banner_NYAIS

สถานการณ์รถยนต์ระดับโลกช่วงนี้อยู่ในระดับทรง ๆ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่งานแสดงรถยนต์ทั่วโลกกลับเร่งอุณหภูมิร้อนให้
ลุกเป็นไปจนบริษัทรถเริ่มมึนงงว่าจะเอารถรุ่นไหนไปอวดโฉมกันดี เพราะคณะผู้จัดงาน New York Autoshow 2016
กล้าขยับวันจัดงานให้อยู่ในช่วงปลายเดือนมีนาคมแทน (เรียกว่าชนกับงาน Bangkok International Motorshow
2016 เต็มที่เลย)

ถ้าในเมื่อกล้าขยับให้เร็วขนาดนี้แล้ว ก็แสดงว่า New York Autoshow 2016 ต้องมีดีอะไรสักอย่าง

Acura

acura1

เปิดบูธแรกโดย Acura แบรนด์รถหรูที่ไทยไม่คุ้นเคยเลย แล้วยิ่งมาเจอ 2017 Acura MDX Minorchange แล้วก็ยิ่งไม่
คุ้นหน้าหนักเข้าไปใหญ่เพราะ Acura ช่างกล้าที่จะเปลี่ยน Design Language ใหม่ล่าสุดซึ่งก็ดูแล้วมันน่าจะมีแรง
บันดาลใจจากอัญมณีในระดับหนึ่ง

acura3

เหตุผลที่ Acura ขอเปลี่ยนใบหน้าใหม่ให้กับ MDX นั้นคงเพราะใบหน้า MDX แบบเดิม ๆ มันยังไม่โดนใจลูกค้าชาว
อเมริกันมากนัก จนถึงขั้นยกฉายาว่ามันคือเอสยูวีหน้านก (ผู้เขียนก็แอบสังเกตว่าแนวการออกแบบด้านหน้าของ Honda
ยุคหลังก็แอบได้แรงบันดาลใจจาก Acura ไม่น้อย)

ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้าทรงห้าเหลี่ยมรูปเพชร มาพร้อมกับไฟหน้า Jewel Eyes ขนาดกะทัดรัดใหม่ล่าสุด ทำให้
มันมีภาพลักษณ์โดยรวมดูเรียบร้อยสงบเสงี่ยมเจียมตัวมากขึ้น

acura4

ถึงมันจะมีหน้าใหม่ที่เอาใจคนอินเตอร์มากขึ้น แต่พวกเขาจะรู้ตัวไหมว่า เมื่อมองแค่แว้บเดียวเนี่ยก็ชวนให้นึกถึงรถยี่ห้อ
Ssangyong ไม่น้อย

นอกจากหน้าตาที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ถูกเพิ่มเติมเพื่อเรียกลูกค้าให้หันมามองอีกครั้ง งานนี้
Acura ติดตั้งเบรกมือไฟฟ้าให้ครบทุกรุ่นย่อย, วิทยุ SiriusXM 2.0, ถ้าหากเพิ่มเงินนิดหน่อยก็จะแลกกับช่วงล่าง Active
Sport มีให้เลือก 3 โหมด อาทิ Comfort/Normal/Sport และมีโหมด Sport+ สำหรับเวอร์ชัน Hybrid

acura2

และนี่คือคำตอบของคำถามปริศนาว่าทำไม Acura ถึงอยากเปลี่ยนแปลง Design Language บอกได้เลยว่า รถต้นแบบ
คันนี้จะตอบคำถามได้ทุกอย่าง

acura5 acura6

Acura Precision Concept คือความเฉียบคมและแม่นยำในการตัดสินใจที่จะเปลี่ยน Design Language ใหม่กับเขา
บ้าง บอกตามตรงเลยว่ามันดูเป็นรถอเมริกันชนน้อยลง แต่ก็แลกกับภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูโตขึ้น และดูสากลมากขึ้น

