นับว่าเป็นการขยายสายการผลิตของ SVT Raptor อันเป็นตัวท็อปสุดของกระบะ Full-size อย่าง
Ford F-150 ซึ่งถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพนั้น Raptor มีค่าเท่ากับ Wildtrak ของ Ranger ในบ้านเรา
นั่นเอง เดิมทีนั้นรุ่นท็อปของ F-150 จะสงวนสิทธิ์ไว้ให้รุ่น SuperCab ซึ่งเป็นรุ่นมีแค็บเท่านั้นแต่
ตอนนี้ได้ขยายมายังตัวถัง 4 ประตูหรือ SuperCrew แล้วด้วย

gray-raptor-dunes-action-0190-2500px-1

อุปกรณ์ทุกอย่างนั้นไม่แตกต่างจากกระบะตอนครึ่งพร้อมจุดเด่นประจำรุ่นอย่างตัวถังอะลูมิเนียมเพื่อ
ช่วยลดน้ำหนักไปได้ราว 250 กิโลกรัมและยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมอีกด้วย ในขณะที่ช่วงล่างนั้น
ได้รับการดัดแปลงใหม่หลายจุดจนความยาวระหว่างล้อ 2 ฝั่งนั้นเพิ่มขึ้นอีก 6 นิ้วเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ
ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนไปใช้ล้อขนาด 17 นิ้วพร้อมยาง All-Terrain จาก BF Goodrich และอีก
จุดเด่นของ Raptor คันนี้คือการติดตั้งท่อไอเสียคู่มาเป็นมาตรฐานจากโรงงานเป็นครั้งแรกในรถกระบะรุ่นนี้

gray-raptor-dunes-handheld-0070-2500px-1

รายละเอียดคร่าวๆของงานดัดแปลงช่วงล่างนั้นเป็นชิ้นส่วนจาก FOX Racing Shox ซึ่งสั่งทำพิเศษเพื่อ
รถรุ่นนี้โดยเฉพาะและความหนาของแกนโช๊คอัพนั้นได้เพิ่มขึ้นจาก 2.5 นิ้วเป็น 3 นิ้วส่วนความสูงนั้นอยู่ที่
11.2 นิ้วในด้านหน้าและ 12 นิ้วในด้านหลัง

gray-raptor-interior-pass-side-0017-2500px-1

เครื่องยนต์เบนซิน 3.5 ลิตร V6 EcoBoost ให้กำลังสูงสุด 370 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 รอบ/ นาทีและ
แรงบิดสูงสุด 58.06 กก-ม. (569 นิวตันเมตร) ที่ 2,500 รอบ/ นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ
พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งปรับโหมดการใช้งานได้มากถึง 6 แบบอันประกอบไปด้วย Normal (ทั่วไป),
Street (สปอร์ต), Weather (ฝนหรือหิมะตก), Mud and Sand (โคลนหรือทราย), Baja (ลุยทะเลทราย),
และ Rock (ปีนหิน) สำหรับกำหนดการขายนั้นจะเริ่มในฤดูใบไม้ร่วงเป็นต้นไป

gray-raptor-flagstaff-snow-0074-2500px-1

ที่มา : autoblog