แม้ค่ายใบพัดฟ้าขาวจะมุ่งพัฒนารถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง Hydrogen พร้อมตั้งเป้าออกจำหน่ายในช่วงกลางทศวรรษนี้ ล่าสุดมีการนำ BMW iX5 Hydrogen ซึ่งขับขี่ได้ไกล 500 กิโลเมตร และใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงราว 3 – 4 นาที ออกทดสอบในหลายประเทศ แต่ใช่ว่า BMW จะไม่ให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทคาดการณ์ว่าอาจบรรลุเป้าหมายยอดขาย EV เกินครึ่ง เร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ตอนแรก

 

เดิมที BMW คาดการณ์ว่า EV จะมีสัดส่วนยอดขายครึ่งหนึ่งจากยอดขายรถยนต์ทั้งหมดในปี 2030 แต่ตอนนี้บริษัทมั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายไวกว่านั้นอย่างแน่นอน หลังยอดขาย EV ของค่ายใบพัดฟ้าขาวและ MINI ในปีที่ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นสองเท่า พร้อมกับตั้งเป้าไว้ว่า EV จะมีสัดส่วน 15% ภายในปีนี้ ก่อนจะเพิ่มเป็น 20% ในปี 2024, 25% ในปี 2025 และมากกว่า 30% ในปี 2026

อย่างไรก็ตาม BMW ยังไม่ประกาศช่วงเวลาที่จะละทิ้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนด์ EV เต็มรูปแบบ แต่มีการกำหนดให้แบรนด์ย่อยอย่าง MINI และ Rolls-Royce ให้เป็นแบรนด์ EV ในปี 2030 หรือ 5 ปี ก่อนยุโรปจะแบนการจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ในปี 2035 ซึ่งต้องติดตามต่อว่าจะมีการอนุโลมให้รถยนต์ที่ใช้ e-fuel ออกจำหน่ายได้หรือไม่

 

ที่มา: reuters, carscoops


อ่านข่าว EU เลื่อนกำหนดวันลงมติชี้ชะตา แบนเครื่องยนต์สันดานภายในออกไปก่อน หวั่นทำคนตกงาน ได้ที่

>> https://www.headlightmag.com/news-eu-postponed-voting-date-for-deciding-ice-car-ban-2035/