เส้นสายรอบด้านดูแรงใช้ได้ ด้านหน้าเหมือนปากนกกระจอกที่ยังกินน้ำทันเพราะมันมีกระจังหน้าที่ดูใหญ่โตและไฟหน้า
เฉี่ยวเรียว มิติ, โลโก้ก็ถูกขยายขนาดให้ดูเด่นและแปลกตากว่ารถแบรนด์อื่นที่พยายามย่อโลโก้ให้เล็กลงและสัดส่วนชวนให้
นึกถึงรถไฟฟ้ามากกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน หากใครชื่นชอบดีไซน์แบบนี้ต้องไปขอบคุณ Dave Marek ผู้อำนวยการ
ออกแบบที่ช่วยรังสรรค์

acura7

แม้ Acura ไม่ได้ระบุว่ารถต้นแบบคันนี้จะขึ้นสายการผลิตได้ตอนไหน แต่ดีไซน์ที่คุณเห็นทั้งหมดจะถูกบรรจุลงในรถยนต์
Acura รุ่นต่อ ๆ ไป

Chevrolet

chevy1

Chevrolet Sonic Minorchange รถเด่นในงานที่ชาวไทยอดสัมผัส!!! เพราะ GM Thailand เลิกผลิต Sonic เสียแล้ว
แต่เราไม่รู้นะว่าคุณผู้อ่านเห็นโฉม Minorchange แล้วมีความรู้สึกอยากให้มาผลิตในไทยอีกครั้งไหม?

ความเปลี่ยนแปลงของมันคือการพยายามทำหน้าตาให้เหมือนกับ 2016 Cruze Inter Version แต่บางสื่ออเมริกันมัก
บอกว่ามันคือ Baby Camaro ซึ่งก็คงต้องให้สายตาคุณผู้อ่านตัดสินเอาละกันว่ามันคล้ายหรือไม่คล้าย Camaro

chevy2 chevy3

หน้าตาของมันดูสุขุมสะอาดขึ้นไม่ได้เป็นวายร้าย แก๊งสเตอร์ข้ามชาติ แถมยังติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติม
ได้แก่ หน้าจอ MyLinkขนาด 7 นิ้วรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto รองรับเครือข่าย 4G LTE, ติดตั้งระบบ
เตือนการชนด้านหน้าและเตือนการเปลี่ยนเลน, ติดตั้งระบบช่วยถอยจอดพร้อมกล้องส่องหลังมีมาให้ทุกรุ่น ก็ถือว่าไม่ได้
จัดเต็มอะไรมากนัก เพราะ Chevrolet Sonic ก็ถือเป็นรุ่นที่ขายค่อนข้างดีอยู่

chevy4

ส่วนภายในห้องโดยสารมีการปรับเปลี่ยนไปมาก เพราะจากเดิมมันถูกออกแบบดูวัยรุ่นมากก็ออกมากลายเป็นดูกลาง ๆ
เหมือนพยายามจะจับตลาดวงกว้างมากขึ้น

อ่านรายละเอียด Chevrolet Sonic 2017 เพิ่มเติมได้ที่นี่

Hyundai

hyundai

Hyundai จัดเต็มจริงอะไรจริง มาแบบนี้กะโปรโมต Ioniq Family ครบทุก 3 ขุมพลังทั้งแบบพลังไฟฟ้า 100%, แบบ
Hybrid และ Plug-in Hybrid คืองานนี้กะถล่มทั้ง Toyota เจ้าพ่อรถ Hybrid, Nissan พยายามที่จะเป็นเจ้าพ่อรถไฟฟ้า
ตลาด ๆ และ GM เจ้าพ่อรถ Series Hybrid ในงานเดียวอย่างสนุกสนานมาก ๆ

ไฮไลต์สำคัญที่โชว์ในงานก็คือ Hyundai Ioniq EV ที่มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพ่วงแบตเตอรี่ลิเธี่ยมมีระยะทางวิ่งสูงสุด 177
กิโลเมตรต่อการชาร์จประจุเพียงแค่ครั้งเดียว

