BMW i8 รถยนต์ขุมพลัง Plug-in Hybrid คันแรกของค่ายใบพัดฟ้าขาว กำลังจะมาถึงบทสุดท้ายแล้ว หลังบริษัทประกาศกำหนดยุติการผลิตในเดือนหน้า ถือเป็นการปิดตำนานรถสปอร์ต Plug-in Hybrid คันแรกของโลก ที่พัฒนาโดยคำนึงถึงความยั่งยืนตั้งแต่ขึ้นแรก ในวันนี้เราจึวจะมาสรุปความเป็นมา ของสปอร์ตรุ่นดังกล่าวให้ฟังกัน

BMW i8 เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน IAA Motor Show 2013 พร้อมกับ BMW i3 เพื่อเป็นการปูทางให้กับรถยนต์ที่ใช้ขุมพลังทางเลือกของค่าย จนถึงปัจจุบันที่ BMW มีรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าขับเคลื่อน ครบเกือบทุก segment และแม้ว่า i8 จะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก แต่สมรรถนะไม่เป็นรองใครใช้โครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ผสานกับขุมพลังเทอร์โบพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า จึงได้ทั้งการขับขี่ชั้นยอด และความประหยัดเชื้อเพลิง

BMW i8 ยังเป็นรถยนต์รุ่นแรกของค่ายที่ใช้ไฟหน้าแบบ Laser และยังเป็นรุ่นแรกที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 3 สูบ อีกด้วย ต่อมาในปี 2017 ได้เปิดตัวรุ่น Roadster หลังคาเปิดประทุน มาพร้อมหลังคาผ้าใบที่ใช้กลไกอะลูมิเนียมผลิตจากเทคโนโลยี 3D printing เป็นครั้งแรก ในโอกาสนั้น บริษัทยังปรับปรุงขุมพลังของรุ่นหลังคาแข็งด้วย

  • เพิ่มความจุ cell แบตเตอรี่ จาก 20 เป็น 34 Ah สามารถกักเก็บพลังงานได้ 11.6 kWh
  • เพิ่มกำลังสูงสุดของมอเตอร์ไฟฟ้า จาก 12 เป็น 143 แรงม้า

ความสำเร็จของ BMW i8 ยืนยันด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 20,000 คัน หลังเริ่มออกจำหน่ายในปี 2014 ทั้งยังเป็นเจ้าตลาดอันดับหนึ่งในกลุ่ม รถสปอร์ตขุมพลังทางเลือกเป็นเวลาหลายปี และคว้ารางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมหลายสาขามาแล้วทั่วโลก ทั้งนี้ ทุกอย่างที่กล่าวมากำลังจะกลายเป็นตำนาน เพราะ BMW i8 จะยุติการผลิตในช่วงกลางเดือนเมษายน 2020 ก่อนจะรับตำแหน่งหนึ่งในรถยนต์ Classic ระดับตำนานในอนาคต

ขุมพลัง Powertrain

เครื่องยนต์เบนซิน B38K15 BMW TwinPower Turbo 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1,499 ซีซี. High Precision Direct Injection, VALVETORNIC พ่วงเทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.5 x 82.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 9.5 : 1 กำลังสูงสุด 231 แรงม้า ที่ 5,800 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 3,700 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous electric motor 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 142 แรงม้า ที่ 4,800 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 0-2,500 รอบ/นาที โดยที่มอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรก ทำงานผสานกับเครื่องยนต์ส่งกำลังขับเคลื่อนไปยังล้อคู่หน้า ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สอง ทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่

รวมการทำงานของเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้กำลังสูงสุด 374 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 570 นิวตันเมตร ที่ 3,700 รอบ/นาที แบตเตอรี่ lithium-ion 11.6 kWh Cell Capacity 34 Ah ความจุถังน้ำมัน 30 ลิตร (หรือเพิ่มเป็น 42 ลิตร Optional)

ส่งกำลังด้วยเกียร์ อัตโนมัติ 6 จังหวะ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 2-Stage ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยที่เครื่องยนต์ส่งกำลังลงล้อคู่หลัง และ มอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังลงล้อคู่หน้า ปล่อย CO2 ที่ 51 g./km.

ที่มา: BMW