รัฐบาลจีนได้มอบเงินสนับสนุนผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมหาศาลระหว่างปี 2009 – 2022 เพื่อส่งเสริมให้รถยนต์พลังงานใหม่ ซึ่งครอบคลุมถึง EV, PHEV และ Fuel-Cell มีความแพร่หลายดังที่เห็นในทุกวันนี้ และพิสูจน์ได้จากการที่ยอดขายของรถยนต์ในกลุ่ม NEV พุ่งแซงรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปในจีน ทั้งนี้ ดูเหมือนว่า audit พึ่งจะตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง และพบความผิดปกติในการทำจ่ายเงินสนับสนุน ให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน โดยมีสองเจ้าใหญ่อย่าง BYD และ Chery ด้วย
กระทรวงอุตสาหกรรมและ IT ของจีนได้เผยแพร่รายงานใจความว่าฝ่าย audit ได้ตรวจพบความผิดปกติ ของการทำจ่ายเงินสนับสนุนให้กับผู้ผลิตรถยนต์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ย้อนหลังถึงปี 2020 และพบว่าเกือบ 60% ของยอดขอเบิกเงินอุดหนุนรถยนต์กลุ่ม NEV หรือจำนวน 21,725 คัน อันที่จริงแล้วไม่ผ่านเกณฑ์ได้รับเงินสนับสนุน โดยคิดเป็นเงินมูลค่ารวมกัน 864.9 ล้านหยวน (ราว 3,900 ล้านบาท) ทั้งยังมีการระบุด้วยว่าจะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มของการทำจ่ายในปี 2021 – 2022
ตัวเลขดังกล่าวแบ่งเป็นของ BYD จำนวน 4,973 คัน และ Chery จำนวน 7,663 คัน เมื่อสื่อสอบถามไปยังทางกระทรรงฯ รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ทั้งสองค่าย ต่างยังไม่ได้ความคิดเห็นกลับมา อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุว่าผู้ผลิตรถยนต์ที่เบิกเงินอย่างไม่ถูกต้อง จะต้องชำระคืนเมื่อใดและมีค่าปรับส่วนต่างหรือไม่ แต่ภาครัฐเคยระบุก่อนหน้าว่า ผู้ผลิตรถยนต์ที่เบิกเงินอุดหนุนไปไม่ถูกต้อง จะต้องชดใช้เงินคืนทั้งหมด
เรียกได้ว่าเป็นจังหวะที่ไม่ค่อยดีเท่าใดนัก สำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติจีน ที่ต้องชำระเงินอุดหนุนคืนในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ยอดขายรถยนต์ตกต่ำ โดยมีหลายปัจจัยลบซ้อนกันไม่ว่าจะเป็นการผลิตมากเกินความต้องการของตลาด ประกอบกับสงครามราคาที่เฉือนกำไรต่อหน่วยจนลดน้อยลง ซึ่งไม่ได้มีผลต่อระดับผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่ยังมีผลไปถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ และผู้แทนจำหน่ายอีกด้วย
ที่มา: reuters