Mazda

mazda1

Mazda MX-5 RF ประกาศศักดารถสปอร์ตหลังคาแข็งเปิดประทุนได้ในงานนี้ แต่ใช่ว่า Mazda จะใจป้ำทำหลังคาเหล็ก
พับเก็บได้ทั้งหมดเหมือนในอดีต เพราะมันทั้งหนัก ทั้งเป็นภาระให้ทีมวิศวกรต้องพัฒนาโครงสร้างตัวถังใหม่ให้แข็งแรงขึ้น
เมื่อคิดสะระตะทั้งหมดแล้ว นั่นจึงเป็นที่มาของ Mazda MX-5 RF

mazda2 mazda3

Mazda MX-5 RF มาในรูปแบบรถสปอร์ตคูเป้ที่เปิด-ปิดหลังคาได้เฉพาะแผงหลังคาเท่านั้น ทำให้ Mazda สามารถ
ควบคุมน้ำหนักตัวถังได้อย่างสมดุลได้โดยไม่ต้องสูญเสียความแข็งแกร่งของโครงสร้างตัวถัง นอกจากนี้มันทำให้ Mazda
ออกแบบรถสปอร์ตหลังคาแข็งได้ลงตัวขึ้น เพราะไม่มีข้อต่อข้อพับซับซ้อนมากนัก

รายละเอียดที่สำคัญยังไม่ระบุแต่เชื่อว่ารายละเอียดพื้นฐานคงไม่แตกต่างจาก Mazda MX-5 มากนัก

อ่านรายละเอียด Mazda MX-5 RF ได้ที่นี่

Mercedes-Benz

mb1 mb2

ตลาดสหรัฐอเมริกาก็เป็นตลาดใหญ่ที่ Mercedes-Benz ต้องรักษามันไว้ นี่ก็เป็นเหตุผลง่าย ๆ ที่ทำไม Mercedes-Benz
GLC ต้องอวดโฉมที่นี่ก่อน

Mercedes-Benz GLC Coupe คือการนำ GLC มาดัดแปลงเป็นเอสยูวีคูเป้ให้ดูคล้าย ๆ GLE Coupe ย่อส่วน จนทำให้มี
เนื้อที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลังน้อยลง 40 มิลลิเมตร

mb3

ลูกค้าสามารถสั่งซื้อระบบช่วงล่าง Air Body Control ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบ Dynamic Body Control ที่จะทำให้
คนขับสามารถเลือกการขับขี่ได้ถึง 5 รูปแบบประกอบไปด้วย Eco, Comfort, Sport, Sport Plus, และ Individual

อ่านรายละเอียด Mercedes-Benz GLC Coupe’ เพิ่มเติมได้ที่นี่

mb4

Mercedes-AMG GLC43 ก็มีให้เลือกด้วยเช่นกันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร 362 แรงม้า แรงบิด 520 นิวตัน
เมตร ทำความเร็ว 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 4.8 วินาที

Mitsubishi

mitsubishi1 mitsubishi2

Mitsubishi Mirage G4 หรือขายในประเทศไทยชื่อ Attrage ก็มาเซอร์ไพร์ซในงานนี้ มันไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก
เปลี่ยนแปลงเพียงแค่รายละเอียดไฟท้ายเท่านั้น, อัพเดทหน้าจอสัมผัสให้รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto
นอกจากนี้ยังอัพเกรดจานเบรกให้ใหญ่ขึ้นและปรับช่วงล่างให้รู้สึกว่าขับแล้วเฟิร์มขึ้น

อ่านรายละเอียด Mitsubishi Mirage G4 Minorchange เพิ่มเติมได้ที่นี่

Nissan

nissan1

2017 Nissan GT-R Minorchange ออกมาเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรอ All New Nissan GT-R ในปี 2020 ปรับโฉม
ภายนอกให้ดูดุขึ้นด้วยด้านหน้าแบบใหม่ V-Motion, ออกแบบฝากระโปรงหน้า, กันชนหน้า, ลิ้นกันชนหน้า และสเกิร์ต
ข้าง ดีไซน์ใหม่ ด้านหลังยังคงเอกลักษณ์เดิมของ GT-R เอาไว้ คือไฟแบบโดนัท 4 วง พร้อมท่อไอเสีย 4 ท่อ

ขุมพลังของ 2017 Nissan GT-R ยังคงใช้บริการเครื่องยนต์ VR38DETTV6 3.8 ลิตร Twin-Turbo 24 วาล์ว เพิ่ม
พละกำลังอีก 20 แรงม้า และแรงบิด อีก 5 นิวตันเมตรเมื่อเทียบกับรุ่นปี 2016 เป็น 565 แรงม้า ที่ 6,800 รอบ/นาที แรงบิด
633 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 6 จังหวะ

nissan2

ภายในห้องโดยสารปรับปรุงจนจำของเดิมเกือบไม่ได้เพราะมันหรูหราขึ้นมาก แถมพยายามสร้างบรรยากาศห้องโดยสาร
ให้ดูเงียบสงบมากขึ้น ที่ต้องมานั่งเสี่ยงทายกันว่าบรรดาสาวกขาแรงจะชอบภายในแบบนี้กันไหม?

