งาน Bangkok International Motor Show 2020 (BIMS ครั้งที่ 41)

ระยะเวลาการจัดงาน – ระหว่างวันที่ 15 – 26 กรกฎาคม 2563 (12 วัน)

เวลาเปิด/ปิดงาน

วันจันทร์ – ศุกร์: 12.00 น. – 22.00 น.
วันเสาร์ – อาทิตย์: 11.00 น. – 22.00 น.
วันหยุดนักขัตฤกษ์: 11.00 น. – 22.00 น

*โปรดเตรียมเวลาสำหรับการเข้าชมงานภายใต้มาตรการความปลอดภัยจาก COVID-19

  • โปรดใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในงาน
  • โปรดเตรียมสมาร์ทโฟนที่สามารถอ่านและสแกน QR Code เข้าเว็บไทยชนะ เนื่องจากต้องสแกน QR Code ก่อนเข้าบูธแต่ละยี่ห้อ ไม่ใช่แค่เพียงหน้างาน
  • พื้นที่ในแต่ละบูธ จะมีการจำกัดจำนวนคนต่อพื้นที่ โดยแต่ละบูธจะมีวิธีบริหารจัดการคิว

อย่างไรก็ตาม ในฐานะคนที่ไปงาน และเก็บภาพมา ผมคิดว่า ขั้นตอนต่างๆที่เพิ่มขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้ลำบากมากเท่าใด เรื่องการสแกน QR Code ก่อนเข้าบูธนั้น สำหรับท่านที่มีเป้าหมายในการดูชัดเจนว่าบูธไหนบ้างนั้น ก็ไม่ได้เสียเวลามากไปกว่าการเข้าร้านอาหารที่ท่านไปประจำ ซึ่งสมัยนี้ ทุกที่มีการสแกนเก็บข้อมูลเป็นปกติ

สิ่งที่คุณได้เป็นการตอบแทน และทำให้คุณควรมางานนี้คือการขายแบบเน้นๆ ลองคิดดูว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบหนัก หลายโชว์รูมแบกภาระต้นทุนสะสมมานานมาก เมื่อมีมหกรรมการขายขนาดใหญ่เกิดขึ้น และนับเป็นงานมอเตอร์โชว์ระดับสากลงานแรกที่มีการจัดขึ้นหลังจากเกิดวิกฤติ COVID ดังนั้นเกือบทุกค่ายย่อมทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อสร้างจำนวนยอดจองให้ได้มากที่สุด สำหรับคนที่ได้มาในงาน ลองศึกษาโปรโมชั่นและส่วนลดต่างๆให้ดี เพราะเชื่อว่าหลายเจ้า จะมีโปรโมชั่นหลังไมค์ลับเฉพาะส่วนตัวกัน เพราะถ้าไม่ขายรถเสียบ้างในวันนี้ วันหน้าจะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้ คนที่ได้ประโยชน์ก็คือผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อในวันนี้

สำหรับรายละเอียดการร่วมงานของค่ายรถยนต์ งานในปีนี้ ไม่มี Chevrolet ส่วนทาง Mercedes-Benz ประกาศก่อนหน้านี้ว่าไม่เข้าร่วมจัดในงาน

ASTON MARTIN

Aston Martin Bangkok : Heritage Motor Sales & Services (Thailand) ในเครือ MGC Asia : Master Group Corporation นำรถ Aston Martin มาอวดโฉม โดยมีไฮไลท์สำคัญเป็น “SUV รุ่นแรกของ Aston” อย่างเจ้า DBX ซึ่งใช้เครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตรเทอร์โบคู่ที่ให้กำลังรวม 550 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700Nm ตัวถังมีน้ำหนัก 2,245 กิโลกรัม ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 291 กม./ชม. ราคาเริ่มต้นที่ทาง MGC Asia ตั้งเอาไว้อยู่ที่ 19,900,000 บาท

ถือว่าเป็นรถที่ Aston Martin คาดหวังในการทำยอดเอาไว้มาก เพราะตลาดโลกในปัจจุบันนั้น หันความสนใจไปทางรถ SUV และโจทย์หินที่สุดของบริษัทที่สร้างซูเปอร์คาร์เมื่อต้องมาทำ SUV ก็คือ การทำอย่างไรให้รถใหม่ของพวกเขาไม่เสียเอกลักษณ์แบบที่พบในรถสปอร์ตของทางค่าย ถ้าใครเดินผ่าน ผมแนะนำ ให้ลองเดินอ้อมไปดูด้านท้ายของ DBX ครับ เพราะเล่นทรงตูดเป็ดโค้งยักขึ้น สวยไม่สวยไม่รู้ แต่ SUV เกือบจะทั้งหมด ไม่มีใครกล้าออกแบบท้ายทรงนี้

AUDI

เดินวกเข้าบูธ 4 ห่วง ที่ตอนแรกมาใหม่เมื่อ 3 ปีก่อนก็ดูน่าจะเป็นห่วง แต่ตอนนี้ทุกอย่างดูลงตัวขึ้น นอกจากจะประกาศเพิ่มโชว์รูมอีกสองแห่งคือ Audi ราชพฤกษ์ และ Audi อุดรธานีแล้ว ยังใจดีสู้เสือเล่นกับวิกฤติ สวนกระแสด้วยการเปิดตัวรถสมรรถนะสูงตระกูล RS ซึ่งมีศักดิ์ศรีและแนวทางเทียบชั้นเท่ากับ AMG ของ Mercedes-Benz และ M Division ของ BMW โดยจะนำรุ่น TT RS, RS4 Avant และ RS Q8 เข้ามาชิมลางก่อน

สำหรับในงานนี้ ท่านจะได้พบกับ Audi TT RS รถคูเป้ขนาดตัวเท่ารถเล็กๆ แต่พกพลัง 400 แรงม้า จากเครื่องยนต์ 5 สูบเทอร์โบในตำนานที่ Audi คิดค้น พัฒนา และนำมาซ่าตั้งแต่ยุค 80s ใน Audi Quattro Coupe Original เมื่อบวกพลังแบบรถใหญ่ เข้ากับบอดี้เล็ก และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ TT RS สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาแค่ 3.7 วินาที ซึ่งในเมืองนอก ลูกค้าตัวจริงหลายคนทำเวลาที่เคลมเสียอีก TT RS นั้น มีความน่าเล่นตรงที่ มันจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณได้เป็นเจ้าของรถ Audi ป้ายแดงที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 5 สูบในตำนาน เพราะหลังจากหมดเจนเนอเรชั่นนี้ TT ก็จะเลิกทำตลาด หรือกลายเป็นรถยนต์ EV ไป ในขณะที่ RS3 ที่ใช้เครื่องบล็อคเดียวกัน ก็มีแนวโน้มจะหันไปใช้เครื่อง 4 สูบเทอร์โบในเจนเนอเรชั่นหลัง

แต่ถ้าถามว่าโมเดล RS รุ่นไหนขายดีสุด..ท่านผู้บริหารยิ้มเล็กๆก่อนตอบว่า “RS4 ครับ เหมือนคนจะรอตัวนี้เยอะ กระแสตอบรับดีโคตร”

นอกจากนี้ รถตระกูล A5 โดยเฉพาะรุ่น Sportback 40TFSI 190 แรงม้า ราคา 2,699,000 บาท ก็มีลูกค้าสั่งจองเข้ามาเยอะ ด้วยความเป็นรถ 4 ประตูหลังคาเตี้ยลาดรุ่นเดียวในเซกเมนต์นี้ และมีราคาในระดับที่พอแข่งกับรถประกอบในประเทศของคู่แข่งได้

โปรโมชั่นในงาน

เลือกระหว่าง ดาวน์ 0 บาท หรือ โปรแกรมผ่อนสบายๆ ดอกเบี้ย 0% นาน 7 ปี ***ไม่มีบอลลูน อาทิ A1,   A4 Avant, A8 L, Q2, Q5, Q8, TT Coupé, TT Roadster และ TTS, โปรแกรมผ่อนสบายๆ 0% สูงสุดนาน 5 ปี ***ไม่มีบอลลูน อาทิ Q3, Q7, A6 Avant 45 และ A7

