หลังจากที่ Mercedes-Benz ทำการปรับโฉม Facelift ให้แก่ V-Class (W447) ซึ่งเป็นรถตู้ MPV ระดับหรู ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงต้นปี 2019 คราวนี้ก็ถึงเวลาของรถตู้เพื่อการพาณิชย์ที่มีโครงสร้างพื้นฐานเดียวกันอย่าง Mercedes-Benz Vito กันบ้าง โดยสิ่งที่พิเศษก็คือ มีการแนะนำ eVito Tourer รถตู้พลังงานไฟฟ้า EV 100% รุ่นปรับปรุงออกมาด้วย

นอกเหนือจากการแนะนำรุ่นที่ใช้พลังงานไฟฟ้า EV 100% แล้ว ยังมีอีกไฮไลต์สำคัญ คือ การเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซล พิกัด 2.0 ลิตร พละกำลังสูงสุด 239 แรงม้า (PS) และปรับปรุงขุมพลังไฟฟ้า ในรุ่น eVito Tourer ให้สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเปลี่ยนแปลงภายนอก มีเพียงกระจังหน้า ซึ่งยังคงเป็นทรวดทรงคล้ายรุ่นเดิม พร้อมโลโก้ดาว 3 แฉก แต่มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดภายในกระจังหน้าใหม่ ให้มีความสวยงามมากขึ้น และบ่งบอกให้รู้ว่านี่คือรุ่นปรับโฉม Facelift อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกสีตัวถังภายนอก ได้แก่ สีเทา Graphite Grey สีแดง Hyacinth Red Metallic และล้ออัลลอยลายใหม่ ขนาด 17 – 19 นิ้วมาให้ด้วย

ส่วนภายในห้องโดยสาร มีการเปลี่ยนวัสดุหุ้มเบาะนั่ง จากเดิมที่เป็นผ้า Tunja มาเป็นผ้า Caluma ปรับดีไซน์ช่องแอร์ทรงกลมบนแผงแดชบอร์ดด้านหน้า ทั้งฝั่งซ้ายและขวา ให้เป็นแบบครีบใบพัด ตกแต่งช่องแอร์คอนโซลกลางด้วยวัสดุสีดำเงา Gloss Black พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งสีเงิน Chrome Package เป็นอ็อพชันเสริม

เพื่อให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยการมองเห็นชัดเจน แม้ในยามบรรทุกสิ่งของเต็มคัน จึงมีกระจกมองหลังแบบดิจิตอล ซึ่งจะแสดงภาพจากกล้องที่ติดตั้งอยู่บริเวณกระจกบังลมหลังมาให้เป็นอ็อพชันเสริมด้วย

นอกจากนี้ ยังอัพเกรดระบบความบันเทิงใหม่ ติดตั้งหน้าจอแสดงผลระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว เครื่องเล่นวิทยุ DAB+ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมกล้องมองหลังที่ถูกปรับให้มีความคมชัดมากยิ่งขึ้น

ขุมพลังของ Mercedes-Benz Vito Facelift เป็นเครื่องยนต์ดีเซล มีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบได้แก่

Vito 110 CDI

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 622 แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.7 ลิตร 1,749 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 114 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะขับเคลื่อนล้อหน้า

Vito 114 CDI

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 622 แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.7 ลิตร 1,749 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 136 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

Vito 116 CDI

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 651 แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,951 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

Vito 119 CDI

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 651 แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,951 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

Vito 124 CDI (NEW)

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส OM 654 แบบ 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,951 ซีซี เทอร์โบ กำลังสูงสุด 239 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ

eVito Tourer

มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 362 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหน้า และ แบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 90 kWh (รุ่นเดิม 41 kWh)

ตัวเลขจากโรงงาน

  • ระยะทางวิ่งที่วิ่งได้สูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้ง อยู่ที่ 421 กิโลเมตร (eVito รุ่นเดิม อยู่ที่ 150 กิโลเมตร)
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed อยู่ที่ 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง

การชาร์จไฟฟ้า

  • ชาร์จด้วยไฟฟ้า AC 11 kW จากระดับไฟฟ้า 0% – 100%  ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้า DC 50 kW จากระดับไฟฟ้า 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 80 นาที
  • ชาร์จด้วยไฟฟ้า DC 110 kW จากระดับไฟฟ้า 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

 

ด้านระบบกันสะเทือน จะมีระบบช่วงล่างถุงลม AIRMATIC ซึ่งสามารถปรับเพิ่มความสูงของตัวรถขึ้นได้ 35 มิลลิเมตร และ ปรับลดความสูงลงได้ 10 มิลลิเมตร มาให้เลือกติดตั้งเป็น Option เสริม

ระบบความปลอดภัยถูกอัพเกรด โดยติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ DISTRONIC ทำงานร่วมกับระบบ Active Brake Assist ซึ่งจะช่วยรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้เป็นไปตามที่ผู้ขับขี่ตั้งเอาไว้ และ ช่วยเบรกเมื่อตรวจพบความเสี่ยงต่อการชนปะทะ เป็นครั้งแรกของรถยนต์ในกลุ่มนี้ของ Mercedes-Benz

Mercedes-Benz Vito Facelift จะเริ่มเปิดให้ลูกค้าชาวเยอรมันจับจอง ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2020 เป็นต้นไป โดยเคาะราคาเริ่มต้นที่ 22,598 ยูโร หรือราว 800,000 บาท (ไม่รวมภาษีนำเข้าประเทศไทย) ส่วนรุ่น eVito Tourer นั้น จะประกาศราคาจำหน่ายและนำออกสู่ตลาดในภายหลัง

 

ที่มา : Daimler