Toyota ในยุคที่มี Akio Toyoda เป็นผู้นำในตำแหน่ง CEO ถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่าไม่ปรับตัวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้า ทั้งยังเคยได้รับการจัดอันดับโดยรายงานของ InfluenceMap ว่า Toyota ถือเป็นบริษัทที่ขัดขวางความพยายามในการลดมลพิษของภาครัฐ มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก ExxonMobil และ Chevron จนกระทั่งในวันนี้ที่ Toyoda ได้หลีกทางให้ Koji Sato และมาเป็น Chairman แทน แต่เขายังมั่นใจในจุดยืนเดิม

สิ่งที่ทำให้ Toyoda มั่นใจในจุดยืนของตนนั้นคือ การที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก มีอัตราเติบโตลดลงจาก 63% ในปี 2022 เป็น 49% ในปี 2023 คาดว่าเป็นผลหลักมาจากผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอเมริกันอย่าง GM และ Ford ที่ชะลอการผลิตรถกระบะขุมพลังไฟฟ้า โดย Toyoda ระบุว่าในที่สุด ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นได้ตระหนักเสียทีว่า EV ไม่ใช่หนทางเดียวที่เหลืออยู่ในการลดมลพิษ ตามที่เขาเชื่อมั่นมาโดยตลอด

 

Toyoda กล่าวย้ำว่า “มีหนทางมากมายในการก้าวข้ามอุปสรรค เพื่อเข้าถึงการเป็นกลางทางคาร์บอน” ก่อนระบุว่า เขาจะยังพูดในสิ่งที่เขามองว่าเป็นความจริงต่อไป เนื่องจากต้องมีใครซักคนที่นำสารไปให้อุตสาหกรรมรับรู้ว่า สิ่งใดที่จะทำให้ผู้ซื้อรถยนต์มีความสุขมากที่สุด ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “ถ้ากฎเกณฑ์ออกแบบมาตามแนวคิดอุดมคติ ผู้บริโภคทั่วไปนี่ละที่จะเดือดร้อน”

แม้จุดยืนของ Toyoda จะหนักแน่น แต่บริษัทไม่ได้ตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับ EV ขนาดนั้น โดยในงาน Japan Mobility Show ที่เริ่มขึ้นไม่กี่วันก่อน บริษัทได้จัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบรุ่นใหม่สองคันซึ่ง Toyoda ระบุว่าเป็นผลจากการสั่งสมประสบการณ์นานนับทศวรรษ รวมไปถึงความล้มเหลวในอดีต ผสานกับความร่วมมือของผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่มีมาโดยตลอด เพื่อหาผลลัพธ์ของสิ่งที่เป็นไปได้

 

ที่มา: carscoops, jalopnik