BYD เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะแย่งส่วนแบ่งทางตลาดในยุโรป จากส่วนแบ่ง 1.1% ในปี 2023 ให้สูงขึ้นสามเท่าในปี 2025 แต่ดูเหมือนว่าบริษัทจะพบกับความท้าทายครั้งใหญ่ หลังมีรายงานเรื่องคุณภาพรถยนต์ส่งออกไม่ใช่เฉพาะในยุโรปเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงในหลายประเทศ ซึ่งพบปัญหาแตกต่างกันไปทั้งงานประกอบตัวถัง หรือแม้กระทั่งพบราในห้องโดยสาร

The Wall Street Journal รายงานว่าพบปัญหารถยนต์ส่งออกจาก BYD หลากหลายรูปแบบ โดยต่างกันไปในแต่ละประเทศ อย่างในญี่ปุ่นนั้นพบปัญหารอยขีดข่วน, อิสราเอลพบปัญหาแร็คหลังคางอผิดรูป และยังมีการกล่าวถึงประเทศไทยด้วยว่า พบปัญหางานสีตัวถังและพลาสติกหลุดลอก ซึ่งทั้งหมดนี้นำไปสู่รายงานที่ว่า BYD ทำใจแล้วว่าอาจพลาดเป้ายอดขายส่งออกซึ่งภายในตั้งเอาไว้ 400,000 คัน ในปี 2024

 

สำหรับปัญหารถยนต์ส่งออกที่ดูจะท้าทาย BYD ที่สุดเห็นจะเป็นสถานการณ์ในยุโรป เนื่องจากตรวจพบว่ามีเชื้อราในห้องโดยสารในรถยนต์เหล่านี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบราได้ ในรถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งภายใต้สภาพอับชื้นเป็นเวลานาน แต่นั่นเป็นหลักฐานบ่งบอกว่า BYD อาจไม่ได้ทำการฆ่าเชื้อก่อนส่งรถยนต์ออกมาจากโรงงาน หรือเก็บรักษารถยนต์อย่างถูกต้อง จนทำให้พบปัญหาดังกล่าว

มีรายงานด้วยว่าสต็อกรถยนต์ BYD ในยุโรปอาจแตะระดับ 10,000 คัน ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แถมใบอนุญาตจำหน่ายที่นั่นกำลังจะหมดอายุลงด้วย จนมีข่าวว่าผู้บริหาร BYD เองเริ่มวิตกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จากการไม่ได้วางแผนให้รอบคอบด้านเอกสาร ซึ่งอาจไม่มีผลเสียใดกรณีที่ส่งออกในจำนวนน้อย แต่ไม่ใช่กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในยุโรปเพราะเป็นการดำเนินธุรกิจขนาดใหญ่ ส่วนทางออกจะเป็นอย่างไรนั้น เป็นสิ่งที่ต้องติดตาม

 

ที่มา: express, insideevs