อ่านรายละเอียด Nissan GT-R 2017 เพิ่มเติมได้ที่นี่

Subaru

subaru1

กลายเป็นว่า Subaru กลับมา “เล่นใหญ่” ในงาน New York Autoshow 2016 นี้ ด้วยการเปิดตัว All New Subaru
Impreza ที่ดูมองเผิน ๆ ก็น่าประทับใจ แม้ดูนาน ๆ ก็แอบรู้สึกว่าคล้ายของเดิมไม่น้อย แต่เห็นอย่างนี้แล้วไม่ธรรมดา
เพราะของเขาพยายามปรับปรุงใหม่ให้เยี่ยมทั้งภายนอกและภายใน

subaru2

ดีไซน์ภายนอกนำเอาความคมดุของใบหน้านกเหยี่ยวมาใส่มาผสมกับความงดงามของโลหะเหลวที่ดูลื่นไหล เส้นสายองค์
เอวดูมีมิติดีกว่าเดิมเยอะ ภายในห้องโดยสารก็สอดรับกระแสรถ C-Segment ที่จะต้องมีภายในที่ดูดีพรีเมี่ยม (เท่าที่
ต้นทุนจะเอื้ออำนวย)

subaru3

ไฮไลต์สำคัญคือพื้นตัวถังใหม่ Global Platform ที่ Subaru เคลมว่ามันรองรับประสบการณ์การขับขี่โฉบเฉี่ยวและความ
สะดวกสบายขณะขับขี่ที่ดีกว่าเดิม,ลดเสียงรบกวนและการสั่นสะเทือน, ปกป้องความเสียหายจากการชนได้ดีกว่าเดิม

ในขณะเดียวกันมันก็มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและทนต่อการบิดตัวมากกว่าแพลทฟอร์มเก่าราว 70-100% เลยทีเดียว, ติดตั้งเหล็ก
กันโคลงหลังที่มีจุดยึดเชื่อมต่อกับตัวถังช่วยลดการโยนตัวลง 50% เมื่อเทียบกับรถรุ่นเดิม

subaru4 subaru5

จุดขายอีกประการคือ เทคโนโลยี ATV (Active Torque Vectoring) เป็นระบบแบ่งพลังขับเคลื่อนระหว่างล้อฝั่งซ้ายและ
ล้อฝั่งขวา โดยอาศัยการจับเบรกในจังหวะที่มีการกดคันเร่ง สมมติว่าเหาะมาอย่างเร็ว แล้วเข้าโค้งขวาแรงๆจนรถเกิด
อาการหน้าดื้อแล้วคนขับยังกดคันเร่งอยู่ระบบ ATV จะสั่งการให้เบรกหน้าด้านขวาจับ ทำให้เกิดแรงหยุดที่ล้อวงในโค้ง
และกระจายพลังไปที่ล้อวงนอกโค้งและแก้อาการหน้าดื้อได้ ทำงานร่วมกันกับ ระบบ VDC(Vehicle Dynamic Control )
และ TRC (Traction Control)

ถ้าในเมื่อพวกเราเห็น Subaru Impreza ใหม่ดีเยี่ยมขนาดนี้แล้ว ก็คาดหวังว่า Subaru XV ต้องดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน

อ่านรายละเอียด Subaru Impreza Sedan / 5-Doors เพิ่มเติมได้ที่นี่

Toyota

toyota1

อีกไม่นานแบรนด์ Scion ก็ใกล้เลือนหายจากตลาดสหรัฐอเมริกาเลยทำให้ต้องนำรถยนต์บางรุ่นที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์
Scion มารีแบรนด์ใหม่เป็น Toyota ให้มากที่สุด (ยกเว้นบางรุ่นที่ไม่มีอนาคตอย่าง Scion tC)