BMW/MINI

เด่นอยู่กลางบูธด้านใน คือ BMW M8 Competition รถคูเป้พลังสูง 625 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V8 4.4 ลิตรทวินเทอร์โบ พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive เวอร์ชั่นของ M Division ที่พัฒนามาเน้นการขับขี่ที่ได้ทั้งแบบเน้นเกาะหรือเน้นสนุก นี่คือหนึ่งในรถที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ด้วยค่าตัวรวม BSI Standard อยู่ที่ 17,999,000 บาท อาจจะฟังดูแพง แต่เอาเข้าจริง จะมีรถอะไรอีกหรือที่ได้ 625 แรงม้า ได้ของเล่นท่วมคัน เป็นรถแบรนด์ยุโรป แล้วจำหน่ายราคาถูกกว่านี้ ผมนึกไม่ออกครับ

ส่วนรถรุ่นที่ถือว่าเป็น New Release จริงจังสำหรับงานนี้ ก็คือ BMW X3 xDrive30e M Sport ที่เปลี่ยนจากเครื่องยนต์ดีเซลในรุ่น 20d เป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ บวกมอเตอร์ไฟฟ้า แบบเดียวกับ BMW 330e M Sport และมีพลัง 292 แรงม้าเท่ากัน ความเด็ดอยู่ที่การวางราคาไว้ 3,659,000 บาท ซึ่งเท่ากับรุ่น xDrive20d M Sport ทว่าอัดออพชั่นมาให้มากกว่า เช่นระบบ Lane Departure Warning และระบบเบรกอัตโนมัติ เพิ่มล้ออัลลอยเป็นขนาด 20 นิ้ว และยังเอาเครื่องเสียง Harman Kardon และไฟหน้า Adaptive LED (ที่เคยมีสมัย 20d M Sport เป็นรถนำเข้า) กลับมาให้อีกครั้ง

สำหรับคนที่นิยมแต่ดีเซลและปฏิเสธพลังถ่าน ขอเชิญไปหา X5 xDrive30d เวอร์ชั่น CKD ซึ่งเมื่อก่อนสมัยนำเข้าเคยราคา 5,699,000 พอประกอบในประเทศ ก็ลดลงมาเหลือ 4,699,000 บาท อุปกรณ์หายไปหลายตัวเหมือนกัน เช่นล้ออัลลอย ลดขนาดจาก 22 เหลือ 20 นิ้ว ตัดเครื่องเสียง Harman Kardon, จอ HUD และกล้อง 360 องศาออกไปด้วย ถ้าเทียบกับรุ่น xDrive45e ที่แพงกว่าอยู่ 300,000 บาทนั้น นอกจากอุปกรณ์ปลีกย่อยแล้ว ช่วงล่างก็ต่างกัน ของ xDrive30d จะเป็นแบบสปริงกับโช้คอัพ Adaptive แต่ xDrive45e จะเป็นช่วงล่างถุงลม

ท้ายสุดนี้ สำหรับคนที่ต้องการขับ BMW แต่ไม่อยากจ่ายหลายๆล้าน ช่วงนี้ 320d GT Sport กำลังโละสต็อคอย่างเมามันส์ ถึงแม้จะมีพื้นฐานจาก 320d F30 แต่ตัวรถสูงกว่า เนื้อที่เบาะหลังกว้างนั่งสบาย เหมาะเป็นรถครอบครัว ในราคา 2,299,000 บาท ถ้าคุยกับเซลส์หลังไมค์ดีๆราคาอาจจะจบที่แพงกว่า Camry ไม่กี่แสน รถอาจจะขายมานานมากแล้ว แต่ประสิทธิภาพและการใช้งานเทียบกับราคา ถือว่าเป็น Sensible Buy

โปรโมชั่น BMW

ลูกค้า BMW ที่จองรถยนต์พร้อมโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Ultimate Package ระหว่างงานและรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 จะได้รับสิทธิประโยชน์* ดังนี้

  • ขยายเวลาโปรแกรมบำรุงรักษา BSI เป็น 6 ปี/120,000 กม.
  • รับประกันไม่จำกัดระยะทาง 6 ปี
  • สมาชิกบริการ BMW Mobility Services 6 ปี
  • รถ Plug-in ทุกรุ่น ได้ BMW i Wallbox พร้อมบริการติดตั้งฟรี

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นปลีกย่อย อาทิ

  • BMW X1 ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 16,999 บาท
  • 320d และ 330e ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 19,999 บาท
  • ลูกค้าเก่า BMW สามารถออก 520d และ 530e ใหม่ได้แคมเปญดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 5 ปี

ทางฝั่ง MINI ที่บูธอยู่ติดกันกับ BMW นั้น ข้างในบูธ มีการนำ MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้า 100% ขุมพลังมอเตอร์ 184 แรงม้า ชาร์จไฟเต็ม วิ่งทำระยะได้ 217 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC รถรุ่นนี้ เปิดตัวแบบฤกษ์งามยามดีชวนสละโสดสุดๆ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เวลา 14.14 น. โดยตั้งราคาเอาไว้ 2,290,000 บาทเท่านั้น! ถูกกว่า Cooper S อยู่หลายแสน ทว่าประเทศไทยได้รับโควต้ามาเพียง 25 คัน และรถทั้งหมดที่ว่านั่นก็ถูกจองหมดไปภายใน 1 นาทีหลังเปิดขาย พวกเราส่วนมากเสียดาย แต่เชื่อว่าคนที่เสียดายส่วนมากก็เหมือนผม คือมีเงินไม่พอซื้ออยู่ดี

ดังนั้น อกหักจาก SE ก็มาดู MINI Cooper Rosewood Edition สีกุหลาบชมพูส้มกันดีกว่า รุ่นนี้คันจริงดูสวยมาก ชื่อโทนสีตามแคตตาล็อกของ MINI จริงๆจะเรียกว่าสีแดง Indian Summer Red ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็น Indian ในอเมริกาหรือ Indian ที่อยู่ข้างๆศรีลังกา แต่มันจะเหมือนสีลิปสติกพรีเมียมโทนเน้นธรรมชาติแบบที่พวกผู้หญิงชอบใช้เวลาต้องการดูหน้าเด็ก ส่วนตัวรถนั้นมีพื้นฐานเป็น MINI Cooper S ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 192 แรงม้า ช่วงล่างแบบ Adaptive รถรุ่นนี้จะมาขายเป็นจำนวนจำกัดเพียงแค่ 30 คันเท่านั้น โดยรุ่น 3 ประตู จะมีราคา 2,850,000 บาท และรุ่น 5 ประตู ราคา 2,890,000 บาท

สำหรับสาย MINI แนวไฮโซ แนะนำ MINI Convertible Sidewalk Edition ราคา 3,060,000 บาท ใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Rosewood Edition แต่นี่มาเป็นรถแบบเปิดหลังคา 2 ประตู สีฟ้า Deep Laguna ตัดกับหลังคาสี Anthracite

โปรโมชั่นของ MINI

สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้

  • การยกระดับ MSI Standard เป็น 7 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร สำหรับ John Cooper Works ทุกรุ่น
  • สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มินิทุกรุ่น ยกเว้น MINI Cooper S Countryman Entry, JCW GP และ Cooper SE รับฟรี MINI Advanced Car Eye ระบบกล้องติดรถยนต์คุณภาพสูง มูลค่า 25,700 บาท*

FORD

งานนี้ยังไม่มีรถใหม่ แต่พยายามดันแคมเปญสร้างความมั่นใจ โดยการรับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังนานถึง 10 ปี หรือ 150,000 กม. สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถ Ranger, Ranger Raptor และ Everest รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 30 กันยายน ซึ่งครอบคลุมชิ้นส่วนต่างๆ ภายใต้ กลุ่มเครื่องยนต์ กลุ่มส่งกำลัง และ กลุ่มเพลาขับ รวม 157 กลุ่มอะไหล่ ตามรายละเอียดที่กำหนดในเงื่อนไข ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.ford.co.th/owner/DrivelineCareProgram/

เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเจ้าของรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ปัจจุบัน กับแคมเปญส่งเสริมการขาย เพื่อนแนะนำเพื่อน (Referral Campaign) โดยลูกค้าที่แนะนำเพื่อนมาจองและออกรถ Ranger เฉพาะรุ่น Raptor ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 30 กันยายน 2563 สามารถเลือกรับโปรแกรมขยายเวลารับประกันเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังจากที่มีอยู่เดิมเป็น 10 ปี หรือ 150,000 กม. หรือ บัตรกำนัลเพื่อเข้ารับบริการ(Service Voucher) มูลค่า 15,000 บาท ส่วนเพื่อนที่ลูกค้าเจ้าของรถฟอร์ด Ranger Raptor ที่ได้รับการแนะนำ จะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท เพิ่มเติมจากแคมเปญปกติ

 

โปรโมชั่นในงาน จาก Ford

  • Everest ทุกรุ่น : อัตราดอกเบี้ย 0 % ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • Ranger Raptor : ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Ford Ensure
  • Ranger Wildtrak : อัตราดอกเบี้ย 0% ดาวน์ 30% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • Ranger Limited : อัตราดอกเบี้ย 99% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง
  • Ranger XLT : ราคาพิเศษเพียง 759,000 บาท ผ่อนชำระเพียงเดือนละ 8,369 บาท

HONDA

บูธ Honda ในปีนี้ มาในแนวคิด Modern Minimal ที่ได้ปรับลดโครงสร้างให้น้อยลง เพื่อจัดสรรพื้นที่ให้เปิดกว้างขึ้น โปร่งโล่ง ลดความแออัดด้วยการกำหนดระยะห่างอย่างเหมาะสม พร้อมด้วยมาตรการดูแลสุขอนามัยและความสะอาดที่เข้มข้นตามหลัก Social Distancing ซึ่งก็ดีที่บอกแบบนี้ เพราะถ้าไม่บอกจะนึกว่าสร้างบูธไม่ทันงานหรือเปล่า พื้นที่จึงโล้งโจ้งไม่มีอะไรเลย แต่มองในอีกแง่หนึ่ง มันก็ทำให้คุณสามารถเดินดูรถได้สบายขึ้น ถ่ายรูปง่ายขึ้น ยิ่งมีการจำกัดปริมาณคนเข้าในพื้นที่ต่อตารางเมตร คนที่เดินชมรถก็สบายขึ้น นอกจากนี้ ถ้าใครไม่อยากมา Honda เขาก็จัดโชว์รูมแบบ Virtual 360 องศาไว้ให้ดูที่ www.honda.co.th/autoshow และสามารถติดต่อพูดคุยกับที่ปรึกษาการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า

สำหรับรถใหม่ในงานนี้ ก็คือ Honda CR-V Minorchange ใหม่ ซึ่งนอกจากจะมีรุ่นสีน้ำเงิน Cosmic Metallic ที่ดูสุขุมภูมิฐานแต่ไม่แก่จนบ้านบางแคเรียกหา ในรุ่นท้อปๆ ยังมีอุปกรณ์เพิ่มเติมจากตัวก่อน อาทิ หลังคาซันรูฟไฟฟ้าแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) พร้อมระบบเปิด-ปิดแบบ One-Touch ไฟเลี้ยวด้านหน้าแบบ LED Sequential ที่เปิดไฟเลี้ยวแล้วจะติดไล่ทีละดวงอย่างรวดเร็ว เหมือนไฟเลี้ยวของ Audi หรือ Lexus ซึ่งหวังว่าจะช่วยให้ลูกค้าอยากใช้ไฟเลี้ยวบ่อยขึ้นเพื่อความเท่ห์ และแน่นอน ของที่หลายคนถามถึงอย่างระบบความปลอดภัย Honda Sensing ก็ให้มาเสียที หลังจากที่ Civic กับ Accord ได้ใช้มานานแล้ว

สำหรับรุ่นย่อยต่างๆนั้น ยังเกือบเหมือนเดิม เว้นเพียงแต่รุ่นดีเซล จะเหลือเพียง 1 รุ่นย่อย ยกเลิกการทำตลาดรุ่น 1.6 ดีเซลขับเคลื่อนล้อหน้าไป ทำให้เหลือ 5 รุ่นดังนี้

  • รุ่น DT-EL 4WD 7 ที่นั่ง  ราคา 1,759,000 บาท
  • รุ่น 2.4 EL 4WD 7 ที่นั่ง ราคา 1,579,000 บาท
  • รุ่น 2.4 E  7 ที่นั่ง ราคา 1,419,000 บาท
  • รุ่น 2.4 ES 4WD 5 ที่นั่ง ราคา 1,529,000 บาท
  • รุ่น 2.4 S 5 ที่นั่ง ราคา 1,369,000 บาท

โปรโมชั่นของ Honda

โปรโมชั่นมีผลตั้งแต่ 1 กรกฏาคม 2563 – 31 กรกฏาคม 2563 ขอคัดเลือกมาให้ดูบางรุ่นเนื่องจากยาว

  • Honda City ใหม่ รับดอกเบี้ย 2.89% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 2,000 บาท นาน 12 เดือน หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนสบายเริ่มต้นเดือนละ 5,500 บาท หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 2.29%
  • Honda Jazz รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ดาวน์ 0 บาท หรือ ผ่อนเริ่มต้น 5,000 บาท หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 1,500 บาท นาน 12 เดือน ทุกข้อเสนอมาพร้อมฟรีประกันภัย
    1 ปี และฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์Honda Ultimate Careพร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
  • Honda BR-V รับดอกเบี้ยพิเศษ 0.59% หรือเลือกรับดอกเบี้ย 1.99% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 3,000 บาท
    นาน 12 เดือน ฟรีประกันภัย 1 ปี หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 6,000 บาท ฟรีประกันภัย 1 ปี รับฟรีจักรยานพับโมดูโล (Modulo Foldable Bicycle) มูลค่า 7,990 บาท อีกทั้งรับเครื่องฟอกอากาศยับยั้งเชื้อโรคในรถยนต์ Sharp Plasmacluster Ion Generator Limited Edition รุ่น IG-GC2B-BH มูลค่า 4,990 บาท
  • Honda Civic 4 ประตู รับดอกเบี้ย 1.99% หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ดาวน์ 0 บาท ผ่อนเริ่มต้น 9,900 บาท ทุกข้อเสนอ
    มาพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมทแคร์ (Honda Ultimate Care) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) และบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท
  • Honda Civic Hatchback  รับดอกเบี้ย 2.29% หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ดาวน์ 0 บาท ผ่อนเริ่มต้น 13,000 บาท
  • Honda HR-V รับดอกเบี้ยพิเศษ 0% หรือ เลือกรับดอกเบี้ย 2.29% พร้อมฮอนด้าช่วยผ่อนเดือนละ 2,500 บาท
    นาน 12 เดือน ฟรีประกันภัย 1 ปี หรือ เลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ดาวน์ 0 บาท ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 10,000 บาท ฟรีประกันภัย 1 ปี ฟรีโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) พร้อมด้วยบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง
  • Honda CR-V รับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% หรือเลือกรับข้อเสนอ “Double Smile” ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 18,000 บาท ทุกข้อเสนอมาพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

HYUNDAI

โปรโมชั่นในงาน

  • รับส่วนลดเพิ่มทันที 20,000 บาท เมื่อซื้อ Hyundai รุ่นใดก็ได้
  • H-1 และ Grand Starex ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี เลือกผ่อนดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน หรือขับฟรี 90 วัน ดาวน์เริ่มต้นที่ 10% ผ่อนนาน 84 เดือน ฟรีเช็คระยะ 5 ปีพร้อมบัตรน้ำมันมูลค่า 50,000 บาท
  • รถยนต์ไฟฟ้า Ioniq และ Kona ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และแท่นชาร์จแบบ Wallbox

