ะหนึ่งเรียบร้อยแล้ว เพราะอาจทำให้ได้รับอาหารช้า และ ทางร้านจะไม่ตาม
ถามด้วยว่าคุณย้ายมาจากโต๊ะใด” ส่วนวิธีการสั่งอาหารของร้านนี้ ไม่มีอะไรเป็นท่ายาก ขอเมนูอาหาร
ขนาดสองฝ่ามือคูณหนึ่งฝ่ามือ เมนูอาจจะดูเก่าไปสักนิด ราคาอาหารบางรายการมีการใช้สติ๊กเกอร์แปะทับ
เปลี่ยนราคาให้สูงตามค่าวัตถุดิบที่แพงขึ้น อยากจะกินอะไรก็จดใส่กระดาษที่ตัดจากสมุดฉีกเล่มละสิบบาท
เสร็จแล้วก็ยื่นให้ใครก็ได้ที่เดินไปมาทั่วร้าน ทั้งเสริ์ฟ รับออเดอร์ รับโทรศัพท์ เช็คบิล ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
จากเดิมที่เคยมีแค่ไก่เป็นพระเอกในฐานะโปรตีนประจำจาน บัดนี้มีโปรตีนจากทะเลเพิ่มเข้ามาเป็นทางเลือก
คือ กุ้ง ปลาหมึก และปลา

ราคามีตั้งแต่ธรรมดาของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ 60 บาท ไปจนถึงรวมมิตรโปรตีนชิ้นโตมหึมา ราคาจานละ 140บาท
ผมอยากจะเรียกก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชายุคนี้ว่า เป็นคั่วไก่บินลงทะเล หรือคั่วไก่ฟิวชั่น มันออกจะพิลึก
หลุดจากจารีตประเพณีเดิม แหกกรอบทรงมาตรฐานก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เราคุ้นเคยกันมายาวนาน ที่มีเพียง
เส้นใหญ่ อ่อ ร้านนี้เขามีเส้นหมี่กับวุ้นเส้นให้เลือกด้วยนะครับ เริ่มจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวปลานายใบ้เข้าไปทุกที
คือพอจะเข้าใจได้นะครับว่ายุคสมัยนี้ที่ผู้คนเบื่อง่าย อยากได้อะไรที่มากกว่าแค่ที่เห็นกันทุกวี่วัน อย่างร้าน
ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชา แกก็คั่วกันมาช้านานเกินกว่า 40 ปี หลังจากไปร่ำเรียนหัดวิชาคั่วไก่มากจากร้าน
เฮียเพ้ง แถวป้อมปราบฯ ซึ่งเคยเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เคยมีชื่อเสียงมาก่อน ก่อนจะมาเปิดร้านจนมี
ชื่อเสียงโด่งดัง ลูกค้าแน่น มีคิวออกร้านตามงานอีเว้นท์มารอยาวเหยียด

CTC_02

หลังจากไม่ได้กินมาเกือบ 20 ปี หลับมาหนนี้ ผมจัดการสั่งตัวท้อปทันที ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่รวมมิตร
ที่มีไก่ชิ้นโตที่ยังคงเป็นสันในไก่หมักเครื่อเงทศเข้าเนื้อเช่นเคย กุ้งตัวโตที่มีไข่เคลือบหัว-ตัว-และ หาง
คงติดมาจากกรรมวิธีการคั่วที่ตีไข่ลงไปทุกจานที่ปรุง ปลาหมึกวัยรุ่นมัธยมสาม ชิ้นหนาหนึบ
ส่วนตัวประกอบอดทนอื่นๆยังอยู่ครบตามสูตรก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ปลาหมึกกรอบที่ใส่ในเย็นตาโฟ
หั่นมาขนาดเท่านิ้วก้อย ปาท่องโก๋ตัวเล็กๆทอดกรอบห้าถึงหกท่อนโรยมาให้ไม่ขาดตกบกพร่อง
ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าใครที่หิวจัดๆแล้วมาถึงจะสั่งสองจาน กลัวว่าจะไม่ต่อเนื่อง เพราะ จานสอง
เกรงจะรอนาน ขอแนะนำว่าให้รอดูจานแรก มาวางตรงหน้าก่อน หากคุณจะสั่งคั่วไก่รวมมิตรนะครับ !!!!
เพราะทั้งชิ้นไก่ขนาดใหญ่ กุ้งตัวโต ปลาหมึกขนาดมหึมา บวกกับเส้นที่เป็นคาร์โบไฮเดรต พัวพัน
ควบแน่นในจานที่เสริ์ฟนั้น เยอะพอจะทำให้คุณอิ่มจนจุกได้เลย แต่ถ้าคุณคิดว่าจานเดียวเอาไม่อยู่แน่ๆ
ก็ส่งคั่วไก่ธรรมดามาเสริมก็พอ น่าจะพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

รสชาติที่กลมกล่อม ลงตัว เส้นที่หอมจากการคั่วกับกระทะยังคงไว้ไม่เปลี่ยนแปลง พวกโปรตีนประดา
มีทั้งหลาย ไก่ กุ้ง ปลาหมึก ปลา ดาหน้ามาเต็มจาน มองเผินๆด้วยตาเปล่าจะรู้สึกว่า โปรตีนเยอะกว่า
เส้นเสียอีก หลายคนที่มักราดซอสพริกมากมายเข้าไปทันที ก่อนที่จะคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่เข้าปาก
ขอแนะนำว่าอย่าราดเยอะครับ อีพวกซอสพริก ซอสมะเขือเทศ มันเป็นเครื่องปรุงทำลายรสชาติที่แท้จริง
ของวัตถุดิบที่ปรุงมาจากครัว มันจะไปกลบกลิ่นหอมของการคั่ว ที่มาจากกะทะก่อนจะตักลงจานมาเสริ์ฟ
ให้เรา เรื่องเครื่องปรุง พวกพริกร้านก๋วยเตี๋ยวนี่ตัวดีเลยครับ มันทำให้ลิ้นรับรสอาหารของเราผิดพี้ยน
ไปจากความจริงหลายองศา

