หาก GLA 200 แรงไม่พอ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC คือคำตอบพร้อมพกพากำลังมาสูงกว่า 300 แรงม้า และยังถือเป็นสมาชิกลำดับที่ 7 ในตระกูลน้องเล็กที่มีพื้นฐานมาจาก A-Class ของครอบครัว AMG พร้อมตอบโจทย์การใช้งานทั้งในด้านสมรรถนะ และประโยชน์ใช้สอย

Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC ออกแบบมาโดยคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ของตัวแรงค่ายดาวสามแฉกทั้ง กระจังหน้าแนวตั้ง และช่องดักลมกันชนหน้าขนาดใหญ่ พร้อมตกแต่งรอบคันด้วยสีเงินทั้งในช่องดักลมและมือเปิดประตู ด้านหลังเพิ่มดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์หลังคา ส่วนล้อมีขนาด 19 – 21 นิ้ว ปิดท้ายด้วยท่อไอเสียปลายเดี่ยวออกสองฝั่ง และกระจกหน้าต่าง – กระจกบานหลังกรองแสงสีเข้ม

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนัง ARTICO สีดำ / สีขาว และผ้า DINAMICA สีดำตัดด้วยการเดินด้ายและเข็มขัดนิรภัยสีแดง พวงมาลัยเป็นแบบ AMG ท้ายตัด ระบุตำแหน่ง 12 นาฬิกา ด้านการแสดงผลมีระบบ MBUX ปรับตั้งค่าการแสดงผลได้หลายรูปแบบทั้ง Classic, Sport และ Supersport นอกจากนั้น ยังสามารถประเมินและเก็บข้อมูลการขับขี่ เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาทักษะการขับขี่ต่อไป

ขุมพลังของ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง รหัส M260 ขนาด 2.0 ลิตร 1,991 ซีซี. เทอร์โบ กำลังสูงสุด 306 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 3,000 – 4,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ กระจายแรงบิดแบบแปรผัน AMG Performance 4MATIC ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ช่วงล่างด้านหน้าของ Mercedes-AMG GLA 35 4MATIC เป็นแบบ McPherson strut ส่วนด้านหลังเป็นแบบ 4-link ทั้งยังสามารถติดตั้งระบบ AMG RIDE Control เพื่อปรับการทำงานของช่วงล่างได้อีกสามรูปแบบ ส่วนระบบเบรกเปลี่ยนไปใช้คาลิปเปอร์สีเงิน ตัวอักษรสีดำ มีขนาด 4 สูบ พร้อมจานขนาด 350 มิลลิเมตร ในด้านหน้า และ คาลิปเปอร์ขนาด 1 สูบ พร้อมจานขนาด 330 มิลลิเมตร ในด้านหลัง

พวงมาลัยเป็นแบบอัตราทดแปรผัน ปรับเปลี่ยนตามความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ ส่วนรูปแบบการขับขี่สามารถปรับได้ห้ารูปแบบ ผ่านระบบ AMG DYNAMIC SELECT ประกอบด้วย Slippery, Comfort, Sport, Sport + และ Individual ซึ่งไม่ได้มีผลต่อการตอบสนองด้านการขับขี่ แต่ยังมีผลถึงการคำรามของท่อไอเสียด้วย

ที่มา: Daimler