ISUZU

นอกจากจะมีธีมโชว์กระบะซิ่ง 2 คันในงานแล้ว แน่นอนว่ารถใหม่ที่สุดของทางค่ายก็ยังคงเป็น D-Max โฉมใหม่ สำหรับคนที่ถามเข้ามาเรื่อง Isuzu MU-X นั้น ขอบอกเลยว่ายังไม่ต้องรีบลุ้นมางานนี้ เพราะโมเดลใหม่นั้นยังทดสอบแบบหลบสายตาประชาชนอยู่ แม้ว่าเราจะยังไม่ทราบกำหนดแน่ชัดในการเปิดตัว (ซึ่งปกติทุกคนก็จะทราบแค่เดือนเดียวก่อนวันเปิดตัวจริงนั่นแหละ เพราะค่ายนี้เขาเก็บความลับเก่งที่สุด) แต่ถ้าสังเกตจากเจนเนอเรชั่นก่อนๆ MU-X มักจะเปิดตัวหลังจากที่ D-Max ลงขายจริงไปประมาณ 8-12 เดือน ก็ลองรอดูกันครับ

โปรโมชั่นของ Isuzu ในงาน

  • เสนอแคมเปญ “โปรจัดหนัก อีซูซุ จัดเต็ม” ข้อเสนอสุดคุ้มโดนใจ ขับฟรีไปก่อน…ผ่อนทีหลัง ซื้อ All-New D-Max ทุกรุ่นวันนี้ ขับฟรี 90 วัน โปรโมชันนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2563 * ข้อเสนอขับฟรีสูงสุด 90 วัน จะเริ่มชำระค่าเช่าซื้องวดแรกภายใน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าซื้อเริ่มต้น
  • Isuzu V-Cross 4X4 รับโปรจัดใหญ่…สะใจทุกข้อเสนอ รับดอกเบี้ย 1.99% พร้อมขับฟรี 90 วัน หรือผ่อนเริ่มต้น 9,xxx บาท/เดือน โปรโมชันนี้ตั้งแต่ 1-31 กรกฎาคม 2563
  • Isuzu Mu-X The New Onyx ดาวน์เริ่มต้น 54,xxx บาท หรือเลือกดอกเบี้ยสุดพิเศษ 0% ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน เมื่อซื้อ Isuzu MU-X ทุกรุ่น

JAGUAR/LAND ROVER

วินาทีนี้ ไม่มี SUV อังกฤษคันไหน ได้รับความสนใจมากไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะนี่คือ Land Rover Defender ใหม่ที่สลัดคราบรถเจ้าของฟาร์มทิ้งจนแทบจำไม่ได้ ในงานนี้ รุ่นที่นำมาโชว์เป็นรุ่น “110” ซึ่งก็คือ 5 ประตูนั่นเอง ส่วนรุ่น “90” จะเป็นแบบ 3 ประตู ทั้งคู่ พร้อมลุยน้ำท่วมสุขุมวิท ด้วยระยะความสูงใต้ท้องรถ เคลียร์ได้ถึง 291 มิลลิเมตร มากกว่าความสูงใต้ท้องของรถกระบะขับสี่โดยเฉลี่ย 60-70 มิลลิเมตรเลยทีเดียว

Defender ใหม่นี้ มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้าหรือแบบ 240 แรงม้า เครื่องยนต์ 4 สูบ เทคโนโลยีเทอร์โบคู่แบบต่อเนื่องที่ส่งแรงบิด 430 นิวตัน-เมตรที่ 1,400 รอบต่อนาที จากนั้นก็จะเป็นรุ่นเบนซิน 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า และ ตบท้ายด้วยรุ่นเบนซิน 3.0 ลิตร Mild-Hybrid ที่ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า โดยเครื่องยนต์ทุกแบบขับเคลื่อนด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 สปีด พร้อมระบบเกียร์แบบ Twin-speed เพื่อส่งกำลังในอัตราความเร็วต่ำขณะลากจูง

Land Rover Defender ใหม่นั้น สามารถบรรทุกน้ำหนักสูงสุดถึง 900 กิโลกรัม โดยหลังคารถรองรับน้ำหนักสูงสุดขณะจอดนิ่งที่ 300 กิโลกรัม และ 168 กิโลกรัมขณะขับขี่ ความสามารถในการลุยน้ำที่ความลึกสูงสุดมากถึง 900 มิลลิเมตร ติดตั้งระบบ Configurable Terrain Response เพื่อช่วยให้ผู้ที่มีความชำนาญในการขับบนเส้นทางแบบขรุขระสามารถปรับตั้งค่าให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ขณะเดียวกันผู้ขับขี่มือใหม่ ก็สามารถให้ระบบค้นหาการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่มากที่สุดได้โดยใช้ฟังก์ชั่นอัตโนมัติแบบอัจฉริยะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครจะซื้อไปวิ่งลุยน้ำเล่น ต้องใจถึงอยู่สักหน่อย เพราะขนาดรุ่นถูกสุด แบบ 3 ประตู (รุ่น 90) ก็มี ราคาเริ่มต้น 5,400,000 บาทแล้ว ส่วนรุ่นอื่นๆรวมถึงตัวแรง P400 ลองติดต่อสอบถามที่บูธดูครับ

KIA

โปรโมชั่นของ Kia ในงาน

สำหรับลูกค้าที่จอง Grand Carnival รุ่น EX และ SXL ตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฏาคม 2563 นี้ โดยสามารถเลือกรับข้อเสนอพิเศษทางการเงินที่ตรงกับความต้องการได้ดังนี้

A. ฟรีดอกเบี้ย! 0% นาน 48 เดือน หรือ

B. ผ่อนน้อย ผ่อนสบาย เริ่มต้นเพียงเดือนละ 21,299 บาท หรือ

C.ขับปีนี้ ผ่อนปีหน้า (ขับฟรีสูงสุดนาน 180 วัน)

อีกทั้งยังจะได้รับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

  • ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชม. นาน 5 ปี
  • ชุดแต่งบันไดข้างแท้จากเกาหลี

LAMBORGHINI

ที่สุดของ Lamborghini คือตระกูล V-12 และที่สุดของตระกูล V-12 ก็คือ Lamborghini Aventador SVJ Roadster ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 6.5 ลิตร ไร้ระบบอัดอากาศ ไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้าช่วยเหลือใดๆ แรงของจริงกระทิงแท้ ด้วยพลังระดับ 770 แรงม้า ใช้ตัวถังโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา จนทำให้ถึงแม้จะเป็นรถ 12 สูบ แล้วยังมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ น้ำหนักเปล่าของรถก็ยังอยู่ที่แค่ 1,575 กิโลกรัม ซึ่งในเวอร์ชั่น SVJ Roadster นี้ จะหนักกว่ารุ่นหลังแค่แข็งเพียงแค่ 50 กิโลกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีระบบบริหารจัดการแอโร่ไดนามิกส์ชื่อน่ากินว่า Aerodynamica Lamborghini Attiva ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการจัดอากาศจากรุ่น SV ธรรมดาถึง 40%

รถพิเศษแบบนี้ ทั้งโลกจะมีอยู่เพียง 800 คันเท่านั้น ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมพอมาถึงเมืองไทยแล้ว ราคาค่าตัวจึงสูงถึง 48,980,000 บาท

ส่วนอีกคันที่สีขาวเหมือนกัน ราคาเป็นมิตรกว่า นั่นก็คือ Huracán EVO RWD Spyder ซึ่งเป็นรถรุ่นเล็ก (เล็กของ Lamborghini นะ) ใช้เครื่องยนต์ V10 ไร้ระบบอัดอากาศเหมือนรุ่นพี่ พละกำลังแรงม้าสูงสุด อยู่ที่ 610 แรงม้า สิ่งที่ต่างจาก Huracán ส่วนใหญ่ก็คือ รถรุ่นนี้จะเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ในขณะที่ Huracán ส่วนใหญ่ที่ขายกัน มักจะเป็นรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ แน่นอนว่ากำลังที่ใกล้เคียงกัน ตัดเหลือแค่ขับหลัง ความมันส์ที่ซ่อนอยู่จึงบังเกิดอย่างช่วยไม่ได้ Huracán EVO RWD Spyder  ยังสามารถเร่งจาก 0-100 ได้ภายในเวลาแค่ 3.5 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 324 กิโลเมตร/ชั่วโมง

