Audi A3 Sportback มีรุ่นที่ใช้ขุมพลังทางเลือกแก็สธรรมชาติ CNG ในรหัส 30 g-tron กันแล้ว ซึ่งยังคงความเป็น Audi ที่หน้าตาสวยใสพร้อมลูกเล่นมากมายทุกประการ เสริมด้วยความประหยัดเชื้อเพลิงและมลพิษต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อลูกค้าชาวยุโรป โดยในเยอรมนีมีปั๊มแก็ส CNG ทั่วประเทศราว 850 แห่ง

Audi A3 Sportback 30 g-tron สามารถเลือกแนวทางการตกแต่งภายนอกและภายใน ได้อย่างละสามแบบ มีอุปกรณ์มาตรฐานเป็นไฟหน้า LED พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10.1 นิ้ว, พวงมาลัยหุ้มหนัง และ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่าง Audi pre sense front ส่วนพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านหลังอยู่ระหว่าง 280 – 1,100 ลิตร

ขุมพลังของ Audi A3 Sportback 30 g-tron เป็น เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ อัตราส่วนกำลังอัด 12.5 : 1 กำลังสูงสุด 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 1,400 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ S tronic 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อคู่หน้า ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 9.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 211 กิโลเมตร/ชั่วโมง

หากมีแก็สเต็มถังสามารถชับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 495 กิโลเมตร และ ยังมีถังเชื้อเพลิงเบนซินติดตั้งอยู่หน้าเพลาขับหลังความจุ 9 ลิตร ไว้ขับขี่เพิ่มด้วย โดยปกติระบบจะใช้เชื้อเพลิง CNG อย่างเดียว ส่วนเชื้อเพลิงเบนซินจะใช้ภายใต้บางสภาวะเท่านั้น โดยผู้ขับขี่จะไม่รู้สึกเมื่อมีการเปลี่ยนประเภทเชื้อเพลิง และจะมีการแสดงค่าบนมาตรวัดด้วย ส่วนจุดเติมเชื้อเพลิงทั้งสองประเภท จะรวมเอาไว้ในจุดเดียวกัน

Audi A3 Sportback 30 g-tron มีถังแก็สทั้งหมด 3 ถัง โดยถังแรกมีความจุราว 4 กิโลกรัม ติดตั้งหน้าถังเชื้อเพลิง ส่วนอีกสองถังติดตั้งใต้พื้นที่บรรทุกสัมภาระ ความจุถังละ 7 กิโลกรัม แต่ละใบน้ำหนัก 26 กิโลกรัม วัสดุมีสองชั้น ชั้นนอกเป็น glass fiber-reinforced polymer (GFRP) ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นสีขาว หากมีรอยรั่ว

Audi A3 Sportback 30 g-tron เปิดตัวเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2020 มีกำหนดการออกจำหน่ายที่เยอรมนี และประเทศอื่นทางยุโรป ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ หรือ ราวเดือนกันยายน – ธันวาคม สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นซึ่งยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 30,705.88 ยูโร (ราว 1,139,000 บาท)

ที่มา : Audi