Chery ได้เปิดเผยภาพและข้อมูลบางส่วนของรถยนต์ Sedan ระดับเรือธงพิกัดกลางมาทางใหญ่ ในชื่อ Chery Fulwin A9L เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2025 ก่อนถึงกำหนดการเปิดตัวเต็มรูปแบบในวันที่ 8 กรกฎาคม และมีให้เลือกด้วยกัน 6 สีตัวถัง ประกอบด้วย สีดำ, สีแดง, สีเทาดำ, สีเขียว, สีเทา และ สีเงิน ในส่วนของมิติตัวถัง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 5,018 x 1,965 x 1,500 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 3,000 มิลลิเมตร

 

Chery Fulwin A9L มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศ 0.23 Cd ไฟหน้าเป็นแบบโคมเพรียวขนาดเล็ก เชื่อมต่อหากันผ่านกระจังหน้าที่แบ่งเป็นสามชั้น กันชนหน้าดีไซน์สะอาดตามีเพียงช่องลมแนวตั้งสองฝั่ง และช่องลมด้านล่าง ชายล่างตัวถังรอบคันตัดด้วยสีดำและแถบโครเมี่ยม ไฟท้ายเป็นแถบไฟ LED ที่เชื่อมต่อหากันตลอดแนว สปอยเลอร์หลังเป็นแบบแบบ Active ที่ยกระดับด้วยระบบไฟฟ้า สร้างแรงกดได้ 425 N ที่ความเร็ว 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยล้อลายก้านปัดเงาขนาด 20 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 245/45

ห้องโดยสารของ Chery Fulwin A9L มาในรูปทรงตัว T ซึ่งแยกด้านหน้าออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจนผ่านคอลโซลกลาง ที่ทอดตัวยาวมาจากแดชบอร์ด ส่วนสีภายในผสานการตกแต่งด้วยสีครีมและสีน้ำตาลเข้าด้วยกัน พวงมาลัยเป็นแบบท้ายตัด มาตรวัดเป็นแบบดิจิตอล ส่วนหน้าจอสัมผัสมีขนาด 15.6 นิ้ว ทำงานร่วมกับเครื่องเสียง 23 ลำโพง เบาะหลังมีทั้งแบบโซฟายาวและแบบแยก โดยรุ่น 4 ที่นั่ง จะมีตู้เก็บอุณหภูมิที่ควบคุมได้ระหว่าง -18 ถึง 55 องศาเซลเซียส

 

ขุมพลังของ Chery Fulwin A9L เป็นแบบ PHEV มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 154 แรงม้า มีค่าประสิทธิภาพเชิงความร้อน 45.79% ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ส่วนแบตเตอรี่เป็นแบบ lithium iron phosphate ขนาด 33.67 kWh ในส่วนของพละกำลังรวม รุ่นขับเคลื่อนสองล้อ กำลังรวมสูงสุด 369 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 530 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังรวมสูงสุด 630 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 854 นิวตันเมตร เร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 4 วินาที

ส่วนความเร็วสูงสุดทำได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง Chery Fulwin A9L ขับขี่ด้วยไฟฟ้าอย่างเดียวเป็นระยะทางสูงสุด 260 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้น้ำมันเชื้อเพลิงด้วย จะขับได้ไกลสุด 2,000 กิโลเมตร การชาร์จ DC ใช้เวลาในการชาร์จไฟจากระดับแบตเตอรี่ 30 – 80% ภายใน 14.5 นาที ในส่วนของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ทำงานร่วมกับเซนเซอร์ LiDAR, เรดาร์คลื่นความถี่ 3 ม.ม., Ultrasonic 12 จุด และกล้องความละเอียดสูง 118 megapixel สำหรับราคา pre-sales อยู่ระหว่าง 159,900 – 229,900 หยวน (ราว 724,000 – 1,041,000 บาท)

 

ที่มา: carnewschina, autohome