โครงสร้างตัวถังของรถตระกูล Huracán จะเป็นแบบใช้ผสมกันระหว่างอะลูมิเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ด้วยความที่เจ้า Huracán EVO RWD Spyder  ตัวเล็กแถมขับหลังทำให้เบาเพียงแค่ 1.5 ตัน ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 21,800,000 บาท

MASERATI

โปรโมชั่นในงาน

Levante Grigio Matte Edition มาพร้อมการรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี, แพ็กเกจบำรุงรักษา Premium Maintenance Program นาน 3 ปีหรือ 60,000 กม. ผ่อนเริ่มต้น 69,000/เดือน

ขณะที่รถสปอร์ตซาลูน Ghibli รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ได้สิทธิ์รับประกันคุณภาพนาน 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง ผ่อนเริ่มต้น 49,000/เดือน สำหรับลูกค้าที่จอง และออกรถภายในเวลาที่กำหนด

MAZDA

เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ความใหม่ของ Mazda CX-3 โมเดลปี 2020 ยังอยู่ ได้รับการอัปเดตใหม่เพื่อให้มีความแตกต่างจากกลุ่มลูกค้าของ CX-30 ที่ตัวโตกว่า จึงมีการปรับวิธีจัดรุ่นย่อย แล้วเพิ่มทางเลือกวัยรุ่นประหยัดงบกับ 2.0 BASE ราคา 768,000 บาท ซึ่งก็น่าช็อคอยู่ไม่น้อยเพราะจำไม่ได้ว่าน่าจะ 20 ปีได้แล้วที่เราไม่มีรถเก๋งขนาดเล็กเครื่องเบนซิน 2.0 ลิตรมาให้เลือกในงบประมาณระดับนี้ ส่วนรุ่นดีเซล 1.5 ลิตรนั้นถูกยกเลิกการทำตลาดไปเป็นที่เรียบร้อย CX-3 ในขณะนี้จึงมีโอกาสที่จะอยู่ต่อไป ควบคู่ไปกับ CX-30 โดยใช้ราคาที่ถูกกว่าอยู่ประมาณ 150,000 บาทต่อรุ่น เป็นตัวสร้างจุดเด่นในการขาย

ถ้าใครอยากลองดูรุ่นท้อปตัวเก่าโฉมก่อนหน้า ก็มีการลดราคานะครับ สำหรับรถโฉม MY2018 ที่ยังเหลืออยู่ในสต็อค มีส่วนลด 100,000 บาทให้ ลองสอบถามกับผู้ขายดูได้

นอกจากนี้ ยังมีการนำรถรุ่นอื่นมาโชว์ รวมถึง Mazda MX-5 RF สปอร์ตตัวเบา พลัง 184 แรงม้า เป็นรถเก๋งขับเคลื่อนล้อหลังหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่ยังมีเกียร์ธรรมดาให้เลือกได้ในราคา 2,905,000 บาท แต่ถ้าใครอยากได้เกียร์อัตโนมัติ ก็จ่ายเท่ากัน จุดเด่นของรถรุ่นนี้ อยู่ที่หลังคาช่วงกลางเปิดออกทั้งหมดและดูดเข้าไปซ่อนใต้ชุดฝากระโปรงท้ายได้ภายใน 13 วินาทีเท่านั้น

โปรโมชั่นของ Mazda ในงาน

  • New Mazda2 รุ่นปี 2019 ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี
  • All-New Mazda3 ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง  1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • Mazda CX-3 รุ่นปี 2020 ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง  1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • All-New Mazda CX-30 ดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • Mazda CX-5 รุ่นปี 2019 ดอกเบี้ย 0.99%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง  1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • All-New Mazda CX-8 ดอกเบี้ย 0%1 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง  1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรงเช็กระยะ 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
  • Mazda MX-5 ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ขยายการรับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร

นอกจากนี้ มาสด้ายังมอบข้อเสนอพิเศษอีก 2 ต่อ สำหรับลูกค้าที่จองรถมาสด้าภายในงานฯ และออกรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 นี้เท่านั้น

  • ลูกค้า 1,000 ท่านแรกที่จอง รับฟรีหมอนสไมล์ มูลค่า 390 บาท
  • ลูกค้า 500 ท่านแรกที่จองมาสด้า CX-3, CX-30, CX-5 และ CX-8 จำนวน 5,000 บาท รับฟรี Mazda Travel Bag สีฟ้า มูลค่า 1,900 บาท และลูกค้า 500 ท่านแรกที่จอง Mazda2, Mazda3, BT-50 PRO และ MX-5 จำนวน 5,000 บาท รับฟรี Mazda Travel Bag สีดำ มูลค่า 1,900 บาท*

*ทั้งนี้สำหรับโปรโมชั่นทั้งหมดให้สอบถามกับพนักงานขายอีกครั้ง เนื่องจากในเอกสารที่ได้มามีดอกจันกับหมายเหตุเยอะมาก เดี๋ยวจะยาว

MG

สำหรับค่ายนี้ ยังมี MG ZS Minorchange ที่เหลือความสดอยู่เพราะเพิ่งเปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี มีอุปกรณ์ครบ ราคากำลังสวย แต่ถ้าซื้อไปใช้ในบริเวณจังหวัดติดน้ำเค็มก็ระวังหน่อยก็แล้วกัน ส่วน MG ZS EV ยังไม่ได้ไมเนอร์เชนจ์ตามรุ่น 1.5 ไป และยังมีโปรโมชั่นดันยอดขายอยู่เหมือนตอนที่เปิดตัวใหม่ๆ ที่น่าห่วงหน่อยก็คือ MG Extender ที่ยอดขายดันอย่างไรก็ไม่ได้ไปถึงฝัน ทั้งที่จุดเด่นของรถก็ยังมีตรงที่ช่วงล่างไม่ดีดกระเด้ง และเบาะหลังก็นั่งสบาย

โปรโมชั่นของ MG ในงาน

NEW MG ZS Minorchange 2020

  • “ขับฟรี 3 เดือน” หรือ เลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.89%
  • เลือกรับอุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก MG ในแบบ “Smart Design” หรือ ในแบบ “Smart Utility” มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 22,061 บาท
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

MG ZS EV

  • ฟรี! MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด
  • ฟรี! ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
  • พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

MG HS

  • ข้อเสนอ “ขับฟรี 60 วัน”
  • ฟรี! อุปกรณ์ตกแต่งแท้จาก MG มูลค่า 15,630 บาท
  • เลือกรับดอกเบี้ย 1.29%
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

MG EXTENDER

โปรโมชันทางเลือกที่ 1: MG EXTENDER ผ่อนให้ 6 เดือน

  • “เอ็มจีผ่อนให้ 6 เดือน” *เฉพาะลูกค้าที่ประกอบอาชีพเกษตรกร
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

โปรโมชันทางเลือกที่ 2 : MG EXTENDER ผ่อนเบาๆ เริ่มต้น 152 บาท ต่อวัน

  • เลือกผ่อนเบา ๆ เริ่มต้น 152 บาท ต่อวัน ระยะเวลา 1 ปี
  • ฟรี! ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี

 

MG3

  • ข้อเสนอ “ขับฟรี 60 วัน”
  • หรือ รับสิทธิ์ MG ช่วยผ่อน 3,000 บาท ระยะเวลา 12 เดือน มูลค่า 36,000 บาท
  • ฟรี! ประกันภัยชั้นหนึ่ง พร้อม พ.ร.บ. นาน 1 ปี

MITSUBISHI

รถรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไป คือ Mitsubishi Pajero Sport ELITE Edition ซึ่งเป็นรถรุ่นปกติที่นำมาใส่ชุดแต่งเพิ่มเติม ดังนี้

