พร้อมออกจำหน่ายแล้วในบ้านเกิด สำหรับรถยนต์ขุมพลังไฮโดรเจนจากค่ายสามห่วงอย่าง Toyota Mirai นับเป็น generation ที่สองที่พลิกดีไซน์การออกแบบจากรุ่นแรกแบบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ส่วนข้อมูลจากทางการนั้นเปิดเผยเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2020 ด้านรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,975 x 1,885 x 1,470 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,920 มิลลิเมตร

เทียบกับรุ่นเดิม จะพบว่ารุ่นใหม่ ยาวขึ้น 85 มิลลิเมตร, กว้างขึ้น 70 มิลลิเมตร, เตี้ยลง 65 มิลลิเมตร และ ระยะฐานล้อยาวขึ้น 140 มิลลิเมตร

ภายนอกของ Toyota Mirai ออกแบบภายใต้แนวคิด Silent Dynamism ให้ดูแกร่ง กว้าง และ มั่นคง เสริมภาพลักษณ์ด้วยโครงสร้างด้านหน้ายาวและต่ำ พร้อมล้อขนาดใหญ่ ไฟหน้าเป็นแบบ Bi-Beam LED ไฟท้ายเป็นแบบเชื่อมต่อยาวตลอดแนว ฝาท้ายยกระดับให้มีสปอยเลอร์ในตัว ส่วนกันชนหลังมีดิฟฟิวเซอร์ในตัวเช่นกัน สำหรับสีตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 8 สี ดังนี้

  • สีน้ำเงิน Force Blue Multiple Layers (สีที่พัฒนาขึ้นใหม่)
  • สีขาว Precious White Pearl (สีใหม่)
  • สีเทา Precious Metal (สีใหม่)
  • สีแดง Emotional Red II (สีใหม่)
  • สีดำ Precious Black Pearl
  • สีเงิน Precious Silver
  • สีน้ำเงิน Dark Blue Mica
  • สีดำ Black

ห้องโดยสารรองรับ 5 ที่นั่ง ออกแบบให้สร้างบรรยากาศการขับขี่ที่สนุกให้ผู้ขับ ไปพร้อมกับความผ่อนคลายของผู้โดยสาร การตกแต่งมีทั้งวัสดุ metallic สี copper และ บุนุ่ม มาตรวัด TFT มีขนาด 8 นิ้ว ส่วนหน้าจอสัมผัสกลางแดชบอร์ดเป็นแบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว สำหรับโทนสีในห้องโดยสารหลักมีทั้งดำ และ ขาวตัดน้ำตาลเข้ม

ขุมพลังของ Toyota Mirai ขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน ประกอบด้วย ขุมพลัง Fuel Cell กำลังสูงสุด 174 แรงม้า และ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 182 แรงม้า ที่ 6,940 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,267 รอบ/นาที ทำความเร็วสูงสุดได้ราว 175 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 750 – 850 กิโลเมตร ส่วนถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนมี 3 ถัง รวมความจุทั้งหมด 141 ลิตร

platform ที่ใช้เป็นแบบ TNGA-L ขับเคลื่อนล้อหลัง มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำและยังกระจายน้ำหนัก ระหว่างด้านหน้าและหลังในสัดส่วน 50:50 ออกแบบมาให้รองรับการพลังงานทางเลือกโดยเฉพาะ ทั้งยังเพิ่มวัสดุซับเสียง เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอีกระดับของความเงียบ สำหรับระบบความปลอดภัยมี Toyota Safety Sense ที่น่าสนใจ มีรายละเอียดดังนี้

  • Intersection Collision Support ระบบลดความเร็วในขณะที่กำลังขับขี่ข้ามทางแยก แล้วพบยานพาหนะสวนหรือคนเดินถนน มาจากฝั่งตรงข้าม
  • Steering Assist ระบบหน่วงพวงมาลัยเพื่อหักหลบ หากตรวจพบคนเดินอยู่บนถนน
  • New Radar Cruise Control Function ระบบล็อคความเร็วโดยอัตโนมัติ แบบแปรผันตามรถยนต์คันหน้า เพิ่มความสามารถในการลดความเร็วได้เอง ในขณะที่กำลังเข้าโค้งและเร่งความเร็วใหม่
  • Driver Emergency Stop Assist หากพบว่าไม่มีการตอบสนองของผู้ขับขี่จากพวงมาลัย ระบบจะลดความเร็ว เพื่อเข้าจอดอย่างปลอดภัย

Toyota Mirai พร้อมออกจำหน่ายแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่นหลัก คือ G และ Z พร้อมทางเลือกการตกแต่ง 3 package รวมทั้งหมดเป็น 5 รุ่นย่อย สนนราคาจำหน่ายที่นั่น โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 7,100,000 – 8,050,000 เยน (ราว 2,049,000 – 2,324,000 บาท)

ที่มา: Toyota