ค่ายสี่ห่วงพร้อมเอาใจสายลุยด้วยการเปิดตัว Audi Q8 e-tron edition Dakar ที่นำ Q8 55 e-tron quattro มาตกแต่งพิเศษรอบคัน ภายนอกสูงขึ้นจากเดิม 31 มิลลิเมตร จากการเปลี่ยนไปใช้ยาง all-terrain แบบ General Grabber AT3 ส่วนสีตัวถังให้เลือก 3 สี ประกอบด้วย สีเบจ Siam Beige Metallic, สีดำ Mythos Black Metallic และ สีเทา Magnetic Gray

Audi Q8 e-tron edition Dakar มาพร้อมกับกระจังหน้า Singleframe ที่มีแถบไฟส่องสว่างด้านบน ส่วนขอบพ่นสีเดียวกับตัวถัง ชายล่างตัวถังตัดด้วยสีดำ เมื่อเปิดประตูจะมีโลโก้ฉายข้อความ edition Dakar ลงพื้น โป่งล้อหน้าหลังขยายให้กว้างขึ้นรองรับล้อใหม่ ส่วนแร็คหลังคารองรับน้ำหนัก 40 กิโลกรัม นอกจากนั้น ยังมีล้ออีกชุดขนาด 20 นิ้ว ลาย 5 ก้าน V พร้อมยางสำหรับฤดูร้อนให้ลูกค้ามาอีกชุด เผื่อเปลี่ยนด้วย

 

ห้องโดยสารของ Audi Q8 e-tron edition Dakar ตกแต่งแบบ S line ด้วยเบาะทรงสปอร์ตหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์และผ้า Dinamica เสริมด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตและแป้นเหยียบสแตนเลส รอบคันตกแต่งด้วยสีดำ, อะลูมิเนียมด้าน และเดินตะเข็บด้ายสีแดง ส่วนกราฟฟิกแสดงผล MMI background และไฟปรับอารมณ์ Ambient Lighting ยังตกแต่งสำหรับรุ่นนี้มาโดยเฉพาะ

ขุมพลังของ Audi Q8 e-tron edition Dakar คงเดิมกับระบบไฟฟ้า EV ประกอบด้วย แบตเตอรี่ความจุ 106 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 408 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 664 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 5.8 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ขับขี่เป็นระยะทางสูงสุดได้ 487 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP

 

Audi Q8 e-tron edition Dakar มีมุมไต่ 20 มิลลิเมตร ส่วนมุมจาก 26 มิลลิเมตร สามารถลุยน้ำความลึก 300 มิลลิเมตร ช่วงล่างเป็นระบบถุงลม จะลดความสูงลงเองเมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น โดยเตี้ยลง 15 มิลลิเมตร ที่ความเร็ว 85 กิโลเมตร/ชั่วโมง, เตี้ยลง 17 มิลลิเมตร ที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และ เตี้ยลง 13 มิลลิเมตร ที่ความเร็ว 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง

สำหรับผู้ที่ชอบความพิเศษยังสามารถสั่ง wrap ลายพิเศษรอบคันได้ โดยดีไซน์จะได้แรงบันดาลใจจาก RS Q e-tron จับคู่กับสีดำ Mythos Black Metallic เท่านั้น จำกัดจำนวนการผลิต 99 คัน Audi Q8 e-tron edition Dakar เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2024 และจะเริ่มรับคำสั่งซื้อในไตรมาสแรกปี 2024 สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นในเยอรมนี โดยที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยราว 120,000 ยูโร (ประมาณ 4,558,000 บาท)

 

ที่มา: Audi