banner_

จบจากก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่รวมมิตร (ไก่ แอนด์ เฟรนด์ส อันประกอบด้วยกุ้ง ปลาหมึก และ ปลา นี่แปลว่า
ไก่ได้ไปเจริญความสัมพันธ์ทางการทูตกับสัตว์ทะเลบางชนิด ก่อนจะหลอกพวกมันให้ตายใจ หลงกล
ลากให้มาตกอยู่ในกระทะคั่วใบเดียวกัน ฮา) ผมลองผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจากวัตถุดิบเดิมที่มีอยู่แล้วของร้าน
คือ สุกี้แห้งรวมมิตร มันเป็นไอเดียที่ร้านอาหารหลายร้านทำกันเป็นสูตรสำเร็จครับ ในเมื่อมีหมู ไก่ ปลาหมึก
กุ้ง อยู่แล้ว และ เชี่ยวชาญการปรุงประเภทผัด คั่ว อย่างก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ มีหรือที่การต่อยอดมาเป็นสุกี้แห้ง
จะเป็นไปไม่ได้ อีกอย่างคือ ใครมันจะมากินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ได้ทุกวัน มีเมนูอื่นเป็นทางเลือกบ้างแก้เบื่อ
ได้ชะงัด สุกี้แห้งรวมมิตรของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ชลธิชา นอกจากจะเป็นได้แค่ตัวประกอบทางเลือกสำหรับ
คนอยากกินผักเยอะๆแล้ว ไม่เลวร้ายสำหรับการปรุงสุกี้ในรูปแบบผัด แต่ก็ไม่เป็นเมนูที่อยากแนะนำให้สั่ง

นอกจากรสชาติจะเฉยๆแล้ว น้ำจิ้มซึ่งถือว่าเป็นจุดชี้ชะตาตัดเชือกความเป็นสุกี้ไม่ว่าจะน้ำ หรือ แห้ง
ถือว่าไม่ผ่านอย่างรุนแรง แอบสงสัยว่าเป็นน้ำจิ้มสุกี้สำเร็จรูปสักยี่ห้อ ที่มีขายทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เก็ต
รึเปล่า รสหวานนำโด่งไปถึงสี่แยกบางกระบือ จนผมต้องม้วนวุ้นเส้น ตักผัก ตักชิ้นเนื้อเข้าปากไปโดย
ปราศจากน้ำจิ้มสุกี้ที่ใส่ถ้วยมา อีกเมนูที่ไม่แนะนำคือ กระเพาะปลา วันนั้นไปกินกับฮูหยินที่บ้าน ฮูหยิน
ท่านจบจากจานเตี๋ยวคั่วไก่รวมมิตรแล้วไม่หนำใจ อยากกินอะไรอีกสักนิดหน่อย ผมเหลือบไปเห็นหม้อ
กระเพาะปลาตั้งตระหง่านอยู่หน้าร้าน เลยเสนอไปว่าลองสั่งสิ่ ฮูหยินแกกินไปสองคำแล้วชวนผม
ให้ลองชิมดูบ้าง ผิดหวังเป็นที่สุดจนอยากร้องออกมาเป็นเพลงของ Polycatว่า “……เราจะไม่พบกันใหม่
และ เราจะไม่พบกันอีก…”

CTC_05

เอาล่ะครับ อาหารคาวผ่านพ้นจนมาถึงคราวอาหารหวาน ทีเด็ดของร้านนี้นอกจากก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
ที่ผมเห็นการันตีจากป้ายประเภทจานเด็ดดารา แม่ชม้อยนางอำ ยังมีของหวานด้วยนะครับ นั่นคือ
เต้าทึง ต้องขออภัยจริงๆที่อร่อยจนลืมถ่ายรูปมาฝาก อยากให้นิยามเต้าทึงที่นี่ว่า ถึงเครื่อง ถึงใจ
เต้าทึงที่นี่เป็นเต้าคัพอีอย่างแท้จริง รากบัว พุทราจีน แป๊ะก้วย ถั่วแดง ลูกเดือย เครื่องเคราสมุนไพรจีน
อัดมาครบจบในถ้วยเดียว ราดรดด้วยน้ำลำไย มาท่วมน้ำแข็งเกล็ด เช็ดความคาวที่ติดในคอจากอาหารคาว
เมื่อสักครู่ได้เป็นอย่างดี ส่วนนมแดง แต่สีที่ปรากฏเป็นชมพูตามรูปนั้น รสหวานแสบคอเกินไป ใครกินหวาน
เป็นทุนเดิมอาจจะชอบ แต่สำหรับผมขอลาขาด

ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ชลธิชา ถนนอำนวยสงคราม ใกล้สี่แยกบางกระบือ ไม่ต้องเทียมเกวียนไปกินนะครับ
เตรียมตังค์ไปประมาณ 500 บาท ถ้าคุณไปกันสองคน เหมือนผมที่ไปกับฮูหยิน มื้อที่ผมไปลองนั้น
หมดไปสี่ร้อยกว่าบาท ความคุ้มค่าอยู่ตรงที่ผมได้กลับมาหวนคิดถึงความรู้สึกเก่าๆครั้งที่เริ่มทำงาน
จัดรายการวิทยุเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน พร้อมกับรสชาติอร่อยของก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่อร่อยที่สุดร้านหนึ่ง
เท่าที่เคยกินมา

 


 

เมธี เตชะชัยวงศ์