  • กระจังหน้า สีดำ
  • กันชนหน้า/หลัง สปอยเลอร์หลัง ราวหลังคา สีดำ
  • โลโก้ P A J E R O  S P O R T บนฝากระโปรงหน้า
  • ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว สีดำ
  • แผงประตู บุด้วยหนังสีน้ำตาล
  • เบาะนั่ง หุ้มด้วยหนังสีน้ำตาล QUOLE MODURE สะท้อนความร้อน
  • กล้องบันทึกภาพหน้ารถ DVR

โดยแต่ละรุ่นย่อยที่นำมาตกแต่งแบบ Elite Edition นี้ จะมีราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 30,000-55,000 บาท

สำหรับข่าวคราวเพิ่มเติมของทางค่าย ไม่ต้องห่วง ยังไม่มีอะไรใหม่มา ถ้าจะคาดหวัง Triton ใหม่ ก็คงไม่ใช่ภายในปีนี้แน่นอนครับ ในช่วงนี้ Mitsubishi ยังต้องทำงานร่วมกับ Nissan อยู่ว่ารถรุ่นต่อไปจะเป็นอย่างไร เราอาจจะต้องรอจนถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย เพราะภายในบริษัท Nissan เองก็วุ่นกันอยู่ และผลกระทบจาก COVID-19 ที่ส่งผลในการดำเนินแผนงานอีกด้วย

โปรโมชั่นของ Mitsubishi ภายในงาน

  • “ออกรถวันนี้ ขับฟรี 90 วัน” สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Mitsubishi ทุกรุ่น ตั้งแต่วันที่ 1-31 กรกฎาคม 2563 และรับรถภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เลื่อนระยะเวลาการผ่อนงวดแรกออกไป 90 วัน นับจากวันที่สัญญาเช่าซื้อ โดยเงื่อนไขการเข้าร่วมโปรแกรมเป็นไปตามที่สถาบันที่ร่วมรายการกำหนด
  • Xpander Cross ราคาแนะนำ 899,000 บาท ขับฟรี 90 วัน หรือดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% รับฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • Pajero Sport ขับฟรี 90 วัน หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 1 ปี ฟรีแพ็คเกจ 5 ปี ดูแลดีถึงใจ ประกอบไปด้วย ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ 5 ปี และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี รับประกันคุณภาพ 5 ปี พร้อมค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี
  • Pajero Sport รับฟรีอุปกรณ์เชื่อมต่อสัญญาณภาพและเสียงระบบดิจิทัล (HDMI WiFi Dongle) เลือกรับ ประกันภัยชั้นหนึ่ง นาน 2 ปี หรือโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ 7 ปี หรือ 150,000 กม.
  • ส่วนลดเพิ่ม 20,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ Mitsubishi Pajero Sport ใหม่ (รุ่นปี 2020)

NISSAN

เด็ดที่สุดของ Nissan ในเวลานี้คงต้องโดนเจ้า Kicks รถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่วิ่งได้ไม่เกิน 5 กิโลเมตรถ้าไม่มีน้ำมัน ตอนนี้คงไม่มีใครงงแล้วมั้ง พูดง่ายๆก็คือ ใช้มอเตอร์เท่านั้นในการขับเคลื่อน แต่เนื่องจากแบตเตอรี่ที่จุไฟเยอะๆราคามันสูง และประเทศไทยสถานีชาร์จไฟมันน้อย เขาก็เลยลดขนาดแบตเตอรี่ลงเหลือความจุใกล้เคียงรถไฮบริด แล้วติดเครื่องยนต์ไว้เพื่อปั่นไฟเข้าแบต ดังนั้นจึงมีถังน้ำมัน มีเครื่อง เหมือนรถไฮบริด แต่ไม่ต้องมีชุดตัดต่อกำลังเครื่อง/มอเตอร์ ซับซ้อนน้อยกว่า พลังจากมอเตอร์เยอะ แรงถีบออกตัวดีเหมือนรถ 2.0 ลิตร ปล่อยมลพิษพอๆกับรถไฮบริด แต่มีจุดเด่นที่ One Pedal Mode – ขับในความเร็วต่ำๆได้ด้วยแป้นคันเร่ง ยกคันเร่งแล้วรถหน่วงจนหยุดเองได้

ในงานนี้ มีการเปิดตัว KICKS “Premiere Edition” ซึ่งดูสวยกว่ารุ่นปกติตอนเปิดตัวเสียอีก โดยการเพิ่มชุดสเกิร์ตรอบคัน สปอยเลอร์หลังขนาดและดีไซน์กำลังสวย สำคัญคือล้ออัลลอยลาย 5 ก้านคู่สีดำ ซึ่งเปลี่ยนมาดของรถให้ดูโหดขึ้น แต่ถ้าใครอยากได้รุ่นนี้ ตัวรถภายนอก คุณจะเลือกได้แค่สีขาว กับสีส้มเท่านั้น ทั้งคู่จะมาพร้อมหลังคาดำ ราคารถ 1,099,000 บาท เพิ่มจากรุ่นธรรมดา 35,000 บาท

PEUGEOT

ในงานนี้ มีการนำน้องเล็ก 2008 มาโชว์โฉม..แต่ยังไม่ขายนะครับ รถที่มาโชว์นั้นเป็นรถพวงมาลัยซ้าย มาสร้างสีสันให้บูธ จากนั้นเมื่อพร้อม ก็จะนำมาขายจริง โดยเท่าที่สอบถามกับทางผู้บริหารมา เวอร์ชั่นไทย จะได้เครื่องยนต์ 1.2 ลิตรติดเทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำราคาเอาไว้ประมาณ 1 ล้านบาทบวกลบนิดหน่อย ซึ่งถ้ามาได้จริง โอกาสที่ Peugeot จะกลับมาผงาดในตลาดรถไทยนั้น มีไม่น้อยทีเดียว เนื่องจากที่ผ่านมานั้น รถรุ่น 3008 และ 5008 แม้ว่าจะมีราคาถือว่าโอเคเมื่อเทียบกับรถใน Segment เดียวกัน ทว่ากลุ่มลูกค้าระดับวัยรุ่น และกลุ่มที่มีงบประมาณไม่เกินล้านบาท ยังไม่สามารถเอื้อมถึงได้

โปรโมชั่นของ Peugeot ภายในงาน

กิจกรรมพิเศษ ‘#See the Unseen’ ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมของ Peugeot 2008 พร้อมชิงโชคลุ้นทริปท่องเที่ยวไกลถึงฝรั่งเศส (กำหนดการเดินทางและโปรโมชั่นอาจเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับ COVID)

ขณะที่รุ่นหลัก Peugeot 3008 SUV และ 5008 SUV 7 ที่นั่ง จัดแคมเปญมาให้

  • 3008 ผ่อนเริ่มต้น 15,999 บาท/เดือน
  • 5008 ผ่อนเริ่มต้น 17,999 บาท/เดือน
  • ข้อเสนอสุดพิเศษกับชุดเครื่องเสียง FOCAL รวมถึงบริการ ‘Peugeot Care’ ครั้งแรกที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ด้วยการไปรับรถเพื่อเข้าศูนย์บริการ และนำกลับมาส่งถึงที่บ้านผ่านแอพพลิเคชั่น LINE

PORSCHE

AAS Auto Service ใช้เวทีงาน BIMS41 ครั้งนี้ ในการเผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Porsche อย่าง  Taycan มันเป็นรถที่สร้างขึ้นเป็นการนำร่องให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆของทางค่ายที่จะตามมาในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็น Taycan ทรง Sport Cross Turismo หรือรถ Macan รุ่นต่อไปที่จะมีเวอร์ชั่น EV ออกมาขายในอนาคตอันใกล้นี้ โดยลักษณะการทำตลาดของ Taycan นั้น จะสอดอยู่ข้างใต้รุ่นพี่ตัวโตอย่าง Panamera เมื่อบวกกับการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีมลพิษจากไอเสีย ทำให้สามารถตั้งราคาได้น่าโดนเป็นอย่างยิ่ง

  • Porsche Taycan 4S – 560 แรงม้า พิสัยทำการหลังชาร์จไฟเต็ม 407 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 7,100,000 บาท
  • Porsche Taycan Turbo – 680 แรงม้า พิสัยทำการหลังชาร์จไฟเต็ม 450 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 9,900,000 บาท
  • Porsche Taycan Turbo S – 761 แรงม้า พิสัยทำการหลังชาร์จไฟเต็ม 412 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้น 11,700,000 บาท

