ช่วงต้นยุค 1980’s เคยมีกลุ่มคนที่อาศัยในเมือง Darwin ออสเตรเลีย พยายามขับ Toyota Land Cruiser ลงน้ำข้ามทะเลจากท่าเรือ Darwin ด้วยการต่อ Snorkel ยาว 60 เมตร ก่อนจะล้มเหลวเครื่องดับ เมื่อขับไปได้ 3 กิโลเมตร แม้จะไม่สำเร็จ แต่นั่นได้กลายเป็นตำนานจนสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับทีมงานทีมหนึ่งในปัจจุบันลองทำตาม และประสบความสำเร็จเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา พร้อมทั้งคว้าสถิติระดับโลกไปครอง

 

ทีมงานที่ประสบความสำเร็จในครั้งนี้ ประกอบไปด้วย วิศวกรและนักดำน้ำ ส่วนรถยนต์ที่พวกเขาเลือกใช้คือ 1987 Toyota Land Cruiser ซึ่งมีชื่อเล่นว่า Mudcrab โดยมีที่มาจากสีส้มและเดินไปตามทะเลเหมือนปู ทีมงานยังระบุสาเหตุที่เลือก Land Cruiser รุ่นเก่าเพราะว่ารื้อถอดประกอบง่าย และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยใด เนื่องจากใช้ความเร็วใต้น้ำได้เพียง 1 – 3 กิโลเมตร/ชั่วโมง

สิ่งที่เปลี่ยนไปจากเดิมมีทั้งยกเครื่องยนต์เดิมออก แล้วแทนที่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ ส่วนชุดส่งกำลังยังเป็นของเดิมอยู่ ทั้งหมดได้รับการซีลปิดกันน้ำเข้าด้วยซิลิโคน พร้อมทั้งผ่านทดสอบการป้องกันน้ำเข้าที่แรงดันต่างๆ เรียบร้อย ยางมีขนาด 37 นิ้ว และแทนที่ลมยางด้วยน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่า Toyota Land Cruiser จะไม่ลอยไปตามน้ำ เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว การสร้างสถิติก็เริ่มขึ้นเวลา 9.00 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม 2023

 

จุดเริ่มต้นอยู่ที่เมืองฝั่ง Mandurah ของออสเตรเลีย มีจุดหมายเป็นอีกฝั่งทะเลที่เมือง Darwin ห่างกันออกไป 6.9 กิโลเมตร มีจุดน้ำลึกสุด 30 เมตร ทีมงานจำเป็นต้องเปลี่ยนคนขับใต้น้ำทุก 15 นาที จากทีมงานประดาน้ำ 30 คน เพื่อความปลอดภัย ส่วนอุปสรรคนั้นมีการติดหล่มโคลนบ้าง รวมไปถึงการขับผ่านท่อส่งแก็ส ซึ่งทุกครั้งต้องใช้บอลลูนช่วยยกรถ จนก้าวข้ามอุปสรรคไปได้ โดยที่ใช้เวลาเพิ่มบ้าง แต่ไม่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบ

เดิมทีทีมงานประเมินว่า Mudcrab จะเดินทางถึงอีกฝั่งราว 16.00 น. แต่ด้วยอุปสรรคที่กล่าวไป กำหนดการจึงล่าช้าออกไปจนถึง 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ Toyota Land Cruiser กลับขึ้นบกได้เองอีกครั้ง โดยพวกเขาไม่เพียงแต่สานต่อตำนานที่คนรุ่นเก่าทำค้างเอาไว้เท่านั้น แต่ยังคว้าสถิติระดับโลกไปครองถึงสองรางวัล ประกอบด้วย การขับรถยนต์ใต้น้ำได้เป็นระยะทางไกลที่สุด และ การขับรถยนต์ใต้น้ำในระดับน้ำที่ลึกที่สุด

 

ที่มา: insideevs, carscoops