มาตรฐานควบคุมมลพิษ Euro 7 เป็นกระแสข่าวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการเสนอร่างในปี 2021 ซึ่งยกระดับความเข้มงวดสูงจนผู้ผลิตรถยนต์มองว่า นี่อาจเป็นจุดจบของเครื่องยนต์สันดาปกันเลย นำไปสู่การเสนอคลายความเข้มงวดลง ล่าสุด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีของ 8 สมาชิกของสหภาพยุโรปหรือ European Union รวมถึงอิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก และฝรั่งเศส ยังคงแสดงความเห็นว่า Euro 7 ควรลดความเข้มงวดลง

กลุ่มสมาชิก EU ที่เห็นด้วยเรื่องการคลายเข้มงวดให้เหตุผลว่า ไม่ใช่พวกเขาต้องการขวางทางไปสู่อากาศสะอาดเพื่ออนาคต แต่อยากให้ปรับเกณฑ์ตามความเป็นจริงยิ่งขึ้น เพราะถ้าความเข้มงวดของ Euro 7 สูงตามที่เสนอ อาจส่งผลให้บริษัทรถยนต์ต้องนำทุนที่เตรียมไว้ใช้ในการพัฒนา EV มาใช้ในการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปให้ผ่านเกณฑ์ Euro 7 แทน ซึ่งนั่นหมายความว่า นี่อาจไปขวางความก้าวหน้าของเทคโนโลยี EV แทน

 

Adolfo Urso รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมของอิตาลี ให้เหตุผลสนับสนุนเช่นกันด้วยว่าร่าง Euro 7 ที่ปรับแก้ไขใหม่จะสร้างความมั่นคงให้กับผู้ผลิตชิ้นส่วน (Supplier) ให้แบรนด์รถยนต์อิตาลีซึ่งมีจำนวนผลิตต่อปีไม่มากราว 50,000 คันต่อปี อย่าง Ferrari, Lamborghini และ Maserati ให้สามารถอยู่รอดต่อไปได้ นอกจากนั้น แบรนด์ทั้งหมดที่กล่าวไปยังเป็นสัญลักษณ์อิตาลีอีกด้วย

กว่าจะถึงกำหนดบังคับใช้ของ Euro 7 ในปี 2025 ก็น่าจะมีข่าวคราวให้เราติดตามกันต่อไป เพราะตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาแก้ไขปรับเนื้อหา สำหรับมาตรฐาน Euro 6 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน สมาชิก EU เห็นตรงกันว่าให้คงเงื่อนไข และการควบคุมตามเดิมต่อไปในรถยนต์นั่งและรถตู้ แต่จะมีการลดความเข้มเล็กน้อยสำหรับรถบรรทุกใหญ่และรถโดยสาร ทั้งจะมีการเสริมข้อควบคุมเรื่องเขม่า ที่เกิดจากเบรกและยางเพิ่มเติม

 

ที่มา: reuters, carsales


อ่านข่าว Euro 7 ที่อยู่ระหว่างการเสนอร่าง อาจทำให้เครื่องยนต์สันดาปสูญพันธุ์ ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-proposa-of-euro-7-may-lead-to-end-of-ice-new-car/

อ่านข่าว Euro 7 อาจลดทอนความเข้มข้นลง เพื่อลดต้นทุนการพัฒนาให้ผู้ผลิต ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-euro-7-will-be-toned-down/