Turbo S คือรุ่นที่พกอุปกรณ์มาพร้อมที่สุด ได้ไฟหน้าตัวท้อป และชุดเบรก PCCB เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รุ่น Turbo/Turbo S ได้แบตเตอรี่ความจุโต (Performance Battery 93.4kWh) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น 4S ถ้าอยากได้ ก็สามารถสั่งติดตั้งเพิ่มได้ แรงม้าจะเพิ่มเป็น 561 แรงม้า และพิสัยทำการจะเพิ่มเป็น 460 กิโลเมตร

คำแนะนำก็คือ ถ้าชอบออพชั่นเยอะ ให้เทียบรุ่นและราคา จากนั้นคำนวณเงินที่จ่ายค่าออพชั่นให้ดี เพราะรุ่น 4S เอามาติ๊กเพิ่มออพชั่นให้ใกล้เคียง Turbo S มากที่สุด ราคารถท้ายสุดต่างจาก Turbo S แค่เท่า A-Class คันนึง ดังนั้นดูให้ดีก่อนนะครับ

โปรโมชั่นของ Porsche

  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ทุกรุ่นรับอัตราผ่อนชำระดอกเบี้ยพิเศษ 99%
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ มาคันน์ ในสต็อก รับฟรีวารันตีจากโรงงานปอร์เช่ 2 ปี
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ คาเยนน์ อี-ไฮบริด ในสต็อก รับสิทธิ์ผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 60 เดือน
  • ผู้สั่งจองรถยนต์ปอร์เช่ 911 ในสต็อก รับฟรีส่วนลดเงินสด และฟิล์มกรองแสง

ROLLS-ROYCE

โปรโมชั่นของ Rolls-Royce ในงานนี้

  • สำหรับลูกค้าที่จองรถรุ่นที่กำหนดภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 41 รับฟรี Starlight Headliner สร้างบรรยากาศในห้องโดยสารสะท้อนท้องฟ้าในยามราตรีมูลค่า 1.5 ล้านบาท
  • เพิ่มมูลค่ารถเทรด-อินสูงสุด 1 ล้านบาท
  • Rolls-Royce Cullinan ผ่อนเริ่มต้น 392,000 บาท/เดือน
  • Wraith ผ่อนเริ่มต้น 345,000 บาท/เดือน

SUBARU

ยังไม่มีรถใหม่มาเพิ่มในเวลานี้ บางทีอาจจะต้องหาทางทำอะไรกับ Subaru XV สักอย่าง เนื่องจากการแข่งขันในตลาดระดับนี้ ร้อนแรงขึ้นจากการเปิดตัวของ Corolla Cross รวมถึงการลดราคารุ่นเริ่มต้นของ CX-3 ในช่วงที่ผ่านมา เราจะมีโอกาสได้เห็น XV ราคาต่ำกว่าล้านหรือไม่?

ส่วนรถรุ่นอื่น ก็ยังมีขายอยู่ แต่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของอายุโมเดล อย่างเช่น WRX, WRX STi รวมถึง Subaru BRZ ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสมาว่าจะเลิกจำหน่ายในไทยแล้ว เรื่องนี้ผมได้สอบถามกับคุณตวัน ผู้บริหารทางค่ายแล้ว ได้ความว่า ยังไม่ได้เลิกจำหน่ายแต่อย่างใด ถ้าสั่งรถภายในช่วงไตรมาส 3 นี้ ก็ยังจะได้อยู่ และจะเลิกขายก็ต้องรอให้ทางญี่ปุ่นเลิกผลิตก่อนโน่น เพราะ BRZ รุ่นใหม่ยังไม่มา

แต่ที่แน่ๆ ถ้าใครอยากได้ BRZ สีน้ำเงินเข้มแบบในภาพ คันที่จอดอยู่ในงาน จะเป็นคันสุดท้ายแล้วนะครับที่ Subaru ไทย จะนำสีนี้เข้ามาจำหน่าย

โปรโมชั่นของ Subaru ในงาน

  • Subaru XV ออกรถวันนี้ ขับฟรีตลอดปี 2020* พร้อมดอกเบี้ย 0% 60 เดือน, ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีประกันคุณภาพ 5 ปี
  • Subaru Forester ออกรถวันนี้ ขับฟรีตลอดปี 2020* พร้อมดอกเบี้ย 0.99% 48 เดือน, ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีประกันคุณภาพ 5 ปี

SUZUKI

Suzuki Way of Wife งานนี้ รถที่ใหม่สุดก็คือ XL7 รถยนต์ 7 ที่นั่งเครื่องขนาด 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ที่มีพื้นฐานมาจาก MPV Ertiga แต่ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายทั้งภายนอก วัสดุหุ้มเบาะ เปลี่ยนหน้าปัดให้ดูไฉไลขึ้น และยังมีการเพิ่มวัสดุซับเสียง เปลี่ยนช่วงล่าง สปริง โช้คอัพใหม่ จนได้รถที่มีอรรถประโยชน์ใช้สอยดีเหมือนเดิม การทรงตัวดีขึ้น ในราคาจบๆ ที่ 779,000 บาท

อย่างไรก็ตาม รถที่ได้รับความสนใจจากปวงชนในการถ่ายภาพและอัพใน Social Network มากที่สุด กลับกลายเป็น Suzuki Carry โดราเอมอนลิมิเต็ด ซึ่งมีคันเดียวในโลก ทำมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ

ช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา 6 เดือน ทำเอาตลาดรถมียอดขายในภาพรวมลดลงถึง 40% แต่อาจจะเป็นโชคดีของ Suzuki ที่ผลการขายในช่วง 6 เดือนแรกของปี กลับลดลงเพียง 9% เท่านั้น แต่เป็นการรักษายอดที่ทีมขาย ทีมสำนักงานใหญ่ทำงานกันหนักมากเพื่อรักษายอดนี้เอาไว้

โปรโมชั่นของ Suzuki

  • ซื้อและรับ Suzuki ทุกรุ่นตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 – 31 กรกฎาคม 2563 มอบส่วนลดพิเศษเพิ่ม 10,000 บาท
  • สำหรับลูกค้าเจ้าของ Suzuki และครอบครัว หรือกลุ่มลูกค้าข้าราชการ  รัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทมหาชน หรือลูกค้านำรถเก่ามาแลกรถคันใหม่และ ฟรี ประกันภัยชั้นหนึ่งสำหรับปีแรก และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินจากบริษัท เอ ดับเบิลยู พี (ประเทศไทย) จำกัด ระยะเวลา 3 ปี (ยกเว้นรุ่น Suzuki Carry)

ALL NEW SUZUKI XL7

ดอกเบี้ย 1.89% หรือเลือก รับข้อเสนอสุดพิเศษ ขับฟรี 90 วัน ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวม สูงสุด 10,000 บาท

SUZUKI SWIFT

รับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน ส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 30,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,222 บาท หรือเลือก ดอกเบี้ย 1.09%

SUZUKI CIAZ

รับข้อเสนอขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 40,000 บาท ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 3,777 บาท

SUZUKI CELERIO

รับข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 20,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 1,999 บาท

SUZUKI ERTIGA

ข้อเสนอ ขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท ฟรีบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 10,000 บาท หรือเลือก ผ่อนเริ่มต้นเดือนละ 4,444 บาท

SUZUKI CARRY

ข้อเสนอสุดขับฟรี 90 วัน พร้อมส่วนลดอุปกรณ์ตกแต่งมูลค่ารวมสูงสุด 10,000 บาท

 