Toyota GT86 Minorchange นอกจากจะเป็นการนำ Scion FR-S มาแปะตราสามห่วงแล้ว มันก็เป็นโฉม
Minorchange ในคราเดียวกัน มันมีดีไซน์ภายนอกที่ดูดุดันขึ้นด้วยการขั้นออกแบบกันชนที่มีช่องดักลมหน้ายื่นมีขอบ
เสมือนมีจงอยปากอะไรสักอย่างพร้อมกับไฟหน้า LED ลวดลายใหม่ ส่วนบั้นท้ายก็ได้เปลี่ยนไฟท้ายและกันชนท้ายใหม่

toyota2

น่าแปลกใจมิใช่น้อยเมื่อ Toyota กล้านำนวัตกรรมวัสดุบุห้องโดยสารสังเคราะห์ใหม่ที่พวกเขาเรียกวัสดุนี้ว่า ‘GrandLux’
เป็นวัสดุนุ่มนิ่มหุ้มไปทั่วแผงประตู, เสริมความดุดันแบบหรู ๆ ด้วยการเดินด้ายเบาะสีเงิน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนพวงมาลัย
ทรงใหม่อีกด้วย

toyota3

สำหรับเวอร์ชันอเมริกันจะมีการเพิ่มพละกำลังเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรให้แรงขึ้นอีก 5 แรงม้า และเพิ่มแรงบิดอีก 8 ปอนด์ฟุต
และปรับอัตราทดเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเพื่อให้มีสมรรถนะเพิ่มขึ้น

ถือเป็นการปรับปรุงตัวรถที่ไม่ปล่อยให้ชื่อเสียผุดขึ้นมาเลยทีเดียว

อ่านรายละเอียด Toyota 86 เพิ่มเติมได้ที่นี่

toyota4

เมื่อปีก่อนผู้เขียนเคยได้ยินว่า Toyota จะแยกภาพลักษณ์ Prius รุ่นใหม่ออกเป็นสองเวอร์ชัน คือเวอร์ชัน Hybrid ปกติจะ
มีหน้าตาที่ล้ำสมัยแปลกตาและเวอร์ชัน Plug-in Hybrid จะมีหน้าตาที่ดูสปอร์ตไฮเทคขึ้น แต่ไม่นึกว่า Toyota จะกล้า
ลงทุนถึงขนาดนี้

Toyota Prius Prime PHEV มีหน้าตาที่ทำให้ทุกคนอ้าปากค้างเพราะแทบจะนำเอา DNA ของการออกแบบรถสปอร์ต
มายกใส่ในรถ Plug-in Hybrid เริ่มจากไฟหน้า LED แบบ 4 ดวงแยกอิสระล้ำสมัย, กันชนและกระจังหน้าที่ซ้อนมิติพิศวง
จนน่าทึ่ง

toyota5

 

ภายในห้องโดยสารล้ำยุคคล้ายรถยนต์ Tesla ด้วยการนำหน้าจอสัมผัสขนาด Super Tablet มาติดตั้ง มีจุดแปลกอย่าง
หนึ่งคือเบาะนั่งหลังนั่งได้ 2 คนเท่านั้นเพราะออกแบบชุดเบาะนั่งแยกเป็นส่วนตัว ส่วนบั้นท้ายก็ลงทุนออกแบบใหม่

คุณลักษณะพิเศษของ Toyota Prius Prime PHEV คือ เป็นรถ PHEV ที่มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงาน 120 MPGe หรือมี
ระยะทางวิ่งสูงสุด 965 กิโลเมตร ถ้าวิ่งในโหมดรถไฟฟ้ามันจะมีระยะทางวิ่งสูงสุด 35 กิโลเมตร แต่ก็ยังแพ้ Ioniq PHEV
ที่วิ่งได้ถึง 40 กิโลเมตร

ถ้า Toyota ผลักดันตลาด PHEV ซะขนาดนี้ก็ต้องลุ้นว่า Prius Prime จะกลายเป็นรถ Global Car หรือเปล่า?

อ่านรายละเอียด Prius Prime เพิ่มเติมได้ที่นี่