TOYOTA/LEXUS

HOT ที่สุดในชั่วโมงนี้ น่าจะเป็นค่ายใหญ่อย่าง Toyota ซึ่งตั้งแต่เริ่มต้นปีมา ก็รุกหนัก ทั้ง Hilux Revo ไมเนอร์เชนจ์ Fortuner ไมเนอร์เชนจ์ และล่าสุด กับ Toyota Corolla Cross รถที่เป็นแฝดคนละหน้ากันกับ Toyota C-HR โดยมีระดับราคาใกล้เคียงกัน C-HR จะทำหน้าที่เป็นรถสำหรับดึงดูดลูกค้าวัยรุ่น หรือคนที่ชอบรถรูปร่างแปลกตา ช่วงล่างแน่น การขับขี่ดี ในขณะที่ Corolla Cross นั้น จะเป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มที่เน้นพื้นที่การใช้สอย บรรทุกสัมภาระได้เยอะกว่า ทางด้านวิศวกรรม รถทั้งสองคันใช้เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และไฮบริด 1.8 ลิตรเหมือนกัน แต่เซ็ตพวงมาลัยต่างกัน และช่วงล่างหลังของ C-HR เป็นแบบอิสระ ในขณะที่ Corolla Cross จะใช้ Torsion Beam

ราคาเริ่มต้น สำหรับ Corolla Cross 1.8 SPORT เครื่องเบนซิน ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน จะอยู่ที่ 959,000 บาท

โปรโมชั่นของ Toyota ในงาน

  • Corolla Cross ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.85 % หรือ เลือกรับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.29%
  • C-HR เบนซิน รับดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อมขับฟรี 90 วัน มูลค่า 75,000 บาท หรือ ส่วนลดเงินสด มูลค่า 65,000 บาท
  • C-HR Hybrid อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% นาน 4 ปี  พร้อม ฟรี ประกันภัยชั้น1 เมื่อดาวน์ 25% ขึ้นไป ผ่อนนาน 48 เดือน สำหรับรถยนต์ซีเอชอาร์ไฮบริด หรือ ผ่อนสบายเริ่มต้น 8,400 บาท พร้อมแพคเกจรับประกันและบำรุงรักษามูลค่า 30,000 บาท ประกอบไปด้วย ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี และฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม. พิเศษ สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดเป็น 10 ปี (ช่วงปีที่ 6 – 10) และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • Yaris ดาวน์ 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1- ซื้อชุดอุปกรณ์แต่ง YARIS CROSS ในราคาพิเศษ 35,000 บาท (เฉพาะสี Attitude Black Mica ซื้อชุดแต่งในราคาพิเศษ 30,000 บาท (ยกเว้นการติดตั้งฟิล์มดำตกแต่งหลังคา)
  • Yaris ATIV ดาวน์ 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1-  ซื้อชุดอุปกรณ์แต่ง ATIV GT ในราคาพิเศษ 7,000 บาท
  • Corolla Altis ฟรี ชุดแต่งสไตล์สปอร์ต มูลค่า 15,000 บาท หรือ ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง พิเศษอัตราดอกเบี้ย 1.99% เมื่อดาวน์ 20% ขึ้นไป ผ่อนนาน 48 เดือน สำหรับรถยนต์ โคโรลล่า อัลติส 1.8 ลิตร เครื่องไฮบริดหรือเบนซิน(GR Sport) พร้อมแพคเกจรับประกันและบำรุงรักษามูลค่า 30,000 บาท ประกอบไปด้วย ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพเป็น 5 ปี และฟรีค่าแรงเช็กระยะจนถึง 100,000 กม.
  • Corolla Altis Hybrid สำหรับเครื่องยนต์ไฮบริด ขยายระยะเวลารับรองการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดเป็น 10 ปี (ช่วงปีที่ 6 – 10) และรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
  • Hilux Revo ดาวน์ 0% หรือ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.19% พร้อม ขับฟรี 90 วัน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.19%  เงินดาวน์ 25% ระยะเวลา 48 เดือน สำหรับไฮลักซ์รีโว่สมาร์ทแค็บ Z Edition และ Prerunner  รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ปี 2563ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% (ดาวน์ 20-25% ผ่อนนาน 48 เดือน)

สำหรับฝั่ง Lexus ก็มีรถ MPV หรูอย่าง LM300h ในรุ่น 7 ที่นั่งนั้น ก็นับว่าหรูจนลืม Alphard แล้ว แต่ในรุ่นพิเศษของเขา ที่มี 4 ที่นั่ง (เจ้านาย กับคนรู้ใจอยู่บนเบาะหลัง..คิดดู หลังรถตั้งกว้างนั่งกันแค่สองคน!) จะยิ่งเพิ่มความอลังการขึ้นไปอีก โดยภายใน ออกแบบตามแนวคิด “Mobile Private Lounge” เสมือนนั่งอยู่ในห้องโดยสารชั้นเฟิร์สคลาส มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดด้วยแผงกั้นขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ 26 นิ้วและเครื่องเสียง MARK LEVINSON ที่ไม่ต้องถามกันมากเรื่องคุณภาพเสียง ส่วนเบาะนั่งใน LM300h นั้น ก็ได้นำเทคโนโลยีโฟมยูรีเทน ADAPTIPEDIC โดย WOODBRIDGE มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก เพื่อช่วยซับแรงกระแทก มาพร้อมกับระบบนวดที่สามารถปรับได้มากถึง 7 รูปแบบ รวมถึงตู้แช่เครื่องดื่ม

สนนราคาของ LM300h รุ่น 7 ที่นั่ง ราคา 5,500,000 บาท และรุ่น 4 ที่นั่ง ราคา 6,500,000 บาทครับ

VOLVO

ไฮไลท์เด่นของ Volvo ก็คือขุมพลัง “T8 Twin Engine” ที่ได้ทั้งแรง และประหยัดน้ำมัน (เวลาใช้ไฟฟ้าวิ่ง) และรุ่นล่าสุดที่ได้ขุมพลังนี้ ก็คือ XC60 T8 AWD Polestar Engineered ซึ่ง Polestar นั้น ก็คือหน่วยงานที่ดูแลรถรุ่นแรงพิเศษเน้นสมรรถนะของ Volvo คล้ายๆกับที่ Mercedes-Benz มี AMG นั่นเอง

XC60 T8 Polestar Engineered นี้ มีราคา 4,390,000 บาท ที่แพงกว่า XC60 T8 รุ่นธรรมดามากเพราะของที่ใส่ไปนั้นไม่ธรรมดา เริ่มต้นจากเครื่องยนต์ที่ปรับจูนเพิ่มกำลังจาก 407 เป็น 422 แรงม้า แรงบิดเพิ่มจาก 600 เป็น 670 Nm นอกจากนี้ ยังมีการอัพเกรดเบรกขนานใหญ่ จาก Akebono ด้านหน้ามหึมา 508 มิลลิเมตร 6 Pot เปลี่ยนล้ออัลลอยเป็นขนาด 21 นิ้ว ช่วงล่างครบเซ็ตจาก Ohlins ผู้ผลิตโช้คอัพซิ่งชั้นนำราคาสูง สามารถปรับความแข็งได้ 22 ระดับ มีเหล็กค้ำโช้คหน้า และสายเข็มขัดนิรภัยสีทองส้ม

นับว่าถ้าดูจากแรงม้ากับราคา Volvo ก็ยังคงเอกลักษณ์เดิมในการให้รถที่ราคาม้าต่อบาทคุ้มค่ากว่าคู่แข่ง แต่เมื่อนำมาวิ่งจริงจะน่าประทับใจขนาดไหน ต้องขอลองขับสักรอบครับ

โปรโมชั่นของ Volvo

  • แพ็คเกจบำรุงรักษารถยนต์ระดับพรีเมียม “Volvo Premium Service Program” (บำรุงรักษาฟรี 10 ปี/100,000 กม. และประกันคุณภาพ 5 ปี/150,000 กิโลเมตร พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี) ในราคาเพียง 50% สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ Volvo XC40, XC60, XC90, Volvo S60 และ Volvo V60 รับสิทธิ์เพิ่มทันที Volvo Maintenance Service (บริการบำรุงรักษารถยนต์) เป็น 10 ปี หรือ 100,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน)
  • สำหรับรถยนต์ Plug-in Hybrid (T8) รับ Wall Box (เครื่องชาร์ตไฟรถยนต์ Plug-in Hybrid) มูลค่า 59,000 บาท* ฟรี!